ได้ยินคำพูดนี้ คุณหมอปวดใจมาก ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงานของคนที่รักษาคนเจ็บและช่วยชีวิตคนให้พ้นจากความตาย พวกเขาดูเหมือนจะไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ป่วยเลย
นัยน์ตาของชายหนุ่มเข้มขึ้น เดินเข้าไปในห้อง ไปใกล้ๆใบหูของเวินหนิง “ตอนนี้ ผมสามารถที่จะช่วยคุณติดต่อคนภายนอกได้ แต่ว่า มีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว คุณคิดให้ดีแล้วกันอยากจติดต่อใคร!”
เวินหนิงมองชายตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เธอนึกว่าคนๆนี้จะเป็นหุ่นยนต์ทำเป็นแค่ฟังคำสั่งของตระกูลลู่ นึกไม่ถึง เขากลับจะช่วยเธอ?
“ทำไมคุณถึงจะช่วยฉัน?”
“……”
เพราะว่าทำไม?
แม้แต่ตัวคุณหมอเองก็ยังรู็สึกเหลือเชื่อ บางที คงเพราะว่าตัวเขานั้นยังมีจิตใจดีอยู่บ้างมั้ง เขาก็แค่ทำไม่ได้ที่จะต้องนั่งมองอีกครึ่งชีวิตของเวินหนิงโดนทำลาย
อย่างนี้ ชาตินี้เขาคงรู้สึกว่าจิตใจไม่สงบ
“คุณช่วยติดต่อคนๆนี้ให้ฉัน!”
เวินหนิงเห็นว่าเขาไม่พูด ก็ไม่ได้ถามต่อ สติที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมา เพราะว่าเสียเลือดและความเจ็บปวดเริ่มแพร่กระจาย เธอไม่มีเวลาแล้ว
ตอนนี้เธอเองก็ไม่มีวิธีอื่น เพียงแต่หวังว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้จะช่วยเธอจริงๆ และไม่ได้กำลังแกล้งเธอ
พอได้เบอร์โทรมา คุณหมอก็หาเหตุผลแล้วเดินออกไป กลิ่นเลือดคละคลุ้งที่นี่ทำให้คนหายใจได้ลำบาก
ต่อให้ทำเรื่องสุดท้ายที่เขาจะทำให้เวินหนิงได้ ก็นับว่าทำให้เขาสบายใจแล้วกัน
ตามความต้องการของเธอ คุณหมอนำข้อความที่เธอขอความช่วยเหลือส่งไปให้เจ้าของเบอร์นั้น
แต่ว่าเพื่อปกป้องตัวเอง เขาไม่ได้เขียนชื่อลงไป
ตอนนี้ เขาทำได้เพียงแค่ภาวนาให้คนๆนั้นเชื่อถือได้ สามารถที่จะคิดวิธีช่วยเวินหนิง
……
เหอจื่ออันได้รับข้อความในตอนดึก พอเปิดดู มีเพียงแค่หนึ่งประโยค ฉันอยู่ที่บ้านบนเกาะร้างของตระกูลลู่ มาช่วยฉันด้วย
เขาขมวดคิ้ว นั่นมันคืออะไร ข้อความก่อกวน?
กำลังจะลบทิ้ง มือของเขากลับหยุดลง
โดนตระกูลลู่ ลักพาตัว?
เหอจื่ออันเบิกตาโต ถึงแม้ว่าข้อความนั้นจะไม่ได้เขียนชื่อเอาไว้ แต่ว่า เขากลับมีความรู้สึกที่รุนแรงมาก คิดว่านั่นเป็นเวินหนิงที่ส่งมา
ยังไงเสีย เธอก็ไม่ได้ติดต่อกับเขามานานแล้ว
ตอนแรก เขานึกว่าเวินหนิงนั้นคบอยู่กับลู่จิ้นยวน ก็ไม่ได้ไปรบกวน นี่เป็นการเลือกของเวินหนิง เขาควรจะเคารพ
แต่ว่าตอนนี้ดูแล้ว เรื่องราวไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น
เหอจื่ออันลุกขึ้นมาในทันที เพราะว่าการขยับที่รุนแรงเก้าอี้ที่อยู่ทางด้านหลังก็เลยล้มลงไป ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น แต่เขาราวกับว่าไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น เดินวนไปวนมา
เวินหนิง จะโดนลู่จิ้นยวนลักพาตัวไปได้ยังไงนะ?
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้เหอจื่ออันจะอยากรู้ว่าเวินหนิงเป็นยังไงบ้าง แต่ว่า ครั้งก่อนที่รู้สึกตัวว่าระยะห่างของตัวเองกับตระกูลลู่นั้นกว้างมาก เขาก็ยับยั้งความคิดเอาไว้ แล้วก็เดินหน้าขยายธุรกิจต่อ
มีเพียงต้องมีพลังมหาศาล ถึงจะปกป้องคนที่ตัวเองอยากปกป้องได้ การแพ้ที่ผ่านมา กำลังเตือนตัวเขาว่าอย่าลืมจุดนี้
เขานึกว่า ลู่จิ้นยวนถึงได้ทำเรื่องราวยุ่งยากสารพัดเพื่อเวินหนิง แถม ในท้องของเวินหนิงก็ยังมีลูกของเขาอยู่
อย่างน้อย ลู่จิ้นยวนก็คงไม่ปล่อยให้เธอนั้นได้เจอกับเรื่องลำบาก ปกป้องเธอได้ครบทุกๆด้าน แต่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แบบนั้น
เหอจื่ออันมองตัวอักษรพวกนั้น เขาไม่รู้ว่าตกลงแล้วเวินหนิงเจออะไร แต่แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องที่ลำบากมากๆแน่ๆ ถึงได้บังคัญให้เธอนั้นต้องทำเรื่องแบบนี้
“ส่งคนออกไปตรวจเดี๋ยวนี้!”
เหอจื่ออันใช้ให้คนไปตามสืบเรื่องที่เกี่ยวข้องกันในทันที เพียงแต่ สีหน้าของเขานั้นเคร่งขรึมตลอด
สำหรับสถานการณ์ของตระกูลลู่ เขานั้นไม่มีความมั่นใจ ถ้ากล้าจะลักพาตัวคนเป็นๆไปคนหนึ่ง นั่นหมายความว่าพวกเขานั้นมีความมั่นใจมาก
ตรวจสอบพบที่อยู่ของเวินหนิง เกรงว่าความหวังจะริบหรี่
แต่ เขายังมีอีกหนึ่งวิธี……
เหอจื่ออันกำหมด แต่ว่าวิธีนั้น……
หลังจากที่ผ่านไปสิบกว่านาที ลูกน้องของเหอจื่ออันก็เดินมา “ขอโทษครับ ถึงแม้ว่าเกาะร้างของตระกูลลู่จะมีอยู่แค่สองสามเกาะ แต่ถ้าจะตรวจสอบโดยละเอียด อย่างน้อยก็ต้องใช้24ชั่วโมง……”
24ชั่วโมง?
แม้แต่นาทีเดียวเหอจื่ออันก็รอต่อไม่ไหวแล้ว
เขาบีบบุหรี่ในมือให้ดับอย่างแรง หลังจากนั้นก็ลุกขึ้น “ไม่ต้องตรวจสอบแล้ว ฉันมีวิธีอื่น!”
……
เวินหนิงเกาะคนสองสามคนที่มีเลือดพุ่งออกมา แล้วก็พยายามอดทนอยู่อีกสองสามชั่วโมง
เธอพยายามบังคับให้ตัวเองมีสติอยู่ตลอด ไม่ให้ตัวเองสลบไป
ในขณะเดียวกัน ก็ภาวนาอยู่ในใจ ให้เหอจื่ออันเห็นข้อความขอความช่วยเหลือของเธอ
ต้องตามให้เหอจื่ออันมาช่วย ที่จริงเวินหนิงเองก็เบื่อมากๆเหมือนกัน แต่ว่า ในคนที่เธอรู้จัก ที่สามารถช่วยเหลือเธอได้ ก็มีเพียงแค่ผู้ชายคนนี้เท่านั้น
“คุณหนูเวิน อาการของคุณแย่มากจริงๆ พวกเราคิดว่าจะผ่าตัดมดลูกของคุณออก…….”
เหล่าแพทย์ผดุงครรภ์เห็นว่าอาการยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ เอาเอกสารออกมาให้เวินหนิงเซ็นต์
ในมุมมองของพวกเขา แทนที่จะลองเสี่ยงดูสักตั้ง ไม่สู้จบความทรมานครั้งนี้ไปเลยดีกว่า
ส่วนเรื่องเวินหนิงจะเป็นยังไงต่อจากนั้น ล้วนเป็นเรื่องที่ตระกูลลู่ต้องไปพิจารณา
เวินหนิงเบิกตากว้าง คนพวกนี้ ตกลงแล้วยังเป็นหมอกันอยู่อีกหรือเปล่า อนาคตของเธอ ในสายตาของพวกเขามันไม่มีค่าให้พูดถึงเลยหรือ?
“ฉันไม่เอา!”
เวินหนิงปฏิเสธในทันที ผ่าตัดมดลูกออก ในอนาคตเธอก็ไม่มีโอกาสจะได้เป็นแม่คนอีกแล้ว เธอก็จะไม่ใช่ผู้หญิงที่สมบูรณ์อีกแล้ว
คนพวกนี้ ทำไมถึงได้โหดร้ายแบบนี้? เอาตัวลูกของเธอไป แถมยังกีดกันโอกาสที่จะมีลูกของเธออีก?
“เป็นเพราะพวกคุณที่ถ่วงเวลาการคลอดของฉันถึงได้เป็นแบบนี้ พวกคุณนี่มัน ไม่เหมาะที่จะเป็นหมอ…….”
แค่คิดถึงช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่เธอทรมานกับการคลอดราวกับอยู่ในนรกนั่น เวินหนิงก็เกลียดเข้าไส้ เธอเกลียดคนดีจอมปลอมพวกนี้
เวินหนิงพยายามตั้งสติเอาไว้ แต่ว่าคนสองสามคนเริ่มมองเธอด้วยความรำคาญ
“คุณเป็นถึงแม่คน การคลอดแบบธรรมชาติดีกับเด็กมากกว่า เรื่องแค่นี้ไม่รู้เหรอคะ? พวกเราก็แค่ทำตามคำสั่ง ถ้าเกิดว่าจะเกลียดหรือไม่พอใจ ก็คงต้องไปเกลียดตระกูลลู่ อย่ามาโทษพวกเรา!”
พูดแล้ว กลับมีท่าทางไม่สนใจเวินหนิงความต้องการของเวินหนิง
เวินหนิงเบิกตาโตด้วยความสิ้นหวัง เพียงแต่ในตอนนี้เธอไม่มีแรงจะขัดขืนแล้ว ทำได้แค่เพียงมองเท่านั้น “พวกคุณทำไม่ได้นะ ฉันไม่ยินยอม ฉันไม่ยินยอม!”
“นี่ก็เพื่อตัวคุณเองนะคะ”
“ถ้ายังยื้อต่อไป ยังไงเกล็ดเลือดพวกนี้ก็ต้องถูกใช้จนหมด ถึงตอนนั้นการผ่าตัดก็ไม่สามารถช่วยชีวิตคุณไว้ได้”
“ตระกูลลู่ให้เงินชดเชยจำนวนหนึ่งกับคุณ รับเงินนั่นไป ต่อให้ต่อไปคุณจะมีลูกไม่ได้แต่คุณก็ไม่เสียเปรียบ”
และในตอนที่เวินหนิงใกล้จะหมดหวัง ในตอนนี้ ด้านนอกก็มีเสียงอึกทึกดังขึ้น
นั่นเป็นเสียงของเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังลงจอด
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างชะงักกันไป ที่นี่เป็นเกาะร้าง คนที่จะมาที่นี่ได้นั้นมีน้อยมาก
“ใช่คุณนายลู่หรือเปล่า?”
หลังจากที่รู้ว่าเด็กทารกคลอดออกมาแล้ว แน่นอนว่าเย่หวานจิ้งจะต้องมาดูหลายชายของตัวเองในทันที
“รีบไปปลอบคุณชายน้อยเร็ว”
เวินหนิงได้ยินชื่อนี้ เธอเกลียดเข้าไส้ แต่ในตอนที่ทุกๆคนกำลังรอให้เย่หวานจิ้งปรากฎตัว ประตูห้องผ่าตัดก็โดนถีบออก
คนที่เข้ามา ทำให้ทุกๆคนเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ