วันต่อมา โม่โยวได้รับดอกกุหลาบช่อใหญ่ ดอกไม้ดูสดมากแล้วสวยมากด้วย
“ว้าว ดีไซเนอร์โม่ ใครให้หรอคะ แฟนของคุณหรือเปล่าคะ?”
“แฟนของคุณโรแมนติกมากเลยค่ะ แฟนฉันไม่ดีให้ดอกไม้ฉันนานแล้ว”
ตั้งแต่อ้ายเวยเอ๋อร์ถูกถอนตัวออกไป ดีไซน์เนอร์คนอื่นในแผนกก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรโม่โยวอีกเลย ถึงแม้ข่าวลือในบริษัทจะเป็นความจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถ้าจริงล่ะ?
โม่โยวก็รู้สึกงงกับช่อดอกไม้นี้เหมือนกัน เธอยิ้มทำอะไรไม่ถูก ก็เห็นว่าในดอกไม้มีการ์ด เธอก็หยิบขึ้นดู
โยวโยวที่รัก ดอกกุหลาบนี้แทนใจผม
คนส่ง: สามีในอนาคต ลู่อันหราน
โม่โยวทำอะไรไม่ถูก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าช่อดอกไม้นี้เด็กน้อยจะเป็นคนส่งให้ แล้วคำพูดบนการ์ดอีก เธอรู้สึกขำมาก
เธอเลิกริมฝีปากขึ้น แล้วนำดอกไม้วางไว้ข้างตัวเอง
ถึงแม้ลู่จิ้นยวนจะอยู่ชั้นบนสุด แต่ก็สนใจโม่โยวไม่น้อย ไม่นานก็รู้เรื่องดอกกุหลาบนี้ สีหน้าเขาตึงเครียดแล้วขมวดคิ้วแน่น กำลังคิดว่าใครเป็นคนส่งดอกไม้มาให้
อันเฉินที่อยู่ข้างๆเอ่ยอย่างระมัดระวัง “บอสครับ ให้ผมไปสืบ ไหมครับ?”
“อื้อ ยิ่งเร็วยิ่งดี” เขาเอ่ยอย่างเยือกเย็น
ผ่านไปไม่นานก็ได้คำตอบ อันเฉินกับลู่จิ้นยวนไม่คิดเลยว่า ลู่อันหรานจะเป็นคนส่ง
ลู่จิ้นยวนอดคิดถึงหนังสือที่ลูกชายตัวเองดูเมื่อคืน ในใจก็โมโหไปกว่าเดิมถึงแม้ ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นลูกชายตัวเองก็ตาม
แต่โม่โยวที่อยู่ในแผนกออกแบบ เวลานี้ก็ได้รับวิดีโอคอลมาจากลู่อันหราน
“โยวโยว ตอนนี้ฉันอยู่โรงเรียนอนุบาลซิงยวี่ เธอมารับฉันได้ไหม?” ลู่อันหรานเอ่ยพูดด้วยสีหน้าคาดหวัง
เธออึ้งไป “คนตระกูลลู่ไม่ไปรับเราหรอ?”
“คนขับรถบอกว่ามีธุระกลับไปแล้ว ส่วนคุณพ่อก็จะทำงานอยู่ที่บริษัทไม่มีเวลา เพราะฉะนั้น มีแค่เธอที่มารับฉันได้”
โม่โยวรู้สึกแปลกใจ แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง เธอไม่มีทางให้เด็กน้อยอย่างลู่อันหรานกลับบ้านคนเดียวแน่นอน ไม่ปลอดภัย
เธอลังเล สุดท้ายก็ส่งข้อความไปหาลู่จิ้นยวน แล้วบอกเขาเรื่องนี้
เมื่อลู่จิ้นยวนได้รับข้อความก็อึ้ง ไม่รู้ว่าลูกชายตัวเองจะทำอะไรอีก คนตระกูลลู่จะไม่ไปรับเขาได้ยังไง
เขาคิดไปคิดมาแล้วพิมพ์ตอบ: คุณไปรับตอนนี้เลยก็ได้ ไปรอผมที่ลานจอดรถ
โม่โยวหน้าเหวอไปอีกครั้ง ให้เธอไปรับไม่ใช่หรอ? ทำไมต้องรอเขาด้วย?
ด้วยความงง เธอก็เดินไปที่ลานจอดรถ ก็เห็นลู่จิ้นยวนทันที
ห้องทำงานของลู่จิ้นยวนมีลิฟต์ที่เชื่อมตรงลานจอดรถ ทั้งเร็วทั้งสะดวกมากด้วย
“บอสคะ คุณ?”
“ผมไปรับพร้อมกับคุณ” เขาเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง
“แต่ว่า อันหรานบอกว่าคุณงานเยอะไม่มีเวลาไม่ใช่หรอคะ?”
“วันนี้ผมงานไม่ยุ่ง อันหรานพูดกับคุณแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้เจอคุณนานแล้ว เพราะยังไง คุณก็รู้ว่าเขาไม่มีแม่”
คำพูดสุดท้าย ก็ทำให้คำถามทุกอย่างของโม่โยวหายไปทันที เธอขึ้นรถเงียบๆ ในใจก็เอ็นดูเด็กคนนี้ แล้วเต็มใจไปรับเขาด้วย
เด็กน้อยที่ยังไม่รู้ว่าแผนการของตัวเองล่มเพราะพ่อของตัวเอง พอได้รับข้อความจากโม่โยว ก็โทรไปจองโต๊ะกับโรงแรมทันที
“ฮัลโหล ผมจะจองโต๊ะดินเนอร์……”
ผ่านไปไม่นาน พอเขาเห็นเดินโม่โยวกับลู่จิ้นยวนมาพร้อมกัน ใบหน้าที่ได้ใจก็ตึงเครียดทันที
ลู่จิ้นยวนเห็นแบบนี้ ก็ยิ้มมุมปากขึ้นอย่างมีเลศนัยพร้อมอุ้มเด็กน้อยขึ้น “ลูกรัก พ่อมารับหนูแล้ว ดีใจไหม?”
ดีใจอะไรล่ะ เขาพยายามดิ้นแล้วกระโดดออกมา มองไปที่เขาอย่างโมโห “คุณพ่อ คุณพ่อไม่ต้องมารับผมหรอกครับ แค่โยวโยวมารับผมก็พอแล้ว”
เขาเลิกคิ้ว “ทำไมล่ะ?”
“เพราะ……” เขายังพูดไม่จบ ข้างหลังก็มีเสียงอ่อนโยนเรียกเขา
เด็กในโรงเรียนอนุบาลซิงยวี่เป็นคนที่มีฐานะทั้งนั้น ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนด้วย นอกประตูก็มีคนมารอรับเด็กไม่น้อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแม่บ้านหรือว่าพ่อบ้าน
“อันหราน……”
ผู้หญิงตัวเล็กที่ใส่ชุดกระโปรงสีชมพู ถักเปียเหมือนเจ้าหญิงที่น่ารักวิ่งมาหา
ลู่จิ้นยวนเคยมารับเด็กน้อยหลายครั้งแล้ว เธอก็รู้จักด้วย เธอมองไปที่โม่โยวอย่างแปลกใจ “อันหราน นี่เป็นคุณแม่ของเธอหรอ?”
ครั้งก่อนที่สวนสนุก โม่โยวเป็นคุณแม่ของเขา เขามีความสุขมาก แต่ครั้งนี้เขาไม่มีความสุขเลย เพราะยังไง เขาก็จะเป็นแฟนของโยวโยวให้ได้
ลู่จิ้นยวนเลิกมุมปากขึ้นแล้วเดินไปหา “ใช่ นี่เป็นคุณแม่ของอันหราน”
“ว้าว อันหราน คุณแม่ของเธอสวยจังเลย สวยเหมือนฉันเลย” เด็กน้อยเป็นคนที่รักสวยรักงาม?ตอนชมคนอื่นก็ไม่ลืมที่จะชมตัวเองด้วย
โม่โยวอดยิ้มไม่ได้
ลู่อันหรานรู้สึกไม่พอใจแล้วมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างรังเกียจ “ใครเหมือนเธอ แม่ของฉันสวยกว่าเธออีก”
เด็กน้อยเบะปาก แต่ก็ไม่ได้โกรธ จากนั้นก็เดินไปหาโม่โยวแล้วยิ้มอย่างเขินอาย “คุณน้าคะ คุณน้าว่าหนูสวยไหมคะ?”
โม่โยวลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน “น้ารู้สึกว่าหนูสวยหนูน่ารักมากเลยค่ะ”
เธอหันไปทางลู่อันหรานอย่างมีความสุข “อันหราน แม่ของเธอชมว่าฉันสวย ถ้าฉันโตแล้วเป็นเจ้าสาวของเธอดีไหม”
โม่โยวอึ้งไปทันที
ลู่จิ้นยวนกอดอกแล้วยืนดูอยู่ข้างๆ เหมือนไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง
เด็กน้อยมองเธอตาขวาง “ฉันไม่เอาเธอเป็นเจ้าสาวหรอก”
“ทำไม?” หนูน้อยอารมณ์เสีย
“เพราะว่าเธอน่ารำคาญ ชอบร้องไห้ หน้าตาตอนร้องไห้ก็ขี้เหร่มากด้วย”
“ไม่ร้องไห้ก็ขี้เหร่” เด็กน้อยเพิ่มไปอีกคำหนึ่ง
โม่โยวเห็นว่าเด็กน้อยเสียใจจนจะร้องไห้ ก็เอ่ยเสียงเบา “อันหราน เป็นเพื่อนกันก็ต้องดีต่อกัน จะไร้มารยาทแบบนี้ไม่ได้”
สุดท้าย ลู่อันหรานก็ตึงสีหน้าไว้ “โยวโยว เธอเป็นศัตรูหัวใจนะ ทำไมเธอถึงพูดเข้าข้างเธอล่ะ”
โม่โยวตกใจไปอีกครั้ง จนตามความคิดของเด็กคนนี้ไม่ทัน เดี๋ยวก่อนนะ?
เธอนึกถึงช่อดอกกุหลาบที่ตัวเองได้รับ แล้วก็คำพูดบนการ์ดของเด็กน้อย ก็เข้าใจทันทีเลยว่าศัตรูหัวใจหมายถึงอะไร เธอรู้สึกตลกแล้วทำอะไรไม่ได้ด้วย
หญิงสาวกัดนิ้วด้วยความสงสัย “อันหราน ศัตรูหัวใจคืออะไรเหรอ?”
“เหอะ เธอโง่เกินไป แม้แต่อันนี้ก็ไม่รู้ ฉันไม่อยากคุยกับเธอ เดี๋ยวจะทำให้ฉันดูโง่ไปด้วย” ลู่อันหรานทำสีหน้าหยิ่งยโส
ลู่จิ้นยวที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกว่าลูกชายตัวเองต้องโดนสั่งสอนแล้วล่ะ ก้าวเดินไปแล้วอุ้มเขาขึ้นมา
โม่โยวรีบบอกลากับเด็กผู้หญิง แล้วเดินตามมาทันที
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้คุณพ่อ คุณพ่อน่าเกลียดมาก ภาพลักษณ์ของผมเสียหมด”
ลู่จิ้นยวนตบก้นเขาอย่างไม่เกรงใจ แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น “ภาพลักษณ์อะไร ภาพลักษณ์ที่ฉี่ราดที่นอนหรอ?” พูดไปด้วย ก็วางตัวเขาลงหลังรถ
เด็กน้อยจับก้นตัวเองแล้วหน้าก็แดงมาก “ใคร ใครฉี่ราดที่นอน ผมไม่ฉี่ราดที่นอนตั้งนานแล้ว คุณพ่อกำลังใส่ร้าย”
โม่โยวเดินมาแล้วได้ยินคำพูดนี้ เธอก็ปลอบใจอย่างอ่อนโยน “อันหราน เรายังเด็ก ยังเรียนอนุบาลอยู่ ไม่เป็นอะไรหรอก”