บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 231 ความหวังก็ดับสลายไปอีกครั้ง

ตอนนี้อาการของคุณแม่เวินหนิงก็ดีขึ้นไม่น้อย ถ้าไปตอนนี้ก็ถือว่าได้เจอผู้ใหญ่ด้วย ก็ไม่ต้องไปกลับลำบากอีก

แต่ว่า มองเห็นสายตาที่เยือกเย็นของลู่จิ้นยวนผ่านกระจกหลัง อันเฉินก็กลืนความสงสัยลงไป แล้วขับรถไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

พอรถจอดลง ลู่จิ้นยวนก็อุ้มเวินหนิงลงไปอย่างระมัดระวัง เธอหลับลึกมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเหนื่อย ถึงจะโดนเขาอุ้มไปมาแบบนี้ก็ไม่ตื่นเลย

เมื่อวานคนลงบนเตียง ลู่จิ้นยวนก็เลยเรียกคุณหมอมาตรวจเช็คอาการให้เธอ

“คุณผู้หญิงคนนี้แค่เหนื่อยล้าเกินไป ดูเหมือนว่าอารมณ์ก็ไม่คงที่ด้วย ตอนนี้เธอกำลังท้อง คุณเป็นครอบครัวคนไข้ ต้องระวังอารมณ์เธอให้มาก!”

เมื่อคุณหมอตรวจเช็คเวินหนิงเสร็จ ก็เห็นว่าร่างกายไม่เป็นอะไรมาก เลยย้ำกับลู่จิ้นยวน

ลู่จิ้นยวนพยักหน้า ถึงจะเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่อยากจะทำให้เธออารมณ์ขึ้น แต่ยังไง……

สายตาของผู้ชายคนนั้นหม่นหมอง “ครับคุณหมอ”

คุณหมอเดินออกไป ลู่จิ้นยวนก็นั่งอยู่ข้างๆ แล้วทอดมองใบหน้าเวินหนิงที่หลับลึกอยู่อย่างนั้น

ต่างกับเมื่อวานโดยสิ้นเชิง เวินหนิงในตอนนี้ ถึงแม้จะนอนหลับอยู่ แต่คิ้วก็ยังขมวดเล็กน้อย ดูเหมือนว่าถึงจะฝันแต่ก็หลับไม่สบายมาก

ลู่จิ้นยวนยื่นมือออกไปแล้ววางลงระหว่างคิ้วเธอ เหมือนจะขับไล่ความกังวลในใจเธอให้หายไปอย่างนั้น

ถึงแม้ ความกังวลของเธอตอนนี้เขาจะเป็นคนสร้างก็ตาม

ในความฝัน เวินหนิงรู้สึกว่ามีนิ้วมือที่คุ้นเคยวางลงบนหน้าผากตัวเอง เบามือมาก แล้วทำให้รู้สึกสบายใจอย่างไม่รู้ตัว

ความหงุดหงิดในใจของเธอก็คลายไปไม่น้อย แล้วทำให้เธอนอนหลับสบายไปกว่าเดิม

“ลู่……จิ้นยวน……”

ลู่จิ้นยวนได้ยินเวินหนิงเรียกชื่อเขาเสียงเบา ใจก็อ่อนไปทันที ผู้หญิงคนนี้……

คำพูดตอนนั้นก็แค่ประชดตัวเอง ตอนนี้ก็ก็ระบายอารมณ์ออกมาไม่น้อยแล้ว ลู่จิ้นยวนดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเธอไว้ เดี๋ยวเธอจะไม่สบายอีก

……

ค่ำคืนนั้นก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ตอนเวินหนิงตื่น ฟ้าสว่างแล้ว เธอลืมตาดูรอบข้างไม่คุ้นเคย ทีแรกก็ยังมึนงงอยู่ จึงลุกขึ้นมานั่ง “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ตอนนี้เธออยู่ไหน? เมื่อคืนเธอ……

พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน สีหน้าที่เริ่มดีของเวินหนิงก็ซีดขาวไปทันที

เมื่อวาน เธอเห็นลู่จิ้นยวนกำลังพัวพันกับผู้หญิงคนหนึ่ง จากนั้นก็เดินออกมา แล้วสลบอยู่บนเก้าอี้?

มองไปรอบๆ เวินหนิงก็รู้สึกสงสัย ใครส่งเธอมา?

ขณะที่เวินหนิงกำลังสงสัย อันเฉินก็เดินเข้ามา ก็เห็นว่าเธอตื่นแล้ว “คุณหนูเวิน คุณตื่นสักที คุณเป็นลมข้างทาง ยังโชคดีที่มีคนส่งคุณมาที่โรงพยาบาล ไม่งั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นคงแย่แน่เลย”

เวินหนิงฟังคำพูดของอันเฉิน ก็รู้สึกว่าตรงไหนแปลกๆ ทั้งๆที่เธอรู้สึกว่าเป็นคนที่คุ้นเคยส่งเธอมาที่นี่ ความรู้สึกแบบนั้น ทำให้เธอวางใจมาก

“ใครส่งฉันมา?”

อันเฉินถูกถามก็อึ้งไป จากนั้นก็รีบกลบเกลื่อน “มีคนโทรให้ผมไปรับคุณครับ”

เมื่ออันเฉินยืนยันแบบนี้ เวินหนิงก็ไม่สงสัยอะไรอีก แต่ว่า ความหวังในใจก็ถูกดับสลายไปอีกครั้ง

เธอรู้สึกว่า……อ้อมกอดที่อบอุ่นนั้นเป็นของผู้ชายคนนั้น

แต่ว่า แค่คิดก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ลู่จิ้นยวนเข้าไปในโรงแรมกับผู้หญิง จะเป็นห่วงความเป็นความตายของเธอได้ยังไง

ตอนที่ไม่คิดยังดี พอคิดมากไปอีก เวินหนิงก็รู้สึกแสบจมูก ไม่คิดเลยว่าคนที่เป็นห่วงเธอที่สุด จะเป็นอันเฉิน

เธอไม่รู้ว่าตัวเองน่าสมเพช หรือน่าสงสารกันแน่

“ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว กลับไปเถอะ” อารมณ์ของเวินหนิงหม่นหมองไป แล้วพยายามกลบเกลื่อนไว้ เธอยังต้องกลับไปดูแลไป๋หลินยวี่

เมื่อวาน ในเมื่อพูดไปแบบนั้นแล้ว เธอก็จะไม่ยอมอยู่ในโรงพยาบาลของลู่จิ้นยวน แล้วรับความช่วยเหลือของเขาแบบนี้

ต่อไป ชีวิตก็อาจจะลำบาก แต่ว่า……เธอก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีตัวเองไว้

“……” เมื่ออันเฉินเห็นว่าเวินหนิงยืนยันแบบนี้ ก็ไม่ได้ห้ามอะไรอีก

แต่ว่า กับความคิดของทั้งสองคนนี้ เขารู้สึกงงมาก

โดยเฉพาะเมื่อวาน ลู่จิ้นยวนไม่สนเลยว่าตัวเองต้องประชุมตั้งแต่เช้า ก็ยังเอาแต่เฝ้าเวินหนิงอยู่ที่นี่ทั้งคืน พอเห็นว่าฟ้าสว่างแล้วค่อยออกไป ทั้งๆที่เป็นห่วง แต่กลับไม่อยากให้เวินหนิงรู้ นี่หมายความว่ายังไง เขาไม่เข้าใจจริงๆ

แล้วตอนนี้ เห็นอารมณ์ของเวินหนิงก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น อันเฉินก็รู้สึกร้อนรนใจแทนสองคน

ทั้งๆที่ยังเป็นห่วงฝ่ายตรงข้าม แต่จะอ้อมค้อมแบบนี้ แล้วทำร้ายความรู้สึกกันทำไม?

แต่ว่า เขาก็แค่ผู้ช่วยในการทำงาน ถึงแม้จะสงสัยมากแค่ไหน ก็ต้องอดทนไว้

“คุณหนูเวิน คุณกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปดีกว่าครับ”

อันเฉินรอเวินหนิงเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างนอก แล้วนำอาหารที่เธอชอบตามที่ลู่จิ้นยวนสั่งไว้มาให้

มองเห็นอาหารที่ถูกปากเธอ เวินหนิงก็แปลกใจ จากนั้นก็ยิ้มเสียดสีตัวเอง ยังจะคิดว่าลู่จิ้นยวนเป็นคนสั่งให้ส่งมาอีกหรอ เป็นไปไม่ได้

เขาจะมีเวลามาสนใจของเล่นที่หมดอารมณ์แล้วได้ยังไง

ถึงแม้เวินหนิงจะไม่รู้สึกหิว แต่เพื่อเด็กในท้อง เธอก็พยายามกินเข้าไป ยังไง เมื่อวานเป็นเพราะความเอาแต่ใจของเธอก็เกือบจะทำร้ายลูกในท้องแล้ว เธอห้ามทำแบบนั้นอีก

เมื่อเวินหนิงทานอาหารเช้าเสร็จ อันเฉินค่อยส่งเธอกลับไปที่โรงพยาบาลที่ไป๋หลินยวี่อยู่

เวินหนิงพยายามปรับอารมณ์ตัวเอง แล้วแกล้งทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ค่อยเดินออกไป

“หนิงหนิง ทำไมมาเช้าขนาดนี้? ก็บอกแล้วไงถ้าหนูไม่สะดวกก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องไปๆมาๆแบบนี้”

ไป๋หลินยวี่เป็นห่วงเวินหนิง ลูกสาวกำลังท้องอยู่ แต่คนที่เป็นแม่อย่างท่านก็ทำได้แค่นอนอยู่บนเตียง ทำอย่างอื่นไม่ได้เลย นี่ทำให้ท่านรู้สึกผิดมาก แล้วรู้สึกโทษตัวเองด้วย

“คุณแม่ หนูไม่เป็นอะไร หนูอยู่บ้านคนเดียวก็ไม่มีอะไรทำ ก็ต้องมาอยู่กับคุณแม่สิคะ” เวินหนิงยิ้ม รอยยิ้มนั้นก็กลบเกลื่อนความฝืนใจไว้ไม่อยู่

เธอไม่อยากอยู่คนเดียวจริงๆ นั่นเป็นบ้านของลู่จิ้นยวน อยู่ที่นั่น เธอยังจำได้ว่าตัวเองเป็นยังไง ใช้ความรู้สึกแบบไหนเลยตอบตกลงว่าจะรอเขา

แต่ตอนนี้……

ทุกอย่างจบแล้ว

“หนิงหนิง เป็นอะไร? หนูดูผิดปกติ”

ด้วยความเป็นแม่ จะมองไม่ออกได้ไงว่าลูกสาวตัวเองผิดปกติรู้สึกถึงความฝืนใจของเวินหนิง ก็ทำให้ท่านรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทั้งที

ต้องเกิดเรื่องอะไรแน่นอน เวินหนิงถึงเป็นแบบนี้

“คุณแม่……ขอโทษนะคะ……” เมื่อเวินหนิงเห็นท่าทางที่เป็นห่วงของไป๋หลินยวี่ แล้วอารมณ์ก็แปรปรวนไปด้วย “หนูไร้ประโยชน์เอง เราอาจจะต้องไปจากที่นี่”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset