โม่โยวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมรู้สึกแบบนั้น แต่ว่า พอเธอรู้สึกตัว ก็อุ้มเด็กน้อยขึ้นแล้ว
“แบบนี้เร็วกว่า”
เด็กน้อยยังไม่ทันได้ปฏิเสธ ก็ถูกเธออุ้มอยู่ในอ้อมกอด ทีแรกเขาอยากจะดิ้น แต่ว่าอยู่บนร่างกายของผู้หญิงคนนี้ รู้สึกอบอุ่นมากจนเขาลืมดิ้นไปเลย
“คนพวกนี้เรารู้จักหรอ?”
“ไม่รู้จัก น่าจะเป็นศัตรูของคุณพ่อ อยากจะใช้ฉันไปขู่คุณพ่อ”
พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าโม่โยวก็ตึงเครียด ดูเหมือนว่าอยากจะปกป้องเด็กน้อยคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วล่ะ
แต่เธอก็ไม่อยากจะส่งตัวเขาให้กับคนแปลกหน้าพวกนั้น
คิดไปด้วย ทางข้างหน้าก็มีคนโผล่มา ที่แท้ก็มาดักทางเธอไว้ พวกเขาถูกล้อมแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้การแน่……
คนพวกนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เด็กน้อยก็กระโดดออกจากอ้อมกอดของโม่โยว “ช่างเถอะ เป้าหมายของพวกเขาเป็นฉัน เธอรีบวิ่งหนีไปเถอะ ไม่งั้นเธอก็จะซวยไปด้วย”
โม่โยวรู้สึกอึ้ง เด็กอายุแค่สี่ห้าขวบ แต่ก็ยอมที่จะเสียสละตัวเองมาปกป้องเธอใ
นใจก็รู้สึกซึ่ง แต่ก็มีความมั่นใจเยอะไปกว่าเดิม “เรากำลังพูดอะไรเนี่ย เราเป็นแค่เด็ก ถ้าถูกพวกเขาจับก็จบล่ะสิ ฟังนะ เดี๋ยวน้าจะยื้อพวกเขาไว้เอง แล้วเรารีบวิ่งเข้าใจไหม?”
โม่โยวมองเห็นเด็กน้อยที่น่ารักตรงหน้า เขาต้องเป็นที่รักของคนในบ้านแน่นอน ไม่เหมือนเธอ เป็นแค่ส่วนเกินบนโลกนี้ เธอช่วยเขาไว้ก็ถือว่าทำตัวเธอให้มีค่าแล้วกัน
“เธอ……”
เด็กน้อยไม่ได้ตอบตกลง แต่ว่า โม่โยวพุ่งออกไปแล้วไปรั้งคนพวกนั้นไว้อย่างไม่ห่วงชีวิต
อาจจะเป็นเพราะว่าถูกชกอย่างไม่ทันตั้งตัว คนเสื้อดำยังไม่รู้สึกตัวก็ถูกเธอล็อคไว้แล้ว
“ยังจะยืนอยู่ทำไม!” โม่โยวตะโกนจนทำให้เด็กน้อยรู้สึกตกใจ เขากำมือไว้แน่นแล้วรีบวิ่งออกไปสุดชีวิต
เขาต้องออกไปเรียกคนมาช่วยผู้หญิงคนนี้ออกไปให้ได้
……
ในขณะเดียวกัน มีรถหรูสีดำหลายคันแล่นมาจอด จนทำให้คนรอบข้างหันมาสนใจ
“ที่นี่เหรอ?”
ลู่จิ้นยวนลดกระจกรถลงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
อันเฉินถือเครื่องจับจีพีเอสในมือก็พยักหน้า
กี่วันนี้ เป็นเพราะลู่จิ้นยวนยุ่งมาก ก็เลยไม่มีเวลาเล่นกับคุณชายน้อย แล้วไม่ให้เขาออกไปที่ไหนด้วย เพราะฉะนั้น คุณชายน้อยก็เลยเอาแต่ใจไปหน่อย
ไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีอะไร จนสามารถแก้รหัสในบ้านได้ จากนั้นก็วิ่งออกมาเอง
ที่ลู่จิ้นยวนไม่อยากให้เขาออกไป ก็เพราะกลัวว่าเขาจะเจออันตราย บริษัทที่เขาเพิ่งซื้อมากี่วันก่อน เจ้าของบริษัทเจ็บใจที่ต้องล้มละลาย ก็เลยเอาแต่ใช้วิธีสกปรก ไม่แน่ก็อาจจะเล็งไปที่ลู่อันหราน เพราะฉะนั้นเขาก็เลยสั่งให้เขาอยู่แต่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
ไม่คิดเลยว่า กังวลอะไรก็จะเป็นแบบนั้น
แต่ว่า ลู่อันหรานเป็นลูกรักของตระกูลลู่อยู่แล้ว ในร่างกายของเขาก็มีจีพีเอสติดตามตัวอยู่ตลอด ตอนนี้ตำแหน่งอยู่ที่นี่ พวกเขาก็ตามหาตัวเจอได้อย่างรวดเร็ว
“รีบให้ทุกคนออกไปหา” ลู่จิ้นยวนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “คนที่กล้าลงมือ ก็ต้องจับเป็นกลับมาให้พวกมันรู้ว่าลงมือกับคนตระกูลลู่จะเป็นยังไง”
พอพูดจบ ทุกคนก็สลายตัวไปเริ่มตามหาลู่อันหราน
ขณะที่ทุกคนกำลังออกตามหา ก็มีร่างเล็กโผล่ออกมาจากที่มืด พอเห็นว่าเป็นรถของลู่จิ้นยวน เขาก็รีบวิ่งไปทันที
“คุณพ่อ!”
ทุกคนค่อยโล่งอกไป พอเห็นว่าลู่อันหรานไม่เป็นอะไร ก็รู้สึกว่าเหมือนยกก้อนหินออกจากหน้าอก
ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลู่อันหราน ทุกคนก็ต้องซวยไปด้วยแน่นอน
“ลู่อันหราน ขึ้นรถ อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะผ่านไปแบบนี้”
พอลู่จิ้นยวนเห็นว่าลู่อันหรานไม่เป็นอะไร ก็โล่งใจไป แต่สีหน้าก็เข้มงวดไปกว่าเดิม
เขาวิ่งเล่นไปเรื่อย จนทำให้เขาต้องยอมทิ้งงานแล้วมาตามหาคน จนทำให้เกิดความเสียหายที่ประมาณค่าไม่ได้
“ไม่ครับคุณพ่อ ผมยังกลับไม่ได้……”
เขารู้ว่าเขาทำให้คุณพ่อโมโห แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้
เมื่อลู่จิ้นยวนเห็นว่าเขายังขัดคำสั่ง สีหน้าก็เยือกเย็นไป ในสายตาก็มีความโมโห “เราอยากทำอะไร?”
บนใบหน้าของลู่อันหรานมีความดื้อดึง แล้วใช้มือที่สกปรกมาเช็ดเหงื่อของตัวเอง “เมื่อกี้มีผู้หญิงคนหนึ่งช่วยผมไว้ เธอถูกคนพวกนั้นจับตัวไป รีบไปช่วยเธอ! ถ้าหาตัวเธอไม่เจอ ผมก็จะไม่กลับไป!”
ลู่อันหรานมองไปที่ซอยลึกอย่างเป็นกังวล
“ผู้หญิง?”
เมื่อลู่จิ้นยวนได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็ขมวดคิ้ว
ท่าทางลู่อันหรานไม่เหมือนกำลังโกหก ถ้ามีคนคนนั้นจริง……
“พวกแกรีบไปหา”
ถ้าปล่อยผู้มีบุญคุณของลูกชายตัวเองไว้ไม่สนใจ ก็ไม่ใช่สไตล์ของเขา ลู่จิ้นยวนก็เลยไม่ได้โมโห “ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่ว่าเราทำเรื่องแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง กลับไปถึงบ้าน รู้ตัวนะว่าควรจะโดนลงโทษอะไร”
ลู่อันหนานขนลุกขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเห็นสีหน้าที่เยือกเย็นของคุณพ่อตัวเอง ในใจก็รู้สึกหดหู่ เขารู้ สิ่งที่รอเขาอยู่ไม่ใช่งานเบาเลย แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่พยักหน้า “ผมรู้ครับ ถ้าตามหาผู้หญิงคนนั้นเจอ ผมก็จะกลับไปกับคุณพ่อครับ”
ลู่จิ้นยวนรู้สึกแปลกใจ เด็กคนนี้ ปกติซนที่สุด ทุกครั้งที่ตัวเองจะลงโทษเขา เขาก็จะหาข้ออ้างต่างๆมาพูด แต่ครั้งนี้ เพื่อผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนนั้น จนยอมให้เขาลงโทษ?
พระอาทิตย์ออกมาจากทิศตะวันตกสินะ
“ขณะที่ลู่จิ้นยวนกำลังคิดอะไรบางอย่าง คนที่ออกไปตามหาเมื่อกี้ก็กลับมาพร้อมกับจับคนกลับมาด้วย
คนเสื้อดำพวกนั้นดูน่ากลัวมาก แต่เผชิญหน้ากับบอดี้การ์ดของตระกูลลู่ที่ผ่านการฝึกฝนมาดี ดูก็เหมือนกับหนูเจอแมวที่ไม่มีโอกาสหนีเลย
“ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ดูเหมือนจะสลบไปแล้วครับ”
บอดี้การ์ดของตระกูลลู่ก็ทำตามที่ลู่อันหรานพูด แล้วพาตัวโม่โยวออกมาด้วย
“สลบไปแล้ว” ลู่อันหรานตกใจแล้วรีบลงจากรถทันที บอดี้การ์ดเห็นว่าเขาเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้มาก ก็เลยวางตัวเธอลง “ตอนที่พวกผมไปถึง เธอก็สลบอยู่บนพื้นแล้วครับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ลู่อันหรานมองไปที่ใบหน้าของโม่โยว ในใจก็รู้สึกผิดแล้วก็เศร้ามากด้วย เกิดเรื่องเพราะเขางั้นหรอ?
นี่จะทำยังไงดี?
บนหน้าของโม่โยวไม่รู้ว่าเป็นเพราะหกล้มหรือเพราะอะไร ก็มีคราบเลือดติดมาด้วย เสื้อผ้าบนร่างกายก็ยุ่งเหยิง ผิวกายที่ขาวอมชมพูก็เผยออกมา บนนั้นก็มีฝุ่นด้วย ทั้งทุลักทุเลทั้งอ่อนแอมาก
“ส่งตัวผู้หญิงคนนี้ไปโรงพยาบาล” ลู่จิ้นยวนไม่รู้สึกสนใจผู้หญิงแปลกหน้า ก็เลยเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง
“ผมก็จะไปด้วย”
“เราไปแล้วมีประโยชน์อะไร?”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว ลงจากรถแล้วอุ้มตัวลู่อันหรานขึ้น ทันใดนั้น ก็เห็นหน้าตาผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้น
ผู้หญิงคนนี้ เขาไม่เคยเจอ แต่กลับรู้สึกคุ้นชินอย่างบอกไม่ถูก