บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 252 คุกเข่าให้

“คุณหนูเวิน ตระกูลลู่ก็ถือว่าดีกว่าคุณ ที่นี่มีทั้งคุณหมอ เชฟ คนดูแลที่ดีที่สุด คุณคิดไปในทางที่ไม่ดีเอง”

ทางที่ไม่ดี?

เวินมองเกาะที่โดดเดี่ยวนี้ คนตระกูลลู่ไม่มีทางเข้าใจแน่นอน ไม่ใช่แค่สิ่งของเท่านั้นที่สามารถมาเติมเต็มความกังวลได้ เธอเป็นคน ไม่ใช่เครื่องจักรที่ใช้คลอดลูก

“ช่างเถอะ พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ ฉันกลับไปก่อนแล้วกัน”

เวินหนิงรู้สึกน่าเบื่อมาก แล้วหันหลังเดินกลับไป คุณหมอก็รีบเดินตามหลังเธอ กลับไปพร้อมกับเธอด้วย

ก่อนที่เด็กจะคลอด เขาก็จะอยู่ไม่ห่างจากเวินหนิงตลอด

“คุณหนูเวิน ผมรู้สึกว่าคุณไม่จำเป็นต้องต่อกรกับตระกูลลู่ ตอนนี้คุณดูแลครรภ์ที่นี่ดีๆ ก็ถือว่าดีกับทั้งตัวคุณแล้วก็ลูกคุณด้วย คุณเป็นแม่ ก็หวังว่าอยากให้เด็กเติบโตมาอย่างแข็งแรงไม่ใช่เหรอครับ?”

เวินหนิงได้ยิน ก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น “ใช่ ฉันเป็นแม่คน แต่ว่า ทำได้แค่คลอดเด็กคนนี้ออกมา แล้วเห็นเขาถูกพาตัวไปต่อหน้าตัวเอง”

“คุณหนูเวิน คุณคิดในทางที่เลวร้ายเกินไป ถ้าเด็กอยู่กับคุณก็จะมีความสุขเหรอครับ? ที่ตระกูลลู่ เขาสามารถมีทุกอย่างที่ดีที่สุด ได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดี ตั้งแต่เกิด ก็วิ่งนำทางเด็กหลายคนแล้ว”

“ถ้าพูดอย่างนี้ ที่ลูกฉันถูกแย่งตัวไป ฉันควรสำนึกบุญคุณ?” เวินหนิงรู้สึกว่าพูดคุยกับคนตระกูลลู่มันไร้ประโยชน์มาก คำพูดของคนคนนี้ เธอฟังแล้วรู้สึกตลกมาก

“ไม่ใช่สำนึกบุญคุณครับ แต่ว่า……ถ้าเจอปัญหาอะไรบางอย่าง แล้วต่อต้านไม่ได้ การยอมรับก็เป็นทางที่ดี เอาแต่คิดมากไม่ดีต่อร่างกายคุณ” ไม่ใช่ว่าคุณหมออยากจะปลอบใจเธอ แต่ว่าเธอมองโลกในแง่ร้ายเกินไป คิดทำอะไรก็จะทำให้สูญเสทั้งสองฝ่าย

“คุณหนูเวินอาจจะไม่รู้ ตระกูลที่ใหญ่โตถ้าเจอลูกนอกสมรสแบบนี้ ก็คงจะไม่รับเขาไปเลี้ยง แต่กลับจะใช้วิธีสกปรกแล้วจัดการทิ้ง เพราะฉะนั้น คุณควรจะรู้สึกว่าโชคดี นี่เป็นลูกคนแรกของคุณชาย ถึงแม้อีกหน่อยเขาอาจจะไม่ได้รับช่วงตระกูลลู่ต่อ แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไร แล้วมีชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นด้วย”

“จากนั้นก็กลายเป็นพวกเดียวกันกับคนตระกูลลู่?” เวินหนิงไม่แยแส “ทำตัวสูงส่ง คิดว่าตัวเองแตกต่างจากคนทั่วไป แล้วเอาแต่ใช้วิธีสกปรกแบบนั้นกับคนอื่น คุณอยากให้ลูกของคุณเป็นคนแบบนั้นหรอ?”

“……”

คุณหมอไม่รู้จะเอ่ยตอบยังไงดี เพราะยังไงตระกูลลู่ก็เป็นคนจ้างเขามา เขาแค่รู้สึกว่าเวินหนิงไม่ค่อยปกติ

คนทั่วไป ก็ต้องอิจฉาอำนาจที่ใหญ่โตของตระกูลลู่ไม่ใช่หรอ?

“คุณหนูเวิน คำพูดแบบนี้อีกหน่อยอย่าพูดเลยครับ ยังไงลูกของคุณก็ต้องเติบโตมาในตระกูลลู่ ถ้าเกิดคำพูดของคุณทำให้คุณหญิงรู้สึกขัดใจ ก็อาจจะไม่ดีต่อเด็กไม่ใช่เหรอครับ?”

เวินหนิงไม่พูดอะไรอีก เธอมองไปที่ท้องตัวเอง ลูกในท้องเธอจะไม่ปล่อยไปง่ายๆแบบนี้แน่นอน

……

โรงพยาบาล

ไป๋หลินยวี่เอาแต่ร้องไห้อยู่บนเตียง แล้วมีตำรวจล้อมอยู่ด้านข้าง กำลังบันทึกคำให้ความของท่านอยู่

“คุณพูดว่า ลูกสาวของคุณหายตัวไปสามวันแล้ว?”

ไป๋หลินยวี่พยักหน้า ตอนนี้ท่านโกรธตัวเองมากที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เวินหนิงหายตัวไป แต่ว่าแม้แต่จะลงจากเตียงท่านก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่โทรแจ้งตำรวจ

กี่วันนี้ ทีแรกไป๋หลินยวี่ก็ยังไม่คิดอะไรมาก แต่ว่า พอคืนแรกที่เวินหนิงไม่มาเยี่ยมท่าน แล้วโทรศัพท์ก็โทรไม่ติดด้วย ท่านก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

แต่ว่า ท่านอยู่ที่นี่ไม่รู้จักใครเลย แล้วไม่รู้ว่าจะขอความช่วยเหลือจากใครด้วย ตอนนี้ก็ได้ความช่วยเหลือมาจากคนอื่นก็เลยโทรแจ้งตำรวจ

“เราจะรีบตามหาตัวของคุณผู้หญิงคนนั้นครับ”

“คุณตำรวจ ลูกสาวฉันเธอยังท้องอยู่ พวกคุณต้องรีบหาตัวเธอให้เจอนะคะ!”

เห็นท่าทางคุณแม่ที่นอนติดเตียงแล้วขอร้องอ้อนวอนแบบนี้ ตำรวจก็รู้สึกสงสาร แต่ว่า หายตัวไปสามวันแล้ว ไม่มีใครโทรมาเรียกค่าไถ่ด้วย ถ้างั้น ความเป็นไปได้ที่จะลักพาตัวเพราะเรื่องเงินก็เป็นไปได้น้อยมาก

สถานการณ์ที่แย่ที่สุด ก็คือโดนโจรฆ่าแล้ว ไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว

ไป๋หลินยวี่จะคิดไม่ถึงได้ยังไง ท่านยอมให้คนอื่นมาเรียกค่าไถ่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เวลาผ่านไปแต่ละวินาที โอกาสรอดของเวินหนิงก็น้อยลงไปกว่าเดิม

นี่จะให้ท่านพักฟื้นอย่างสบายใจอยู่ได้ยังไง?

เป็นศัตรูของลู่จิ้นยวนแล้วจะมาแก้แค้นเขาหรือเปล่า พอหาตัวลู่จิ้นยวนไม่เจอ ก็เลยมาลักพาตัวลูกสาวท่าน?

ในหัวไป๋หลินยวี่ตีกันวุ่นไปหมด ท่านไม่รู้เบอร์ของลู่จิ้นยวน จะติดต่อเขาก็ทำไม่ได้

หลินซือเฉินเดินเข้ามา เห็นท่าทางของไป๋หลินยวี่แบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “คุณทำแบบนี้ จะทำให้ขั้นตอนการรักษาวุ่นวายไปกว่าเดิมนะครับ”

“เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว ฉันจะมีอารมณ์มาห่วงการรักษาได้ยังไง?”

“ผมรู้ว่าเวินหนิงอยู่ที่ไหน”

หลินซือเฉินเอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่ง เขารับคำสั่งของเถ้าแก่ลู่ให้รักษาไป๋หลินยวี่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะอะไรก็ห้ามทำให้การรักษาเสียเปล่าเด็ดขาด

แล้วอีกอย่าง ถ้าอารมณ์ไป๋หลินยวี่ขึ้นแล้วเป็นอะไรไป ตระกูลลู่ก็จะสูญเสียตัวประกันในการข่มขู่เวินหนิง เพราะฉะนั้น เขาต้องรับประกันได้ว่าชีวิตของท่านยังสามารถดำเนินต่อไปได้

“คุณรู้……”

ไป๋หลินยวี่ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “คุณรู้ได้ยังไง?”

แต่ว่าไม่นาน ท่านก็รู้สึกตัว หลินซือเฉินเป็นคนของลู่จิ้นยวน ถ้าเขารู้ความจริง งั้นก็แสดงว่าตระกูลลู่เป็นคนทำ?

ทำไมถึงต้องทำแบบนี้?

ไป๋หลินยวี่ไม่ได้เป็นคนโง่ สงบสติอารมณ์ได้แล้ว พยายามรื้อฟื้นเหตุการณ์ต่างๆ “ตระกูลลู่จะแย่งเด็กกลับไป?”

กับกฎตระกูลของผู้ดีที่เข้มงวด ท่านเข้าใจดีแล้ว แต่ก่อนท่านก็เคยเจอเรื่องแบบนี้ด้วย

ผู้หญิงส่วนใหญ่คิดว่าท้องแล้วก็สามารถแต่งเข้าไปในตระกูลที่ร่ำรวยได้ แต่สุดท้ายก็ถูกบังคับให้ทำแท้ง ไม่งั้นก็แย่งลูกไป เผชิญหน้ากับอำนาจแบบนี้ พวกเธอไม่มีโอกาสที่จะโต้ตอบเลย

ท่านไม่คิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นบนตัวลูกสาวของตัวเอง

“พวกคุณพาตัวเธอไปที่ไหน? ฉัน……พวกคุณห้ามแย่งลูกของเธอไปเด็ดขาด ฉันจะพาเธอไปจากที่นี่ แล้วไปไกลจากตระกูลลู่ จะไม่สร้างปัญหาให้พวกเขาเด็ดขาด พวกคุณปล่อยเธอได้ไหม?”

ไป๋หลินยวี่จะไม่รู้จักนิสัยของลูกสาวตัวเองได้ยังไง ตอนนั้นที่เธอพูดถึงลู่จิ้นยวน ตาเธอเป็นประกายดูมีความสุข สายตานั้นโกหกคนอื่นไม่ได้ เธอก็แค่ชอบผู้ชายคนนั้น ไม่ได้ต้องการโอกาสอะไรที่จะได้ดี แล้วไม่ได้มีแผนอะไรที่ไม่ดีด้วย

ถ้าเด็กถูกแย่งไปแบบนี้ เวินหนิงก็คงรับไม่ได้แน่นอน

ท่านที่เป็นแม่เหมือนกัน จะยอมปล่อยให้ลูกตัวเองเจอเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?

“ฉันขอร้อง ปล่อยลูกสาวฉันเถอะ พวกเราจะไม่ทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตระกูลลู่เสื่อมเสียรชื่อเสียงแน่นอน”

พอไป๋หลินยวี่นึกถึงเวินหนิงอาจจะลำบากอยู่ที่ไหนสักที่ ก็ไม่สนอะไรขนาดนั้น พยายามดิ้นรนลุกขึ้นจากเตียง แล้วคุกเข่าให้หลินซือเฉิน

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset