บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 256 สะเทือนใจ

เวินหนิงรู้สึกว่าเหมือนได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็รีบเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินออกไป

คุณหมออยากจะห้ามตัวเธอไว้ แต่เวินหนิงก็มองไปที่เขา “คุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า? คุณไม่กลัวว่าเย่หวานจิ้งจะรู้แล้วมาหาเรื่องคุณ?”

เมื่อเห็นแบบนี้ คุณหมอก็ทำอะไรไม่ได้แล้วปล่อยให้เวินหนิงเดินออกไป

พอเดินออกไป เวินหนิงก็เห็นคนใช้กำลังมุงดูทีวีอยู่ด้วยสีหน้าที่อิจฉา

บนนั้น เป็นงานเลี้ยงที่หรูหรา มีดอกไม้ประดับเต็มไปหมด ดอกไม้สีขาวสลับกับสีชมพู ดูเหมือนในฝันเลย งานเลี้ยงแบบนี้เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันไว้

เวินหนิงมองไป ก็ไม่มีอารมณ์อะไรจะชื่นชม ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกแน่นหน้าอก วินาทีต่อมา เป็นผู้ชายกับผู้หญิงคู่หนึ่งเดินออกมา บนทางเดินก็มีดอกไม้ที่เด็กโปรยไว้ เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกถึงความเป็นผู้ดีที่สูงส่ง

แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปก็ส่องไปที่ทั้งสอง เหมือนเทพบุตรกับนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์อย่างนั้น

เวินหนิงมองไป ก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้าเริ่มมัว เธอค่อยรู้ตัวว่าเธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว

รู้ตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ เรื่องนี้……มู่เยียนหรานเคยเตือนเธอแล้ว แต่เธอไม่เคยตั้งใจฟังเลย คิดว่าตัวเองพิเศษสำหรับลู่จิ้นยวน แต่สุดท้ายก็แค่เรื่องตลก

ตอนนี้บนเวทีที่เป็นประกายนั้น มู่เยียนหรานยืนอยู่ข้างลู่จิ้นยวน ดูเหมาะสมกันมาก ภาพเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เธอรู้สึกแสบตา แต่เธอกลับยืนอยู่ที่นี่บนเกาะร้างที่แสนห่างไกล แล้วเห็นวินาทีความสุขของพวกเขา

เวินหนิงยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง ขาของเธอก็หมดไปทันที จนร่างกายเซไป คุณหมอที่เดินออกมาจากห้องพอดีก็รีบพยุงตัวเธอไว้ มองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ ก็รู้สึกหวั่นใจ

“คุณหนูเวิน……”

“ใครให้พวกเขาเปิดวิดีโอนี้?”

เวินหนิงกระพริบตาแล้วพยายามห้ามน้ำตาไว้ เธอไม่อยากให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของตัวเอง

จงใจให้เธอมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่มีความสุขของสองคนนั้น ก็เพื่อที่จะทำให้เธอแสดงท่าทางที่รู้สึกเจ็บปวดสินะ……

เธอจะไม่ทำตามที่พวกเขาหวัง ทำไมพวกเขาถึงมาบงการอารมณ์ของเธอได้?

“คือ……”

คุณหมอลังเลไป เรื่องนี้เย่หวานจิ้งก็ต้องสั่งมาอยู่แล้ว

ถ้าเวินหนิงถามเขา ก็ต้องตอบว่าเป็นลู่จิ้นยวนเป็นคนสั่ง แบบนี้ถึงจะทำให้ทั้งสองตัดกันได้อย่างเด็ดขาด

เย่หวานจิ้งไม่ได้บ้าจนถึงขั้นอยากเจอฆ่าเอาชีวิต เพราะฉะนั้น ท่านแค่ใช้วิธีแบบนี้ แล้วทำให้ทั้งสองไม่มีทางกลับมาคืนดีกันได้อีก

หรือว่า นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดกับเวินหนิง ถึงแม้คุณหมอจะทำไม่ลงคอ แต่ก็ทำตามที่สั่งแล้วเอ่ยพูดทีละคำออกมา “คุณชาย คุณชายสั่งพวกเราให้คุณดูสิ่งนี้”

“……” เวินหนิงหัวเราะดังมากกว่าเดิม เสียงหัวเราะของเธอเริ่มแหบ คนรับใช้ที่กำลังมุงดูอยู่ก็รีบแยกย้ายไปจากที่นี่ กลัวว่าถ้าเกิดเรื่องอะไรแล้วพวกเขาต้องรับผิดชอบ

“คุณหนูเวิน คุณใจเย็นหน่อย”

คุณหมอเห็นเวินหนิงเป็นแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกวางใจ แต่กลับรู้สึกเกร็งไปมากกว่าเดิม

“ฉันใจเย็นมาก ฉันใจเย็นจนใจเย็นไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

ในสายตาของเวินหนิงมีความโกรธเกลียด สิ้นหวัง ทุกข์ทรมานเพิ่มขึ้นทั้งในหัวแล้วก็ในใจเธอ

เขาใจร้ายมาก คิดวิธีแบบนี้มาเสียดสีตัวเอง คงรู้สึกว่าช่วงเวลาที่อยู่กับเธอ ทำให้ความเป็นผู้ดีของเขามีรอยด่างสินะ ก็เลยใช้วิธีแบบนี้ให้เธอรู้ว่าความเสียใจมันเป็นยังไง

ถ้าอย่างนั้น เขาทำสำเร็จแล้ว

ตอนนี้ในหัวเวินหนิงไม่มีอย่างอื่นเลย นอกจากความเกลียดที่มีให้สองคนนั้น

“ฉันอยากอยู่คนเดียว”

เวินหนิงเดินเข้าไปในห้องช้าๆ เดิมทีคุณหมอจะปล่อยให้เธออยู่คนเดียว

ไม่ได้แต่พอเห็นสภาพเวินหนิงแบบนี้ เขาก็เลยปล่อยไป “มีเรื่องอะไรรีบเรียกผมนะครับ”

เวินหนิงโบกมือ เธอนั่งอยู่บนเตียง แค่หลับตาลง ภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ก็จะลอยเข้ามาในหัวเธอ จนเธออยากจะเป็นบ้า

ดูเหมือนว่า เย่หวานจิ้งกับเถ้าแก่จะรู้สึกพอใจกับลูกสะใภ้อย่างมู่เยียนหรานมาก เมื่อกี้ เธอก็เห็นใบหน้าของพวกท่าน

ภูมิใจ มีความสุข แล้วก็เอ่ยชม นั่นเป็นสิ่งที่พวกท่านไม่เคยแสดงต่อเวินหนิงเลย

เธอเป็นได้แค่คนที่ตระกูลลู่รังเกียจ แล้วก็ไม่เห็นหัว

พอคิดแบบนี้ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าด้านมาก ทั้งที่ตระกูลลู่แสดงท่าทางที่รังเกียจขนาดนั้น แล้วยังเอาแต่หน้าด้านอยู่กับลู่จิ้นยวนอีก

เธอเป็นคนต่ำทรามมากจริงๆ ที่เป็นแบบนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะเธอรนหาที่เอง

มือของเวินหนิงจับผ้าปูที่นอนไว้แน่น เธอทั้งเกลียดตระกูลลู่ ทั้งเกลียดตัวเองด้วย

ตัวของเวินหนิงเริ่มสั่นไม่หยุด ถึงแม้ในห้องจะเปิดแอร์ไว้ แล้วอุณหภูมิก็กำลังสบาย แต่เธอก็เอาแต่สั่น ทุลักทุเลเหมือนเธอออกมาจากในน้ำแข็งอย่างนั้น

บนใบหน้าเธอยังฝืนยิ้มไว้ ช่วงเวลาแบบนี้ควรจะร้องไห้ออกมา แต่เธอกระพริบตาก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเลย

ทั้งๆที่ในห้องมีแค่เธอคนเดียว เธอสามารถร้องไห้ออกมาได้ แต่เธอกลับอยากยิ้มหัวเราะ หัวเราะไปด้วย เธอก็ไอไปด้วย

ก็แค่คืนของของคนอื่นกลับไปก็เท่านั้น เธอไม่แคร์ ทำไมต้องใส่ใจด้วย

เวินหนิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาทันที ความปวดนั้นทุกข์ทรมานมากกว่าถูกตบตีอยู่ในคุกเป็นร้อยเท่าพันเท่า

ทันใดนั้น สีหน้าเวินหนิงก็ซีดขาวทันที แล้วเหงื่อก็ไหลไม่หยุด เธอนอนลงบนเตียง มือข้างหนึ่งจับผ้าห่มไว้ อยากจะตะโกนเรียกคนเข้ามา แต่เธอกลับรู้ตัวว่าแม้แต่แรงที่จะตะโกนเรียกก็ไม่มี

เจ็บมาก……

เวินหนิงจับผ้าห่มไว้แน่น จนเล็บหักไปหลายนิ้ว แต่เธอกลับเหมือนไร้ความรู้สึกอย่างนั้น

หรือว่า……เด็กจะคลอดแล้ว?

เวินหนิงเหงื่อไหลไม่หยุด จนเส้นผมเริ่มเปียก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองตกลงไปในอ่างน้ำ

“เจ็บ เจ็บมาก……”

ไม่ได้ เธอต้องรีบเรียกคนอื่นเข้ามา

ถึงแม้จะไม่เชื่อใจแล้วไม่อยากขอความช่วยเหลือจากคนตระกูลลู่ แต่ว่าก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลย เธอพยายามขยับร่างกายไปข้างหน้า “คนล่ะ?”

วินาทีนี้ เธอค่อยรู้ว่ามีคนคอยอยู่ใกล้ตัวเองมันสำคัญมากแค่ไหน เป็นเพราะเจ็บมาก เสียงเวินหนิงก็แหบมากด้วย ตะโกนเรียกไปหลายครั้ง ก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครได้ยินเลย

ปกติเธออยากจะขอเวลาส่วนตัว คนพวกนั้นไม่เคยเชื่อฟังเธอเลย ตอนนี้เธอต้องการความช่วยเหลือกลับไม่เห็นหัวสักคน

เวินหนิงกัดฟันแน่น แล้วใช้แรงทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่กวาดสิ่งของบนโต๊ะลงมาที่พื้น

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset