บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 234 ค่าบอกเลิก

ทีแรกอารมณ์มู่เยียนหรานก็ยังดีอยู่ แต่ก็ถูกท่าทางที่เย็นชาของเขาทำให้หายไป

ทีแรกคิดว่าหลังจากที่ลู่จิ้นยวนแยกกับผู้หญิงคนนั้น เขาก็จะใช้ชีวิตกับตัวเองอย่างสงบสุข ไม่คิดเลยว่า ก็ยังเป็นแบบนี้……

“จิ้นยวน นายหมายความว่ายังไง?” เถ้าแก่ลู่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลมาก พอเห็นสีหน้าของมู่เยียนหรานผิดปกติ ก็เดินมาหา จึงเห็นใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของลู่จิ้นยวน

เด็กคนนี้ งานหมั้นของตัวเอง ก็ยังแสดงสีหน้าเยือกเย็น น่าโมโหมาก

“เยียนหราน เธอไปฝั่งโน้นก่อน เดี๋ยวฉันจะสั่งสอนมันเอง”

เมื่อมู่เยียนหรานได้ยินก็เอ่ยตอบรับ เถ้าแก่ลู่ก็หยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปในมุมที่ไม่มีใคร “เรื่องต่างประเทศแกจัดการจะเสร็จแล้วใช่ไหม? ควรจะรีบกลับมา ถึงแม้แกจะไม่ช่วยจัดเตรียมงานด้วย แต่ก็ห้ามไม่มาในวันงานเด็ดขาด!”

ลู่จิ้นยวนนวดขมับ “ผมอยู่ที่นี่ยัง มีเรื่องที่ต้องจัดการครับ”

ตอนนี้ เรื่องของเวินหนิงยังจัดการไม่เสร็จ เขาจะไปได้ยังไง?

“อย่ามาหาข้ออ้าง แกคิดอะไรอยู่ คิดว่าฉันไม่รู้หรอ?”

เถ้าแก่ลู่เริ่มโมโห “ยังไง ก็รีบตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้นซะ ไม่งั้นจะเป็นยังไง แกรู้ดี……”

พูดจบ เถ้าแก่ก็วางสายทันที

ถึงแม้ลู่จิ้นยวนจะรู้สึกโมโห แต่ยังไงก็ระบายอารมณ์กับคุณปู่ไม่ได้ ทำได้แค่โยนโทรศัพท์ไปข้างๆ

เถ้าแก่ก็ถอนหายใจ เพื่อลู่จิ้นยวน ไม่คิดเลยว่าท่านต้องใช้ของสิ่งนี้

ความทรงจำที่ถูกผนึกไว้ก็ถูกเปิดออก ท่านนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ต่างประเทศ แต่ว่า ก็เป็นเพราะคนคนนั้น ถึงจะทำให้ลู่จิ้นยวนกลับตัวกลับใจได้

“เป็นหลานที่ทำให้รู้สึกปวดหัวจริงๆ” เถ้าแก่ลู่ส่ายหน้า ไม่อยากจะนึกถึงอดีตอีก

ทันใดนั้น ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา พอเถ้าแก่ได้ยินเนื้อหาในโทรศัพท์ สีหน้าก็ย่ำแย่ไปทันที

……

เวินหนิงนำข่าวที่ยังไม่ต้องย้ายโรงพยาบาลไปบอกไป๋หลินยวี่

ไป๋หลินยวี่ฟังไปด้วย ในใจก็รู้สึกสงสัย ที่ท่านดูมา เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่ว่า พอเห็นว่าลูกสาวดีใจกับเรื่องนี้ ไม่ได้รู้สึกเสียใจที่อกหักอีก ท่านก็ไม่อยากจะขัดใจเธอ

“ดีมากเลย หนูไว้ใจเถอะ ถ้าแม่หายดีแล้ว จะไม่นั่งกินนอนกิน จะรีบหาวิธีมาคืนเงินให้ได้”

ไป๋หลินยวี่เอ่ย “แล้วก็เงินของลู่จิ้นยวนอีก ก็คืนไปด้วย แม่ไม่ต้องการเงินของคนแบบนี้ เราจะไม่ติดค้างเขา”

เวินหนิงพยักหน้า เธอก็รู้สึกเหมือนกัน พอเห็นว่าอารมณ์คุณแม่เริ่มดีขึ้น เธอก็โล่งอกไปไม่น้อย

ขณะที่ทั้งสองแม่ลูกกำลังพูดคุยกัน โทรศัพท์ของเวินหนิงก็ดัง มีข้อความส่งเข้ามา มาจากลู่จิ้นยวน

“สองทุ่มคืนนี้ มีเรื่องจะคุยกับเธอ”

เวินหนิงแปลกใจ มีเรื่อง?

เขายังมีเรื่องอะไรอีก?

หรือว่าคิดได้แล้ว ไม่อยากเปลืองเงินบนตัวของตัวเองอีก ก็เลยมาหาเธอ? หรือว่า อยากจะให้เซ็นสัญญาอะไรบางอย่าง ให้เธอปิดปากเรื่องระหว่างพวกเขา?

เวินหนิงยิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วจับโทรศัพท์ไว้แน่น “ได้”

เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าลู่จิ้นยวนคิดจะทำอะไรกันแน่

หลังจากที่เผชิญหน้าครั้งก่อน เวินหนิงรู้สึกว่าตัวเองเฉื่อยชาแล้ว ในเมื่อแบบนี้ ก็ตัดขาดดีกว่า แล้วไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก

ลู่จิ้นยวนเห็นข้อความที่เธอส่งกลับมา แล้วเหม่อ

ทั้งๆที่วันนี้เพิ่งเจอเธอ แต่ในใจก็รู้สึกคิดถึง แต่พอนึกถึงเรื่องคิดจะพูดวันนี้ ลู่จิ้นยวนก็มีความรู้สึกที่ว่าอยากจะหลบหลีกเรื่องนั้น

……

สองทุ่ม ลู่จิ้นยวนก็ไปหาเวินหนิงตรงเวลา

เวินหนิงกำลังนั่งรอเขาอยู่ในห้องรับแขก ผู้ชายเดินเข้ามา ก็เห็นเธอนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

ครั้งนี้ บนใบหน้าของเวินหนิงไม่มีรอยยิ้มที่อบอุ่น ไม่มองมาที่เขาด้วยซ้ำ พอเห็นว่ามีคนมาแล้ว จึงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “นายมาแล้วหรอ มีเรื่องอะไรก็พูดเถอะ”

ในใจลู่จิ้นยวนรู้สึกกังวล แล้วก็เดินไป “ฉันอยากจะคุยเรื่องอีกหน่อยกับเธอ”

เวินหนิงยิ้ม “จะให้ฉันเซ็นสัญญาอะไรล่ะ หรือว่าอีกหน่อยจะให้ฉันหายไปจากชีวิตนาย? ได้ ฉันตกลง”

น้ำเสียงของเธอ เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง แต่ก็แฝงไปด้วยความสั่นคลอ ลู่จิ้นยวนฟังไม่ออก เขากำมือแน่น แล้วมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น

“เธออยากจะหายไปจากชีวิตฉันขนาดนั้นเลยหรอ?”

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายคิดหรอ?” เวินหนิงวางผ้าคุมในมือลง แล้วมองไปทางลู่จิ้นยวน

สิ่งที่เห็นในโรงแรมวันนั้น ชาตินี้เธอก็ไม่มีทางลืมเด็ดขาด ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ระหว่างพวกเขา ยังจำเป็นต้องเจอกันอีกเหรอ?

“ฉันก็แค่พูดแทนนายก็เท่านั้น ไว้ใจเถอะ อีกหน่อย……ฉันจะหายไปแน่นอน จะไม่สร้างปัญหาให้คุณชายลู่แน่นอน”

เธอไม่อยู่ต่อหน้าฉันต่างหากถึงจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่ว่า ลู่จิ้นยวนก็กลืนคำพูดนี้ไว้

เขาพยายามหักห้ามความโมโห “แล้วยังไง? เธอจะพาแม่เธอไปไหน? เธอมีที่อยู่หรอ? มีงานหรอ? เลี้ยงดูตัวเองได้ แล้วจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่ได้เหรอ?”

ผู้หญิงคนนี้ หัวดื้อขนาดนี้ ยังคิดที่จะไปนอนข้างถนนหรอ ทำไมไม่รู้จักอ่อนข้อให้ แล้วทำให้ชีวิตตัวเองดีหน่อย?

เวินหนิงรู้สึกได้ว่า หรือว่า ลู่จิ้นยวนมองเธอแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วสินะ

ที่เขาพูดไม่มีผิดเลย เธอไม่มีอะไรทั้งนั้น ที่นี่เป็นที่ที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติ ไม่มีงานทำ แล้วไม่มีเงินด้วย

เพราะฉะนั้น เธอเลยเป็นได้แค่ของเล่นของเขา ถ้าอารมณ์ดี เขาก็ดีกับเธอแล้วโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ถ้าอารมณ์เสีย ก็ทิ้งลงถังขยะ

ตั้งแต่แรก เรื่องทั้งหมด เธอรนหาที่เอง เธอไร้ประโยชน์เอง เธอโดนลู่จิ้นยวนปั่นหัวแบบนี้ ยังคิดว่าตัวเองเจอรักแท้แล้ว……

เธอโง่เง่ามาก

“ฉันไม่มีปัญญา แต่……นี่ก็ไม่แสดงว่าอีกหน่อยก็จะไม่มี”

เวินหนิงกำมือไว้แน่น “ฉันจะไม่เป็นของเล่นของนายอีก ฉันจะใช้ชีวิตไปด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะดีจะเลว ฉันก็จะรับผิดชอบเอง”

เวินหนิงพูดทีละคำ แทนที่จะพูดว่ากำลังเถียงลู่จิ้นยวน แต่ดูเหมือนว่ากำลังให้กำลังใจตัวเองมากกว่า

ลู่จิ้นยวนโกรธจนอยากเปิดกะโหลกเวินหนิงมาดูว่าในนั้นมีอะไรบ้าง เขากำเอกสารโอนย้ายในมือไว้แน่น “แล้วสิ่งนี้ เธอก็จะไม่เอาแล้ว?”

เวินหนิงมองไป ลู่จิ้นยวนก็โยนของสิ่งนั้นมาหาเธอ บนนั้นเป็น โฉนดที่ดินตระกูลเวินที่เธออยู่มาเป็นสิบปี แล้วยังมีเอกสารการโอนย้ายหุ้นของบริษัทตระกูลเวินด้วย

นี่หมายความว่าอะไร เป็นเงินที่มาฟาดหัวเธอตอนเลิกกัน?

“ถ้าฉันบอกว่า ถ้าเธออยากได้ของสิ่งนี้ ก็ห้ามย้ายออกไปจากที่นี่ล่ะ?”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset