ลู่จิ้นยวนที่เพิ่งออกจากห้องประชุม เปิดโทรศัพท์มาก็เห็นข้อความจากเวินหนิง
เห็นในข้อความบอกว่าแม่ฟื้นแล้ว เขานึกถึงใบหน้าที่ดีใจอย่างมีความสุขของเธอขึ้นมา แม่ที่เธอเฝ้ารอหายป่วย เธอต้องดีใจมากแน่ๆ
ลู่จิ้นยวนอยากรีบโทรฯไปหา เพื่อจะร่วมยินดีกับเธอด้วย แต่มือที่กดหมายเลขโทรศัพท์ไปได้เพียงครึ่งก็หยุดชะงักลง
แววตาดำขลำของชายหนุ่มสว่างวาบเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นส่งข้อความแทน “ช่วงนี้งานที่บริษัทฯยุ่งมาก อาจจะต้องรออีกสักพัก”
ตอนที่ได้รับข้อความเวินหนิงกำลังพูดคุยกับแม่อยู่ อาจเพราะเพิ่งฟื้นมาเลยทำให้ไป๋หลินยวี่อยากรู้ความเป็นไปของโลกภายในมากมาย
เวินหนิงเองก็ชอบความรู้สึกที่ได้อยู่กับคนในครอบครัวแบบนี้ ดังนั้นจึงชวนแม่คุยไม่หยุด ทั้งสองคุยกันเรื่องสะเพเหละ ปรึกษากันว่าหลังจากนี้จะเริ่มต้นใหม่ จะทำธุระกิจอะไร จะเริ่มต้อนยังไง
โทรศัพท์ของเวินหนิงดังขึ้น เธอเปิดขึ้นมาดู เห็นเป็นข้อความของลู่จิ้นยวน ก่อนจะยิ้มขื่นเล็กน้อยแล้วรีบว่างโทรศัพท์ลง
“ทำไมเหรอ?”
ไป๋หลินยวี่เห็นเธออารมร์หม่นหมองลง จึงถามขึ้น
“ไม่มีอะไรค่ะ คือ…..เขาเหมือนจะยุ่งนิดหน่อยค่ะ เลยยังมาไม่ได้”
เวินหนิงฝืนยิ้มเล็กน้อย “ก่อนหน้านั้นเขามาอยู่เป็นเพื่อนหนูพักใหญ่ทำให้ไม่ได้อยู่ดูงานที่บริษัทฯ ตอนนี้เลยหาเวลามายากหน่อย แม่อย่าโกรธเขาเลยนะคะ เดี๋ยวมีเวลาเมื่อไหร่ เขาต้องมาแน่นอนค่ะ”
“เด็กโง่ แม่จะโกรธได้ยังไง แม่แค่อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี ได้อยู่ผู้ชายที่ดูแลลูกได้ ก็ถ้าเขายุ่งอยู่ งั้นก็รอให้เขาว่างก่อนค่อยมาก็ได้ อย่าคิดมากเลย”
เวินหนิงพยักหน้า แต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
ข้อความของลู่จิ้นยวน ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เธอกลับรู้สึกกังวลใจยังไงก็ไม่รู้
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ความรู้สึกแบบนี้แย่ชะมัด
……………
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เวินหนิงดูแลแม่ไปด้วย และเฝ้ารอเขามาหาไปด้วย แต่ลู่จิ้นยวนกลับไม่บอกเวลาที่แน่ชัด
หรือว่าเขาจะยุ่งมาก
เวินหนิงรู้สึกว่าตัวเองมีอารมณ์แปรปรวนเหมือนผู้หญิงท้องทั่วไป ที่ชอบคิดมาก
หลังจากที่อยู่พูดคุยกับแม่ครู่หนึ่ง จนท่านหลับไป เวินหนิงก็เดินออกไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
ช่วงนี้ เธอรู้สึกลู่จิ้นยวนดูแปลกๆ
แต่มันแปลกตรงไหนเธอก็พูดไม่ถูกบอกไม่ออก จนเหมือนมีหินทับอยู่บนอก รู้สึกอึดอัดมากมาย
เวินหนิงไปที่โรงอาหารเพื่อเตรียมของที่แม่ชอบกิน ในขณะที่กำลังต่อแถวอยู่ ก็ได้ยินเสียงของสาวๆพูดขึ้นข้างหู
“ดูนั้นซิ หล่อจัง!”
“อย่างกับนายแบบเลย”
เวินหนิงส่ายหน้าเล็กน้อย รู้สึกว่าคนพวกนี้เวอร์เกินไปแล้ว แต่พอเดินผ่านจุดที่มีหนังสือพิมพ์วางอยู่ เธอก็แอบปรายตามองแวบหนึ่ง เพื่อจะดูว่าผู้ชายที่ทำให้คนมากมายตกตะลึงคือใคร
แต่เพียงแค่เห็น เธอก็ยืนอึ้งอยู่กับที่
ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลู่จิ้นยวน
เวินหนิงไม่มีกะจิตกะใจจะต่อแถวอีก รีบหยิบหนังสือพิมพ์ไปนั่งดูทันที
บนหนังสือพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ยังดีที่สมัยก่อนบ้านตระกูลเวินเลี้ยงดูเธอมาแบบคุณหนู ดังนั้นจึงได้ภาษาอังกฤติดตัวมาบ้าง อย่างน้อยก็พอรู้ว่าบนหนังสือพิมพ์เขียนว่าอะไร
บนหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นใบหน้าของลู่จิ้นยวนที่หล่อเหลาอย่างกับรูปปั้นแกะสลัก ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ยืนอยู่เฉยๆยังให้ความรู้สึกดูดีและเข้าถึงยาก
แม้จะเป็นเพียงภาพถ่ายธรรมดา แต่กลับดูดีกว่าภาพถ่ายบนนิตยสารดาราสักอีก เขาเป็นคนมีเสน่ห์แบบนี้เสมอ
แต่เวินหนิงกลับไม่มีอารมณ์จะมานั่งชื่นชมเขาเท่าไหร่ เธออ่านข้อความบนหนังสือพิมพ์ลงว่าลู่จิ้นยวนมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมประชุมสำคัญ หลังจากฟื้นขึ้นมา เขาก็เริ่มวางแผนทวงคืนพื้นที่ตลาดต่างประเทศทันที การมาประชุมครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ
แต่…..ทำไมลู่จิ้นยวนถึงไม่ติดต่อเธอมานะ?
ในใจเวินหนิงรู้สึกเศร้าหมองลงเล็กน้อย แต่เธอก็เลือกที่จะไม่คิดมาก
บางที ลู่จิ้นยวนอาจจะยุ่งอยู่ หรือ…..เขาอาจจะยังไม่มีเวลามาหา และไม่แน่เขาอาจจะอยากให้เธอเซอร์ไพรส์?
เวินหนิงพยายามหาเหตุผลให้ตัวเองสบายใจขึ้น ตั้งแต่เธอตัดสินใจจะใช้ชีวิตกับลู่จิ้นยวน เธอก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวเขา จะไม่ลังเลสงสัยในตัวเขา
แต่ว่าหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ห้ามให้แม่เห็นเด็ดขาด ไม่งั้นท่านอาจจะเกิดความไม่พอใจในตัวลู่จิ้นยวนได้
คิดได้ตามนั้น เวินหนิงเองก็ไม่อยากสนใจอะไรมาก จึงเก็บหนังสือพิมพ์เข้าที่เดิม เดินไปซื้อของและกลับบ้านทันที
ไป๋หลินยวี่เห็นเธอออกไปข้างนอกอีกแล้ว ก็เกิดความรู้สึกเป็นห่วง “ทำไมลูกออกไปข้างนอกอีกแล้ว? ท้องแก่แบบนี้ห้ามออกไปตะลอนแล้วนะต้องพักผ่อนเยอะๆ!”
เวินหนิงส่ายหน้าไปมา “ใกล้ๆเองค่ะ ถือว่าออกกำลังกายในตัว”
ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด แต่ไป๋หลิยยวี่ก็ยังดูออกว่าเธอดูไม่ค่อยสบายใจ “หนิงหนิง ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า?”
เวินหนิงเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเผลอเหม่อลอยอีกแล้ว จึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ: “เปล่าค่ะ แค่……รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”
ไป๋หลินยวี่ได้ยินแบบนั้น ก็รีบไล่ให้เธอไปพักผ่อน
เวินหนิงเองก็ไม่ได้ขัดอะไร เธอก็กลัวว่าถ้าดึงดันอยู่ต่อแม่จะจับสังเกตได้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจอยู่
กลับถึงบ้าน เวินหนิงก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูความเคลื่อนไหวของเขา จากแอปฯบนหน้าจอมือถือ บนนั้นมีภาพข่าวการมาประชุมของเขาในครั้งนี้
เวินหนิงไม่รู้ว่าตัวเองคาดหวังอะไร เธอรู้สึกว่าลู่จิ้นยวนคงไม่มาแล้ว แต่ไม่มาหาเธอ
จนกระทั่งเธอเห็นข่าวว่าลู่จิ้นยวนประชุมเสร็จแล้ว แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่เห็นลู่จิ้นยวนติดต่อเธอมา
เขาจะยุ่งขนาดนั้นเลยเหรอ?
เวินหนิงรู้สึกผิดหวังในใจ เธอยังหวังลึกๆว่าลู่จิ้นยวนจะมาเซอร์ไพรส์เธอ
เวินหนิงรู้สึกผิดหวังอยู่ครู่เดียวก็รีบตั้งสติโดยเอามือตบหน้าเบาๆ เอาแต่รอให้เขามาเซอร์ไพรส์อย่างเดียวคงไม่ได้
เธอจึงรีบเช็คว่าลู่จิ้นยวนพักที่โรงแรมไหน เขายุ่งขนาดนั้น ก็คงจะเหนื่อยไม่น้อย เธอเป็นคนไปหาเขาเองดีกว่า
คิดได้ว่าลู่จิ้นยวนน่าจะเหนื่อยไม่น้อย เธอจึงเข้าครัวไปทำซุปให้เขา และเพราะช่วงตั้งครรภ์เธอได้เรียนทำอาหารบำรุงร่างกายมามากมาย ครั้งนี้จึงได้ลองทำให้เขากินพอดี
ผ่านไปพักหนึ่ง ซุปข้าวโพดร้อนๆก็เสร็จ เวินหนิงนำมาใส่กล่องเก็บความร้อนอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่ไปยันโรงแรมที่ลู่จิ้นยวนพักอยู่
ลู่จิ้นยวนทำงานเหนื่อยแบบนี้ ถ้าเห็นเธอคงจะเซอร์ไพรส์ไม่น้อย แค่คิดเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข จนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสีหน้าเซอร์ไพรส์ของเขา