พูดถึงตรงนี้ ลู่จิ้นยวนก็จ้องมองไปที่เวินหนิงแวบหนึ่ง สีหน้าเธอดูไม่สู้ดีจริงๆ แลดูจะเหนื่อยล้ามาก
ในที่สุดเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอีก แต่เลือกที่จะหันหน้าไปทางหน้าต่างโดยไม่มองหน้าเธอ “ในเมื่อเธอต้องการแบบนี้ งั้นก็ไปเถอะ แต่ฉันต้องออกไปข้างนอก เธอก็นอนพักผ่อนในห้องไปละกัน”
เวินหนิงทำเสียงตอบรับเบาๆ ทั้งสองคนต่างเงียบลง โดยไม่มีใครพูดอะไรอีก
โรงแรมที่ลู่จิ้นยวนพักอยู่ใกล้มากจริงๆ ทางบริษัทฯได้จองห้องชุดที่มีไว้สำหรับต้นรับประธานาธิบดีให้เขา ไม่เพียงแต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดเล็กอีกด้วย
“เธอพักที่นี่ก่อน อยากกลับเมื่อไหร่ ก็บอกให้คนขับรถไปส่ง”
ลู่จิ้นยวนยื่นคีย์การ์ดห้องพักให้เธอเสร็จก็เดินออกไปทันที
เวินหนิงขมวดคิ้วมองดูเขาเดินจากไป โดยไม่ได้รั้งเขาไว้ ในเมื่อลู่จิ้นยวนมีงาน เธอก็จะไม่บังคับให้เขาอยู่ต่อ เต็มที่ก็แค่รอเขากลับมา
เวินหนิงวางกล่องข้าวในมือลงก่อนจะเปิดมันออก กลิ่นหอมฉุยลอยออกมา เธอยิ้มเล็กน้อย นี่เธอตั้งใจทำให้เขาแท้ๆแต่ลู่จิ้นยวนกลับไม่กินแม้แต่คำเดียว
ขณะที่เวินหนิงคิดอย่างเหม่อลอย โทรศัพท์มือถือเธอก็ดังขึ้น เป็นสายจากไป๋หลินยวี่
ตอนที่เวินหนิงออกมา เห็นไป๋หลินยวี่หลับอยู่ พอตื่นมาไม่เห็นเธอคงจะอยากโทรฯมาถามว่าเธออยู่ไหน
“แม่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ตอนนี้หนู…….” เวินหนิงอยากบอกแม่ว่าเธอมาหาลู่จิ้นยวน แต่พอคิดได้ว่าแม่ก็รอเจอเขาอยู่ แต่ลู่จิ้นยวนยังไม่มีเวลาไปเจอท่าน เธอจึงหยุดไว้ “รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยค่ะ เลยนอนพักอยู่ที่บ้าน”
ไป๋หลินยวี่จะไม่รู้จักนิสัยลูกตัวเองได้ไง พอได้ยินเธอพูดติดๆขัดๆแบบนี้ก็พอเดาออกว่าต้องมีเรื่องอะไร “เป็นอะไรไป หนิงหนิง หนูมีเรื่องอะไรบอกแม่มาเร็ว ไม่งั้นแม่จะเป็นห่วงนะ”
เวินหนิงยิ้มเล็กน้อย “ไม่มีอะไรจริงๆค่ะแม่ หนูเพิ่งตื่นเลยยังงัวเงียอยู่ แม่เป็นไงบ้างคะ?”
ไป๋หลินยวี่รู้ว่าเธอผิดหวังเรื่องลู่จิ้นยวน แต่เวินหนิงไม่ยอมพูดถึงมัน
พอเห็นว่าเวินหนิงไม่อยากพูดถึงมัน ไป๋หลินยวี่จึงทำได้แค่ถอนหายใจ “ลูกคนนี้…….”
“เอาเถอะ ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจต้องบอกแม่นะ แล้วนี่ลู่จิ้นยวนเมื่อไหร่จะมีเวลามาอยู่เป็นเพื่อนลูกบ้าง ใกล้คลอดแล้วยังต้องอยู่ข้างนอกคนเดียวอีก”
ไป๋หลินยวี่รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวมาก ด้วยถานะของลู่จิ้นยวนแล้ว เธอรู้สึกว่ามันต่างกันมากเกินไป
เธอไม่อยากให้เวินหนิงอยู่แบบรันทดมากเกินไป
“อืม เดี๋ยวหนูจะหาจังหวะพูดกับเขาค่ะ”เวินหนิงเห็นว่าแม่ยังคงถามหาลู่จิ้นยวน กลัวว่าจะเผลอพูดอะไรออกไป เธอจึงเปลี่ยนเรื่องคุยอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบวางสายทันที
หลังวางสาย เวินหนิงจึงได้ลุกขึ้นยืน เธอเข้าใจแม่ดี แม่แค่อยากดูว่าลู่จิ้นยวนเป็นคนที่เธอสามารถฝากชีวิตไว้ได้มั้ย ท่านแค่อยากเห็นเธอมีความสุข
แต่ว่า……..
เวินหนิงจากที่มีความเชื่อมั่นเต็มร้อย พอเจอกับพฤติกรรมแปลกๆของลู่จิ้นยวนเข้า ก็ทำให้ความมั้นใจเธอเริ่มสั่นคลอนขึ้นมา แต่เธอยังไม่อยากยอมแพ้
ฟ้าค่อยๆมืดลง เวินหนิงเองก็เริ่มง่วงมากขึ้น เธอนั่งสัปหงกรอลู่จิ้นยวนอยู่บนโซฟา
เหมือนภรรยาที่รอคอยสามีกลับบ้าน
ลู่จิ้นยวนที่ไปทานข้าวกับพันธมิตรทางการค้าเสร็จแล้ว จงใจดึงเวลาอยู่ข้างนอกอีกพักใหญ่ ก่อนตัดสินใจกลับโรงแรม พอเห็นว่าห้องมืดสนิท เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก