สีหน้าลู่จิ้นยวนเย็นชาขึ้น รอบกายมีไอเย็นที่ทำให้หายใจไม่ออก
ซุนเฟยเอ๋อร์ตกใจทันที เธอไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด
แต่เธอเหมือนเห็นความโกรธในดวงตาลู่จิ้นยวน เห็นความหงุดหงิด และเห็นความเศร้าเล็กน้อย
ผู้ชายแบบนี้อย่างเขา มีเรื่องอะไรให้เสียใจด้วยเหรอ?
ซุนเฟยเอ๋อร์คิดว่าตัวเองมองผิด กำลังจะขอโทษ มุมปากลู่จิ้นยวนก็ขยับ “ก็ได้……เธอขึ้นไปข้างบนกับฉันหน่อย”
ซุนเฟยเอ๋อร์ตกใจไปชั่วขณะหนึ่ง ทันใดนั้นหัวใจก็เต้นแรงเหมือนจะกระโดดออกมา นี่……มีความหมายแฝงหรือเปล่า?
เธอทำงานในบาร์มาช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่เคยยอมจำนนกับใครมาก่อน ไม่เคยคิดจะขายร่างกายเพื่อสร้างรายได้ แต่……
ถ้าเป็นผู้ชายคนนี้ ผู้ชายคนนี้ที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ บางทีก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเธอ
ลู่จิ้นยวนไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจความรู้สึกของเธอ ลงจากรถ ซุนเฟยเอ๋อร์เหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน หน้าแดงเดินมาปิดประตูรถให้เขา เดินเข้าไปใกล้อย่างใจกล้า จับแขนชายหนุ่มเอาไว้
“คุณคะ ฉันจะไปส่งคุณข้างบน……”
ลู่จิ้นยวนไม่ได้พูดอะไร สายตาเขา หยุดอยู่ตรงนั้นที่อยู่ไกลๆ เวินหนิงยืนอยู่ เหมือนกับแข็งทื่อไป หยุดนิ่ง ไม่ขยับเลบ
เมื่อครู่นี้ลู่จิ้นยวนเอารถไป ถึงแม้เธอจะโกรธมาก แต่ก็ไม่ได้ตามไป อย่างไรแล้วผู้ชายคนนี้หุนหันพลันแล่นขับรถไม่ค่อยเหมาะสมนัก เธอกลัวว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุ
แต่ไม่คิดว่า กลับเห็นฉากแบบนี้……
เด็กผู้หญิงสาวที่ดูสาวและสวยคนหนึ่ง สวมชุดพนักงานเสิร์ฟ จับแขนเขาไว้อย่างคาดหวังเต็มเปี่ยม ลู่จิ้นยวนไม่ได้ปฏิเสธ แต่ปล่อยให้เธอสัมผัส
เฮอะๆ ……ช่างเป็นละครโรแมนติก ถ้าไม่มีเธออยู่ เกรงว่านี่คงเป็นเรื่องราวซินเดอร์เรลล่าได้พบกับเจ้าชายรูปงามที่สมบูรณ์แบบ
เวินหนิงเดินเข้าไปใกล้ทีละก้าว มองใบหน้าลู่จิ้นยวน “ทำไม?”
ตอนนี้เธอ ไม่รู้แล้วว่าต้องพูดอะไร
ทั้งๆ ที่คราวก่อน เขายังให้เธอรอเขา ให้เธอให้เวลากับเขา บอกว่าจะดูแลเธอให้ดี แต่ตอนนี้ทำไมเปลี่ยนไปแล้ว
เขาที่อยู่ตรงหน้าเธอ ควงผู้หญิงคนอื่น ไม่ได้อธิบายแม้แต่ประโยคเดียว ไม่รู้สึกผิดแม้แต่ครึ่งเดียว มือทั้งสองคนเกี่ยวพันกัน ดูสนิทสนมอย่างมากเลยด้วยซ้ำ
ในตอนนี้ เวินหนิงรู้สึกว่าร่างกายไม่ใช่ของตัวเอง เจ็บปวดหัวใจอย่างมาก หัวใจเต้นเร็ว ทุกครั้งมันทำให้เธอหายใจไม่ออก หน้าเธอค่อยๆ กลายเป็นซีดเซียว
ลู่จิ้นยวนไม่ใช่คนที่รักษาความสะอาดเหรอ รู้สึกแย่และอึดอัดเวลาคนอื่นสัมผัสตัวไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงได้สนิทสนมกับคนแปลกหน้าแบบนี้? ถึงเขาไม่สนใจเธอเลยสักนิด แต่เธอก็ท้องลูกของเขานะ เขาไม่คิดถึงพวกเธอสองแม่ลูกเลยสักนิดเหรอ?
ทันใดนั้น เวินหนิงก็หัวเราะเยาะตัวเองออกมา เธอลืมไปเลย ลู่จิ้นยวนไม่เคยเชื่อคำพูดเธอ เขาไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา
ตอนนี้ในมือเธอมีรายงานผลตรวจสอบ เหมือนมันเป็นเรื่องตลกสุดๆ เยาะเย้ยความไม่รู้และความรู้สึกของเธอ
“……”
ซุนเฟยเอ๋อร์รู้สึกบรรยากาศมันกระอักกระอ่วน แต่แค่ไม่อยากถอนมือออกมา ผู้หญิงคนนี้ อาศัยความท้องโตของตัวเองมายุ่งกับลู่จิ้นยวน เธอไม่สามารถทำให้หล่อนทำสำเร็จได้
“คุณคะ ฉันจะไปส่งคุณข้างบน”
คำพูดของซุนเฟยเอ๋อร์ ขัดความคิดลู่จิ้นยวน เขาละสายตาออกมาจากเวินหนิง ไอความสิ้นหวังและหมดหนทางบนร่างกายหญิงสาว มันกดดันจนทำให้เขาหายใจไม่ออก
ถ้ามือซุนเฟยเอ๋อร์ไม่ได้พยุงเขาอยู่ตลอดเวลา บางทีเขาอาจจะพุ่งไปกอดปลอบผู้หญิงคนนั้นก็ได้
แต่……สุดท้าย เขาก็ไม่ได้ทำ
ลู่จิ้นยวนไม่พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว ซุนเฟยเอ๋อร์พยุงเขาอย่างระมัดระวัง เดินผ่านหน้าเวินหนิงไป
ตลอดกระบวนการทั้งหมด ทั้งสองคนไม่ได้มองเธอมากนัก ราวกับว่า……ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ เหมือนเธอคนนี้ไม่มีตัวตน
เวินหนิงเข้าใจแล้ว บางที เทียบกับคำพูดแล้ว การเพิกเฉยอย่างสิ้นเชิงนี้มันน่าเสียใจมากที่สุด
เขาไม่ได้อธิบายความคิดให้เธอฟังด้วยซ้ำ แบบนี้เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงทิ้งเธอ ก็โดนทิ้งเสียแล้ว?
เธอไม่ยอม
“ลู่จิ้นยวน คุณหยุดนะ!”
เวินหนิงขยับขาที่แข็งทื่อ เธอยืนอยู่นานเกินไป และเดิมทีก็เป็นหญิงท้อง ตอนนี้เธอแค่ยืนก็รู้สึกเหนื่อยสุดๆ แต่ลมหายใจทำให้เธอยึดมั่น ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอ ไม่ยอมแพ้
“……” ลู่จิ้นยวนไม่ได้ตอบสนอง ซุนเฟยเอ๋อร์แค่ต้องการกำจัดผู้หญิงบ้าซึ่งอธิบายไม่ได้คนนี้ให้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงไม่ได้หยุด
เวินหนิงเห็นแผ่นหลังสองคนพึ่งพิงซึ่งกันและกัน น้ำตาก็ไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว หลังจากรู้ตัว เธอก็รีบเงยหน้าขึ้น ตบหน้าตัวเองแรงๆ สองที ผิวขาวนั้นทิ้งรอยมือสีแดงไว้สองสามรอย เธอห้ามร้องไห้ เธอไม่สามารถแสดงความอ่อนแอของตัวเองต่อหน้าสองคนนี้
“ฉันกำลังคุยกับพวกคุณ ไม่ได้ยินเหรอ?”
เวินหนิงเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว กำลังจะจับมือลู่จิ้นยวน แต่ซุนเฟยเอ๋อร์มายืนกันด้านหน้าชายหนุ่ม สีหน้ารังเกียจเล็กน้อย “คุณคะ คุณลู่ไม่สนใจคุณ คุณก็ช่วยรักเกียรติของตัวเองแล้วออกไปจากที่นี่ได้ไหม? คนท้องโตแบบนี้มายุ่งกับคนอื่น ไม่รู้จักอายเลย”
รักเกียรติของตัวเอง? ไม่รู้จักอาย?
เวินหนิงแทบตัวสั่นด้วยความโกรธเพราะไม่กี่ประโยคที่ชอบธรรมของเด็กผู้หญิงคนนี้ เด็กในท้องของเธอเป็นลูกของลู่จิ้นยวน เขาเป็นพ่อของลูก แต่ตอนนี้ล่ะ?
เขาพัวพันอยู่กับสาวคนหนึ่งที่ไม่รู้จัก และผู้หญิงคนนี้ ไม่คิดว่าจะทำท่าทางเป็นผู้ส่งสารความยุติธรรม?
เป็นภาพที่น่าขำอะไรขนาดนี้
“เธอถอยไป! ฉันจะคุยกับเขา มันไม่เกี่ยวกับเธอ”
“ทำไมไม่เกี่ยวกับฉัน? คุณผู้หญิง เพื่อเด็กในท้องคุณ ฉันไม่อยากทำอะไรหรอกนะคะ แต่ได้โปรดออกไป คุณลู่เขาเหนื่อยแล้ว ไม่อยากเจอคุณอีก”
ซุนเฟยเอ๋อร์รู้สึกหงุดหงิดกับเวินหนิงแล้ว รวมถึงลู่จิ้นยวนก็ไม่ได้หยุดเธอด้วย เธอจึงพูดต่ออย่างใจกล้า “ถ้าพ่อของเด็กรู้เข้า คุณออกมาทำเรื่องแบบนี้ดึกๆ ดื่นๆ มันก็ไม่ดีใช่ไหม?”
“เธอเงียบนะ!” เวินหนิงโกรธมาก อยากจะไปผลักผู้หญิงคนนี้ออกอย่างเสียสติ ให้เธอหยุดพูดจาแบบนี้ จู่ๆ แขนเธอก็ถูกจับเอาไว้ มันแรงมาก จนเธอไม่สามารถดิ้นรนได้
ลู่จิ้นยวนยื่นมือออกมา
“เธอโวยวายพอหรือยัง?” ลู่จิ้นยวนไม่ได้มองสีหน้าเวินหนิง แค่จับแขนเธอไว้
ร่างกายเวินหนิงเย็นมาก บริเวณที่โดนเขาจับ มันเย็นเฉียบ ไม่มีความอุ่นเลยสักนิด และไม่รู้ว่าเธอรออยู่ข้างนอกมานานแค่ไหนถึงเป็นแบบนี้
หน้าอกลู่จิ้นยวนอึดอัดและเจ็บปวดสักพักหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็หงุดหงิดเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ ท้องอยู่ยังจะไปไหนมาไหนอีก?
หรือไม่รู้สถานการณ์พิเศษของตัวเอง หรือไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี?