บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 30 เข้าใจเขาผิดไป

ในคืนนั้น ลู่จิ้นยวนไม่ได้กลับเข้ามาที่บ้าน อาจจะเพราะไม่อยากเข้ามาเจอเธอ เวินหนิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ

แต่ก็ดีแล้ว เธอก็ไม่ได้อยากเจอเขาสักเท่าไร เกรงว่าจะเผลอทำอะไรในสิ่งที่ไม่ควรทำ

ไม่นานโทรศัพท์เธอก็มีสายเข้าฃ

เวินหนิงหยิบมันขึ้นมาก็รู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือเวินหลาน

“เป็นยังไงบ้าง ที่บริษัทใหม่เป็นยังไงบ้างพี่?”

ระหว่างถ่ายทำ เธอก็นึกได้ถึงคนที่ขอให้ใครบางคนไปที่บริษัทเวินหนิงเพื่อ’ไม่ระวัง’จนเผลอหลุดปากบอกความจริงที่เธอเคยเข้าคุก

เธอคิดว่าพี่สาวที่ไม่รู้อะไรเลยคงจะกลัวตายเพราะข่าวลือ

“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันทำงานที่ไหน อย่าบอกนะว่าคือเธอ” เวินหนิงเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เธอบีบโทรศัพท์แน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือขึ้น

น้องสาวของเธอคงเกลียดเธอมาก แม้แต่บริษัทใหม่ของเธอยังต้องก้าวเข้ามาเพื่อทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ

“เป็นฉันเอง แต่ไงล่ะ เธอสนุกกับมันสิ ฉันเดาว่าเธอจะทำไม่ได้อีกนานแค่ไหน ฉันกลัวว่ามันจะไม่ถึงเดือน แต่มันก็สูญเปล่าจริงๆ”

“ไม่รบกวนเธอหรอก ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอทำสำเร็จ” เวินหนิงขบฟันแน่นและกดวางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว

ถ้ายังได้ยินเสียงของเวินหลานอีก เธออาจโกรธมากจนทุบโทรศัพท์ทิ้ง

พยายามสงบลมหายใจ ในที่สุดเวินหนิงก็สงบลง แต่ทันใดนั้นก็จำอะไรบางอย่างได้

ปรากฎว่าลู่จิ้นยวนไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นในบริษัท เธอก็เข้าใจเขาผิด …

เมื่อคิดได้ เวินหนิงก็รู้สึกละอาย เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาลู่จิ้นยวน เพื่อที่เธอจะพูดว่าขอโทษ แต่เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นเขาก็กดวางสาย

ดูเหมือนว่าเขาจะเกลียดตัวเองมากขึ้น แต่ไม่น่าแปลกใจ …

เวินหนิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้กดโทรไปอีก ถ้าเธอโทรหาลู่จิ้นยวนกลัวว่าเขาจะหมดความอดทน

วันถัดไป

ทันทีที่เวินหนิงมาถึงบริษัท เธอพบว่าบนโต๊ะทำงานและของทุกอย่างของเธอก็เละราวกับว่าโดยขโมย

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอทำให้เย่เฉียวขุ่นเคือง ยากที่จะอยู่ในบริษัท แต่พฤติกรรมของเพื่อนร่วมงานของเธอก็ยังทำให้เธอโกรธอยู่ดี “พวกคุณทำอะไรลงไป?”

นี่เป็นครั้งแรกที่เวินหนิงพูดเสียงดังกับเพื่อนร่วมงานแบบนี้

“คุณก็กำลังจะไป เราก็ต้องตรวจสอบว่าคุณได้นำสิ่งที่ไม่ควรนำติดตัวไปหรือเปล่า ถ้าคุณทำหายแล้วจะหามันได้จากที่ไหนล่ะ”

ท้ายที่สุดทุกคนก็มองว่าเธอเป็นขโมยและเวินหนิงก็รู้สึกเสียใจ

ด้วยความยุติธรรม แม้ว่าเธอจะแค่ทำงานเบ็ดเตล็ดในบริษัทนี้ แต่เธอก็ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจจริง และไม่ละเลยอะไรเลยเธอยิ้มรับเสมอ เพื่อนร่วมงานของเธอบอกให้ทำอะไรก็ทำ

แต่สุดท้ายพวกเขามองว่าเธอเป็นขโมย

จริงหรือไม่ที่เมื่อมีคดีติดตัวก็จะมีชีวิตอยู่เป็นเหมือนเงาของคนอื่น?

“เช็คเสร็จหรือยัง?” เวินหนิงแสร้งทำเป็นเมินเฉย ในขณะที่มีแต่ความคับแค้นใจและทำอะไรไม่ถูก

เพื่อนร่วมงานไม่พบสิ่งใดเลย และดูไม่เต็มใจเล็กน้อย พวกเขาดูสิ่งต่างๆบนเดสก์ท็อปของเธอแล้ว ก็พบแฟลชไดรฟ์ USB “อันนี้ต้องตรวจสอบด้วย”

เหวินหนิงไม่มีกลัวอะไร เธอไม่ได้ทำอะไรผิดจะจับอะไรได้?

แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนร่วมงานสองสามคนก็พูดคุยกันว่า “เวินหนิงทำไมคุณถึงร้ายกาจขนาดนี้ นี่คุณคัดลอกไฟล์ลูกค้าของบริษัท คุณพยายามแย่งลูกค้าของเราใช่ไหม?”

ดวงตาของเวินหนิงเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ มันเป็นไปไม่ได้

เธอไม่มีความคิดเช่นนั้น แม้ว่าเธอจะทำเธอก็ไม่มีทางเข้าถึงเอกสารสำคัญขนาดนั้นได้ แล้วจะคัดลอกได้ยังไง?

ต้องมีคนใส่ร้ายเธอแน่!

“ฉันไม่ได้บันทึกไว้ และปกติคุณก็ไม่เคยเอาไฟล์ประเภทนี้ให้ฉันดู” เหวินหนิงเถียงอย่างหนัก

“ใครจะรู้ เธออาจจะแอบก็อปตอนช่วยงานใครก็ได้”

“ใช่ใช่ ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้มากเลย ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะขยันมากขนาดนี้ เธอคิดแบบนี้ตั้งแต่แรกนี่เอก”

“ว่าแล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไรตั้งแต่เจอ”

เพื่อนร่วมงานหลายคนไม่ฟังคำอธิบายของเวินหนิงเลย พวกเขาพูดและตัดสินอย่างรวดเร็ว และพวกเขาลากเวินหนิงไปพบผู้จัดการ เพื่อที่เขาจะได้จัดการกับเธอ

เย่เฉี่ยวกล่าวทันที “ฉันดูแลเรื่องนี้เอง นี่คือไฟล์ของฉัน”

เวินหนิงเข้าใจทั้งหมดในคราวเดียว นี่อาจเป็นสถานการณ์ที่เย่เฉี่ยวจัดฉากไว้ จิตใจทำด้วยอะไร เธอเกือบจะเสียตัวเมื่อวานนี้และวันนี้ก็ใส่ร้ายว่าเธอขโมยของ

“แล้วเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น คิดให้ดีถ้าเธอเห็นด้วย ฉันจะบอกว่าฉันคัดลอกเอง แต่แค่ลืมไป ถ้าเธอไม่เห็นด้วย … ”

เย่เฉี่ยวไม่ได้พูดส่วนที่เหลือ แต่ก็เต็มไปด้วยคำขู่

เวินหนิงมองเธออย่างขมขื่น จิกเล็บลงบนฝ่ามือ จนความรู้สึกเจ็บทำให้เธอมีสติ

“คุณฝันไปเถอะ ฉันจะไม่ไปเจอกับคนพรรค์นั้น”

ที่หลี่ฉ่าวทำไว้เมื่อวาน ถ้าเธอไป เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

“แค่กินเหล้ากินไวน์!” เย่เฉี่ยวรู้สึกรำคาญอย่างมากและพาเวินหนิงไปที่ห้องของผู้จัดการ “ฉันจะบอกว่าเธอขโมยข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัท อย่างน้อยก็ไล่ออก อย่างมากก็ขึ้นศาล ”

ร่างกายของเวินหนิงสั่นสะท้านหลังจากความทรงจำครั้งสุดท้าย ตอนนี้เธอทิ้งความทรงจำนั้นไปแล้ว เมื่อเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เธอจะกลัวมาก

เธอกลัวที่แบบนั้นอย่างมาก คนทำผิดก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้

ทันใดนั้นก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เวินหนิงผลักเย่เฉี่ยวเพื่อหวังหลุดพ้น

แต่เย่เฉี่ยวก็ไม่ยอมปล่อย เหวินหนิงไม่มีทางเลือกจริงๆ จึงกัดเธอที่แขนจนเห็นเลือดเธอก็บังคับให้ปล่อย

“คนบ้ากำลังกัดแล้ว! จับเธอไว้!” เย่เฉี่ยวตะโกน กระทืบเท้าด้วยความโกรธ ขณะที่เฝ้าดูเวินหนิงวิ่งหนี

กล้ากัดเธอได้ยังไง? เธอต้องจัดการผู้หญิงคนนี้ ให้ไปอยู่บนเตียงของหลี่ฉ่าว เพื่อทรมานเธอให้ตาย เธอจึงจะคลายความโกรธได้

“เสียงดังอะไรกัน” กลุ่มคนกำลังวุ่นวายและพยายามจับเวินหนิง ทันใดนั้นเสียงนุ่มก็ดังขึ้น “เกิดอะไรขึ้น?”

เหอจื่ออันยืนอยู่ไม่ไกล ขมวดคิ้วมองด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

เหอจื่ออันเป็นผู้สนับสนุนความร่วมมือครั้งใหม่ของบริษัท แม้ว่าเขาจะเป็นคนต่างชาติ แต่เขาก็มีความแข็งแกร่งและไม่ควรประมาท

ทุกคนพูดอย่างธรรมชาติ ไม่กล้าที่จะทำให้เขาขุ่นเคือง

เมื่อเห็นคนสำคัญเข้ามา เพื่อนร่วมงานทุกคนก็ผลักทุกอย่างไปที่หัวของเวินหนิงโดยปริยาย พูดไม่กี่คำเธอก็รับบทเป็นโจรที่ใช้เส้นเข้าบริษัท แล้วก็จะขโมยผลกำไรไป

“ฉันไม่ได้ทำนะ!” เวินหนิงเงยหน้าขึ้น ขณะฟังคำพูดที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ก่อนสบตาเข้ากับเหอจื่ออัน

จากนั้นเหอจื่ออันก็เห็นตัวของเหวินหนิงอย่างชัดเจน

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายและกระโปรงสั้นสีดำ ใบหน้าที่สวยงามดูสะอาดตา

และสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดก็คือดวงตาของเธอ ที่ดูใสสะอาดปราศจากสิ่งสกปรกใดๆ แม้ว่าจะฉายแววความเสียใจและความโกรธ แต่ก็ไม่สามารถลดความงามคนตรงกันข้ามได้

ดวงตาของชายคนนั้นหรี่ลงราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง “งั้นเธอพูดมา ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

เหวินหนิงสะดุ้ง เธอคิดว่าจะไม่มีใครฟังเธอ แต่ผู้ชายตรงหน้าเธอไม่แม้แต่จะดูถูกเธอ …

เธอกัดริมฝีปากและกล่าวอย่างไม่เกรงกลัว

“เธอผิด!” เย่เฉียวเหงื่อซึมออกมา การคาดเดาของเหวินหนิงนั้นถูกต้อง

ไฟล์นั้น คือเธอคัดลอกไว้เมื่อเช้านี้

จุดประสงค์คือเพื่อขู่เวินหนิงและให้เธอไปกับหลี่ฉ่าว

“เรื่องจริงหรือเปล่า เดี๋ยวตรวจสอบก็รู้เอง” เหอจื่ออันเหลือบมองไปที่เย่เฉี่ยวอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูเหมือนจะมองทะลุตัวเธออย่างรวดเร็ว

จากนั้นไม่นานเหอจื่ออันก็โทรหาคนจากแผนกข้อมูลและเจอว่าเมื่อเช้านี้เองที่มีการคัดลอกไฟล์

ตอนนั้นเวินหนิงไม่ได้อยู่ในบริษัท

ทุกคนนิ่งเงียบ

“คุณพ้นผิด ไม่ต้องกังวล ฉันจะสอบสวนเอง” เหอจื่ออันตบไหล่เวินหนิง

“ต่อไป คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลเท็จในบริษัท คุณเย่ คุณทำกับเพื่อนร่วมงานโดยไม่มีเหตุผล ฉันจะหารือกับกรรมการของบริษัทเกี่ยวกับคุณ”

ร่างของเย่เฉี่ยวทรุดลงกับพื้น เหอจื่ออันคือความหวังของบริษัท แต่กับเธอเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายเล็กๆ แค่ประโยคเดียวก็ทำเธอโดนไล่ออกได้

เวินหนิงมองไปที่ท่าทางหดหู่ของเย่เฉี่ยว เธอรู้สึกไม่น่าเชื่อในใจ ดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับความไว้วางใจจากคนอื่นและพูดความจริง

เมื่อคิดได้เธอก็วิ่งตามเขาไปและพูดกับเหอจื่ออัน “ขอบคุณค่ะ”

เหอจื่ออันมองเธอด้วยความสนใจ “พูดแค่สองคำก็จบแล้วเหรอ ฉันยังไม่รู้สึกถึงความจริงใจเลย”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset