เวินหนิงมองไปที่เขารู้สึกเป็นห่วง รู้สึกผิดด้วย “นายอยากขยับ รีบขึ้นรถเลย”
พูดไปด้วย อันเฉินก็เล่นฝีเท้าเร็วกว่าเดิม รีบส่งตัวลู่จิ้นยวนขึ้นรถ เวินหนิงเดินตามมาข้างหลัง ส่งตัวคุณแม่ขึ้นรถแล้วก็นั่งอยู่ข้างๆรถเข็น
ถึงแม้ ตอนนี้เธอจะทำอะไรไม่ได้ แล้วช่วยอะไรไม่ได้ด้วย แต่เธอก็อยากจะกุมมือคุณแม่ไว้ แต่ความรู้สึกที่ได้ไม่เหมือนกับในความทรงจำเลย ตอนนี้มือของคุณแม่ผอมมากเย็นมาก จนเหลือแค่กระดูก บนนั้นก็มีรอยเข็มเต็มไปหมด
กี่ปีนี้มา ท่านก็เอาแต่นอนติดเตียงแล้ว ใช้ชีวิตอย่างนี้
“คุณแม่ ไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ อีกหน่อยหนูจะไม่ให้คุณแม่ลำบากแบบนี้อีก”
เวินหนิงนั่งอยู่ข้างๆ แล้วเอาแต่พึมพำ ลู่จิ้นยวนมองเห็นท่าทางที่รู้สึกผิดของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะปลอบใจ “เรื่องนี้จะโทษเธอไม่ได้ ตระกูลเวินทำเกินไป”
ไม่พูดถึงยังดี แต่พอพูดถึงตระกูลเวิน เวินหนิงก็อยากเอามีดไปฆ่าพวกเขาทันที
พวกเขาทำแบบนี้กับคนป่วยที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ยังไง
สีหน้าของลู่จิ้นยวนก็ไม่ดีมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเจ็บแผลบนร่างกายมาก อีกส่วน คนตระกูลเวินเอาแต่ทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขาเริ่มหมดความอดทน
ถ้าไม่จัดการตัวปัญหานี้ซะ อีกหน่อยพวกเขาก็ต้องมาหาเรื่องเวินหนิงแน่นอน แล้วในระยะยาวนี้ เขาก็ไม่มีทางอยู่กับเธอที่ต่างประเทศได้
ดูเหมือนว่า ต้องรีบจัดการแล้วล่ะ
ในสายตาของลู่จิ้นยวนมีความเยือกเย็น จากนั้น เขาก็หันมองไปทางอันเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ “คุมตัวคนพวกนั้นไว้ได้หรือยัง?”
นักเลงพวกนั้นดูเหมือนจะเตรียมตัวมาดี ในเมื่อกล้าลงมือ งั้นเขาก็จะไม่ไหวหน้าเหมือนกัน
“จับตัวได้หมดแล้วครับ อีกไม่นานก็จะสืบได้ครับว่าใครเป็นคนบงการ”
อันเฉินรีบรายงานทันที ความจริง สืบเรื่องได้ชัดเจนแล้ว แต่ว่า เขาไม่อยากเอ่ยพูดต่อหน้าเวินหนิงว่าเป็นคนของตระกูลเวิน แบบนี้ อาจจะดูเร็วร้ายกับเธอเกินไป
ลู่จิ้นยวนพยักหน้า ทันใดนั้น รถพยาบาลก็จอดลงที่โรงพยาบาลที่เขาเตรียมไว้ เวินหนิงลงรถตามบุคลากรทางแพทย์ไปแล้วส่งตัวคุณแม่เข้าไปตรวจเช็คร่างกาย จนกระทั่ง เห็นคุณแม่ถูกเข็นเข้าไปตรวจเช็คอาการ เวินหนิงค่อยรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เธอเอาแต่อยู่กับคุณแม่ จนลืมอาการบาดเจ็บของลู่จิ้นยวน
คิดไปด้วย เธอก็เลยรีบวิ่งไปหา ลู่จิ้นยวนอยู่ในห้องพักฟื้นอีกห้องหนึ่ง คุณหมอกำลังตรวจอาการเขา “ยังถือว่าโชคดี แผลพวกนี้เป็นแค่แผลภายนอก แต่แผลที่หลังสาหัสกว่า แต่ว่า ก็ไม่กระทบอะไรกับกระดูก พักผ่อนไม่กี่วันก็หายแล้วครับ”
เวินหนิงเห็นตอนที่ลู่จิ้นยวนถอดเสื้อ ร่างกายที่ดูดีแข็งแรง แต่กลับมีรอยแผลเต็มไปหมด มีทั้งรอยช้ำที่ถูกตี ทั้งรอยตะปูที่โดนขูด สิ่งที่น่าตกใจมากที่สุด ก็เป็นรอยช้ำที่แผ่นหลังเขา
นั่นเป็นรอยแผลที่เขาใช้ร่างกายมาบางตัวเธอไว้
ในใจเวินหนิงก็รู้สึกเหมือนถูกยิง ไม่เคยมีใครทำเพื่อเธอแบบนี้มาก่อน ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แม้แต่ความปลอดภัยของตัวเองก็ไม่สน
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว ปล่อยให้คุณหมอทายาให้เขา ทันใดนั้น เขาก็เห็นมีร่างกายผอมบางยืนอยู่หน้าประตู นอกจากเวินหนิง จะใครอีกล่ะ?
“ยืนทำอะไรอยู่ที่หน้าประตู?”
เสียงของลู่จิ้นยวน ทำให้เวินหนิงดึงสติกลับมา เธอเดินไปหาอย่างว้าวุ่น มองไปที่แผลของเขา “เจ็บไหม เป็นความผิดของฉันเอง ถ้าฉันไม่……”
“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากฟัง” ลู่จิ้นยวนไม่อยากเห็นท่าทางที่รู้สึกผิดของเวินหนิง “มานี่ มาทายาให้ฉัน”
ลู่จิ้นยวนยกแขนขึ้น บนนั้นมีรอยถลอกเล็กน้อย ไม่ลึกมาก แต่ก็ยังจำเป็นต้องฆ่าเชื้ออยู่ดี
“ได้” เวินหนิงรีบเดินไปทันที แล้วหยิบยาออกมา ใช้สำลีทายาให้อย่างระมัดระวัง ทำไปด้วย ก็มองผู้ชายคนนั้นไปด้วย กลัวว่าจะทำให้เขาเจ็บ
ณ เวลานั้น ทั้งสองคนก็มีความมึนงง เหมือนว่าแต่ก่อนพวกเขาก็เป็นแบบนี้ เวินหนิงทายาให้เขา แต่ตอนนั้น ระหว่างพวกเขาไม่มีความไม่เชื่อใจ ไม่ได้ผิดใจกัน แค่รู้สึกเป็นห่วงฝ่ายตรงข้าม
สายตาลู่จิ้นยวน ก็มีความดุดันเพิ่มขึ้นไม่น้อย
หลังจากที่คุณหมอทายาให้เขาเสร็จก็ออกไป เวินหนิงก็ทายาเกือบจะเสร็จแล้ว เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสายตาที่ดุดันของผู้ชายคนนั้น ใบหน้าก็ร้อนแดงขึ้นมา “ฉัน……ฉันไปดูว่าคุณแม่ตรวจเช็คเสร็จหรือยัง”
ลู่จิ้นยวนดึงตัวเธอไว้ เวินหนิงอยากหนี แต่ก็กลัวว่าจะทำให้แผลเขาเปิดอีก ก็เลยไม่ได้ดิ้น ปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้น
“ทำไม ตกใจหรอ?”
สถานการณ์วันนี้อันตรายมาก ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น ตอนนี้ก็คงกลัวจนเป็นลมไปแล้ว
เวินหนิงส่ายหน้า มีลู่จิ้นยวนอยู่ด้วย เธอไม่รู้สึกกลัว ผู้ชายคนนี้จะโผล่มาตอนที่ตัวเองกำลังลำบาก แล้วปกป้องเธอ ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเธอ
ลู่จิ้นยวนมองเห็นท่าทางที่เชื่อฟังของเธอ จึงเลียริมฝีปาก
ทีแรก พาเธอมาที่นี่ บางส่วนก็เพราะจะช่วยเธอตามหาคุณแม่ ส่วนหนึ่งก็เพราะอาการของเย่หวานจิ้ง เขาจะเอาแต่ใจไม่ได้อีก
เขาเคยคิดว่า หรือว่า ปล่อยให้เธอเป็นอิสระแบบนี้ไปเลย
แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ วันนี้ตอนที่เห็นว่าเธอเกือบจะโดนคนอื่นทำร้าย ความคิดในใจ ณ วินาทีนั้นโกหกใครไม่ได้ เขา……เป็นห่วงเธอมาก ถึงจะบาดเจ็บเพราะเธอแต่เขาก็ยอม
ความรู้สึกแบบนี้ ลู่จิ้นยวนไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“เวินหนิง ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
ลู่จิ้นยวนเอ่ยปากพูดด้วยความเกร็ง “ถ้าฉันบอกว่า ให้เธอรอฉันที่ต่างประเทศไปก่อน เธอจะยอมไหม?”
เวินหนิงมองไปที่ลู่จิ้นยวนอย่างประหลาดใจ เธอไม่คิดเลยว่า เขาจะพูดแบบนี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาอยากทำอะไร เธอก็ทำได้แค่ยอมรับ
“ฉันจะหาที่อยู่ให้เธอกับแม่ แต่ว่า เธอต้องรอฉันหนึ่งปี ฉันจะมาหาเธอแน่นอน”
ลู่จิ้นยวนพูดไปแบบนั้น เขาไม่อยากปล่อยผู้หญิงคนนี้ แต่วิธีเดียวที่ทำได้ก็คือต้องจัดการเรื่องในประเทศให้เสร็จก่อน รอทุกอย่างสงบลง ค่อยให้เย่หวานจิ้งยอมรับเวินหนิง
เวินหนิงมองตาของลู่จิ้นยวน หลายครั้ง เธอก็ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งๆที่บังคับให้เธออยู่ข้างกายตัวเอง แต่ตอนนี้ก็เหมือนกับว่ารอคอยคำตอบของเธอ
“งั้นนายตอบคำถามฉันก่อน” สายตาของเวินหนิงมองไปที่แผลบนตัวผู้ชายคนนั้น นี่เป็นแผลที่ทำเพื่อเธอ ใจที่เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งของเธอก็เริ่มละลายแล้ว
“นายชอบฉันจริงๆ แล้วอยากอยู่กับฉันจริงเหรอ?”
เวินหนิงมองไปที่ลู่จิ้นยวนอย่างตั้งใจ เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดของเธอ แล้วเอ่ยคำถามนี้ออกมา
เธอกลัวว่าลู่จิ้นยวนจะเหมือนแต่ก่อน อยู่ดีๆก็กลับคำ แล้วเยาะเย้ยว่าตัวเองไม่เจียมตัว แต่ว่า เธอก็อยากถาม ถ้าไม่ถามคำถามนี้ออกมา เธอก็คงจะฝังใจไปตลอดชีวิต