“วันนี้อาจจะไม่กลับมาแล้ว”
ลู่จิ้นยวนพูดกับป้าจาง จากนั้นก็นั่งบนรถ เอาที่อยู่ให้คนขับรถดู ให้เขาไปที่นั่นทันที
ป้าจางมองลู่จิ้นยวนจากไป ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ มันไม่ควรเป็นเพราะความผิดพลาดของเธอ เลยโดนแทนที่ด้วยคนอื่น
เมื่อครู่นี้เนื้อหาที่ลู่จิ้นยวนโทรศัพท์ เธอได้ยินแล้ว
ลู่จิ้นยวนไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย อุ้มลู่อันหราน ในขณะที่สีหน้าเขาเคร่งขรึมนิดหน่อย
ถึงไม่รู้ว่าตอนนี้เวินหนิงมีความคิดอย่างไร แต่ความรักที่เธอมีต่อลูกนั้นไม่ต้องสงสัยเลย
เกรงว่า สิ่งที่ทำให้เธอไม่อยากปรากฏตัว เพราะวิธีการในตอนแรกของตระกูลลู่ และ……อันตรายที่เขาทำกับเธอในตอนแรก
มีความมุ่งมั่นในดวงตาลู่จิ้นยวนนิดหน่อย เขารู้ดีว่าเรื่องราวในตอนแรกมันทำร้ายเวินหนิงมากแค่ไหน แต่จะให้เขาปล่อยวาง สุดท้ายแล้วมันก็เป็นไปไม่ได้
ได้รู้ว่าเธออาจจะมีชีวิตอยู่ ความรู้สึกเขาก็ไม่สามารถใช้คำว่าดีใจหรือสุขใจมาอธิบายได้ กลับกัน รู้สึกสงบอย่างแปลกประหลาด มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้สึกได้ ชิ้นส่วนที่หายไปบนหน้าอกถูกเติมเต็มแล้ว
เขาต้องพาผู้หญิงคนนั้นกลับมา ถึงเธอจะไม่ยอมก็ตาม จะเกลียดเขาด้วยเหตุนี้ก็ช่าง ในเมื่อถูกเขาจับได้แล้ว ก็ไม่อาจปล่อยมือได้อีกเด็ดขาด
“อ่า……” ลู่อันหรานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยื่นมือเล็กออกไปจิ้มแก้มลู่จิ้นยวน
“อันหราน หนูจะได้เจอแม่แล้ว ดีใจไหม?”
ลู่จิ้นยวนกอดลูกแน่น การมีอยู่ของลู่อันหราน ก็เป็นชิปต่อรองว่าเวินหนิงจะไม่หนีเขาไป
……
ไม่นาน รถก็มาจอดโรงแรมที่เหอจื่ออันพักอยู่
ดูเหมือนเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจ เขาอาศัยในพื้นที่ห่างไกลมาก ถึงจะเป็นโรงแรมห้าดาว แต่มันก็อยู่ในเขตชานเมือง ปกติการจราจรไม่เยอะจนเกินไป
เมื่อลู่จิ้นยวนเดินเข้าไป ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้จัดการล็อบบี้ หลังจากจำเขาได้ ก็รีบเดินเข้าไปอย่างกระตือรือร้น
“คุณลู่ มีอะไรให้รับใช้ไหมครับ?”
ลู่จิ้นยวนก็ไม่เกรงใจ “เหอจื่ออัน อยู่ที่นี่ไหม?”
ผู้จัดการล็อบบี้ลังเลสักพัก “ขอโทษนะครับ นี่เป็นความเป็นส่วนตัวของแขกเรา เราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้”
เหอจื่ออันก็เป็นคนที่เขาไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้ ดังนั้น หลังจากได้ยินลู่จิ้นยวนถามแบบนี้ ผู้จัดการล็อบบี้ก็แอบบ่นในใจ
เห็นได้ชัดมากว่าชายคนนี้ไม่ได้มาพัก แต่มาตามหาคน ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้น และจะเอาตัวเองไปเกี่ยวข้อง
ลู่จิ้นยวนยกยิ้ม มองโรงแรมแห่งนี้ ถึงแม้รูปแบบอาคารนี้จะหรูหราสุดๆ แต่เนื่องจากการบริหารไม่ดี ธุรกิจที่นี่จึงไม่ดีเท่าไร ก่อนหน้านี้นานมาแล้วก็ประกาศขาย
เดิมทีลู่จิ้นยวนไม่มีความคิดที่จะลงทุนโรงแรมนี้ แต่ตอนนี้……
ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย “ช่วงนี้ฉันสนใจจะซื้อโรงแรม……ที่นี่ ดูไม่เลวนะ”
ถ้าเป็นคนอื่นพูด อาจจะทำให้น่าหัวเราะเยาะเย้ยได้ แต่พอลู่จิ้นยวนพูดออกมา มันดูน่าเชื่อถือมาก ตอนนี้บริษัทตระกูลลู่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซื้อโรงแรมสักแห่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“ฉันชอบคนที่รู้จักกาลเทศะ”
ความนัยของลู่จิ้นยวนนั้นชัดเจนมาก
ผู้จัดการล็อบบี้ลังเล จากนั้นใบหน้าก็มีความเยินยอเพิ่มขึ้น “คือ คุณเหออยู่ที่นี่จริงๆ ครับ”
“คนที่อยู่กับเขา มีใครอีก?”
สิ่งที่ลู่จิ้นยวนกังวลมากที่สุดคือเวินหนิง
“และผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าชื่ออะไร……”
“พวกคุณไม่ได้ลงทะเบียนเหรอ?”
“คือ……” ผู้จัดการล็อบบี้ยิ้มกระอักกระอ่วน ยังไงแล้วก็เป็นคนที่เหอจื่ออันพามา เขาจะกล้าถามมากได้อย่างไร?
“เป็นผู้หญิงลักษณะยังไง?”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว
“มองไม่ค่อยชัด ดูเหมือนตอนเข้ามาจะสวมแว่นกันแดดหนาๆ สวมผ้าพันคอ ดูน่าสงสัยมาก”
พูดแล้วเขาก็สงสัยนิดหน่อย ผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าจะปรากฏตัวขึ้นตอนไหน ก็มักจะมีอุปกรณ์ครบครัน ดูเหมือนกลัวคนอื่นเห็นใบหน้า
คนแบบนี้ ต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ
“หือ?”
ตอนนี้ลู่จิ้นยวนยิ่งมั่นใจ จากนั้นก็ถามสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุด
“พวกเขาอยู่ด้วยกันไหม?”
ลู่จิ้นยวนพบว่าหน้าอกเขากำลังจะระเบิด
พอคิดว่าเวินหนิงอาจจะอยู่สองต่อสองห้องเดียวกันกับเหอจื่ออัน หัวใจเขาก็หดหู่อย่างมาก
ถ้าเหอจื่ออันกล้าแตะต้องเวินหนิงแม้แต่ปลายนิ้ว เขาก็ไม่รังเกียจที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เขาจ่ายราคา
“เปล่าครับ สองห้องแยกกัน”
ได้ยินประโยคนี้ หัวใจลู่จิ้นยวนก็มีความสุขเอ่อขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเพราะรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีพัฒนาการเป็นชิ้นเป็นอัน และรู้สึกว่าเวินหนิงยังไม่ยอมรับคนอื่น บางทีอาจจะเพราะคิดถึงตนอยู่ สรุปแล้วมันทำให้เขาอารมณ์ดีไม่น้อยเลย
“เอาบัตรห้องผู้หญิงคนนั้นให้ฉัน”
ลู่จิ้นยวนไม่ได้ลังเลเลยสักนิด เอ่ยสั่งอย่างเอาแต่ใจ
ไม่นานนัก บัตรห้องหนึ่งใบก็ถูกส่งไปในมือลู่จิ้นยวน
เห็นเลขห้องบนนั้นแล้ว ชายหนุ่มก็กระตุกมุมปาก อุ้มลู่อันหรานที่หลับปุ๋ยอยู่บนรถลงมา ก้าวเท้ายาวเดินเข้าไป
พอคิดว่าจะได้เจอเวินหนิง ฝีเท้าเขาก็กลายเป็นเร็วขึ้น
ลู่จิ้นยวนไม่ได้เคาะประตู ใช้บัตรห้องรูดโดยตรง
เวินหนิงไม่อยู่ ในห้องไม่มีคน
“หรือออกไปข้างนอกเหรอ?”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้คิดจะออกไป แต่วางลู่อันหรานที่ง่วงนอนไว้บนเตียงก่อน
บางทีอาจจะเพราะบนเตียงมีกลิ่นที่คุ้นเคย ลู่อันหรานที่จำเตียงได้เสมอก็ไม่ได้ร้องไห้โวยวาย แต่กลับคลานไปคลานมา ด้วยท่าทางเด็กน้อยขี้สงสัย
ลู่จิ้นยวนใช้โอกาสนี้มองสำรวจทุกอย่างที่นี่
เวินหนิงไม่ได้เอากระเป๋าเดินทางมา ดังนั้นทุกอย่างจึงเหมือนห้องพักในโรงแรมทั่วไป มีแค่เครื่องสำอางบางชิ้นบนโต๊ะ
ลู่จิ้นยวนมองหลายที ก็เห็นหน้ากากอนามัยและแว่นกันแดด
ต้องบอกเลยว่าเธอปลอมตัวได้อย่างระมัดระวังมาก
ก็แบบนี้แหละ ลู่จิ้นยวนนั่งอยู่ที่นี่ อย่างเหนือความคาดหมาย ไม่ได้ใจร้อนเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นมาก
เขาสงสัยมาก ตอนที่เวินหนิงปรากฏตัวต่อหน้าตน……จะมีสีหน้าอย่างไร
……
เวินหนิงกินข้าวกับเหอจื่ออันข้างนอกเสร็จแล้ว ทั้งสองคุยกันพลางเดินกลับไป
“จองตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราจะกลับไปให้เร็วที่สุด”
เหอจื่ออันกังวลว่าจะมีปัญหาใหม่เข้ามาแทรก ในเมื่อเวินหนิงทำความปรารถนาให้เป็นจริงแล้ว เขาหวังว่าจะพาเธอกลับไปให้เร็วที่สุด เพื่อสะกดจิตบำบัด
“เร็วจัง……”
เวินหนิงลังเลนิดหน่อย วันนี้เจอลู่อันหรานได้อย่างราบรื่น เธอเกิดความโลภ บางทีอาจจะได้เจออีกหลายครั้งก็ได้
“ฉันกลัวว่าจะมีปัญหา”
เหอจื่ออันจับมือเวินหนิง เห็นความเห็นห่วงในดวงตาเขา เวินหนิงก็ไม่มีอะไรจะพูด คนคนนี้คิดถึงตนอยู่ตลอดเวลา
“ฉันรู้แล้ว”
เวินหนิงพยักหน้า ทั้งสองพูดเรื่องอื่นบ้างนิดหน่อย เวินหนิงก็กลับมาถึงห้องตัวเอง
แต่เมื่อเปิดประตู ภาพด้านในก็ทำให้เธออ้าปากกว้างด้วยความตกตะลึง