เวลานี้เธอ ยังไม่รู้ว่ารอบข้างไม่ใช่ประเทศFแล้ว
นี่เป็นสถานีเก็บขยะ ประตูของโรงงานยังเปิดอยู่ ยังพอมีแสงสว่าง พอถังหว่านเอ๋อรืเห็นว่ามีคนก็รู้สึกวางใจไม่น้อย รีบวิ่งไปหาแล้วในปากก็เอาแต่ตะโกนเรียก
ตอนเดินไปหา เธอยังเห็นหน้าคนไม่ชัดเจน ก็เอาแต่ถามแล้วพูดภาษาประเทศF
คุณลุงแก่ที่เป็นยามเฝ้าประตู กำลังจะกินข้าว แต่กลับตกใจกับเธอที่โผล่มา แล้วยังแต่งตัวแบบนั้นด้วย
“นี่ใครน่ะ ดึกดื่นขนาดนี้จะออกไปหลอกใคร” คุณลุงลูบหน้าอก เกือบจะหยิบไม้กวาดข้างๆขึ้นแล้ว
ถังหว่านเอ๋อร์ตกใจ เธอเห็นหน้าตาของคุณลุงคนนี้เหมือนเป็นคนจีน แล้วสภาพแวดล้อมแบบนี้อีก ก็เลยเอ่ยติดๆขัดๆ “ที่นี่ ที่นี่คือที่ไหน?”
ทำยังไงได้ล่ะ เธอพูดภาษาประเทศFอย่างไม่รู้ตัว
“พูดบ้าอะไรกันเนี่ย ดึกดื่นขนาดนี้แต่งตัวเป็นผีบ้าแบบนี้อีก เป็นคนบ้าหรือเปล่า?” คุณลุงเอ่ยพึมพำ ไม่อยากจะมองเธอด้วยซ้ำ กำลังลังเลว่าจะโทรแจ้งตำรวจหรือเปล่า
นี่ก็โทษคุณลุงก็ไม่ได้ เพราะยังไง ชีวิตของถังหว่านเอ๋อร์วุ่นวายมาก เปลือยกายในบ้านก็เป็นเรื่องปกติ อย่าคิดว่าเธอสวมใส่แค่ชุดนอนสายเดี่ยวธรรมดา แต่คอเสื้อกลับเว้าลงไปเยอะมาก แล้วข้างล่างก็ไม่ได้ใส่อะไรด้วย
กระโปรงสั้นขนาดนี้ ยังดีที่เป็นตอนฟ้ามืด คนรอบข้างไม่ได้สนใจ ไม่งั้นจะเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้
พอได้ยินเสียงคุณลุงพึมพำ ถังหว่านเอ๋อร์ก็โมโหจะเป็นบ้า สุดท้ายก็ดึงสติกลับมา เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ในใจก็มีลางสังหรณ์อะไรไม่ดีบางอย่าง คำพูดที่พูดออกมาก็เป็นภาษาจีน
“ไม่ทราบว่า ที่นี่คือที่ไหนหรอคะ?”
คุณลุงโบกมืออย่างหงุดหงิด “เธอวิ่งมาเองยังไม่รู้หรอว่าที่นี่ที่ไหน? ที่ประตูมองไม่เห็นหรอ สถานีเก็บขยะ ที่นี่เป็นที่เก็บขยะ”
อะไรนะ?
ถังหว่านเอ๋อร์ตัวสั่น เธอก็ว่าทำไมรอบข้างมีแต่กลิ่นเหม็นเน่า ที่แท้เป็นที่เก็บขยะนี่เอง
เธออยากจะไปจากที่นี่เร็วๆ แต่ยังมีคำถามที่ยังไม่ได้ถาม ก็เลยจำเป็นต้องอยู่ต่อ
“งั้น ไม่ทราบว่า ที่นี่คือ……ประเทศFหรือเปล่าคะ?” เธอมองเห็นแผ่นป้ายบนนั้น มีแต่ภาษาจีน ในใจก็สั่นไหว
คุณลุงหมวดคิ้ว เหมือนมองเธอเป็นคนบ้าอย่างงั้น “ยังประเทศFอีก ฉันยังอยู่ประเทศMเลย ไปไปไป รีบไปเลย ถ้าให้คนอื่นเห็นจะมองว่ายังไง”
แกแน่ใจแล้วว่า ถังหว่านเอ๋อรืคงเป็นคนป่วยสุขภาพจิต ในใจก็รู้สึกซวย ไม่มีอารมณ์กินข้าวเลย
ถังหว่านเอ๋อร์กัดฟันแน่น ตอนนี้เธอแน่ใจแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ประเทศF แต่เป็นประเทศจีน แต่ที่สงสัยก็คือ……เธอสลบไป พอตื่นมากลับเปลี่ยนที่อยู่แบบนี้ นี่ก็เลยทำให้เธอยอมรับไม่ได้
ตอนนี้ในสมองเธอตีกันวุ่นไปหมด ไม่รู้ว่าคนที่ทำให้ตัวเองสลบเป็นใคร แล้วจะพาตัวเธอกลับประเทศทำไม?
ทันใดนั้น ถังหว่านเอ๋อร์ก็เหมือนคิดอะไรได้ ใบหน้าของโม่เทียนยวี๋ก็ลอยเข้ามาในหัว
กี่วันก่อนเธอเพิ่งแตกหักกับโม่เทียนยวี๋ แล้วยังขู่ผู้ชายคนนั้นด้วย ตอนนี้สภาพตัวเองแบบนี้ คงไม่ใช่ไอ้บ้าโม่เทียนยวี๋เป็นคนทำหรอกมั้ง?
ถังหว่านเอ๋อร์ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นไปได้ สีหน้าก็ซีดขาว อยากจะพุ่งไปสาดเลือดบนหน้าโม่เทียนยวี๋ แต่ตอนนี้ แม้แต่เธออยู่ที่ไหนเธอยังไม่แน่ใจเลย
แล้วสำคัญไปกว่านั้น อย่าว่าแต่เงินบนตัวเลย แม้แต่เสื้อผ้าที่จะใส่ออกไปข้างนอกก็ไม่มี ถึงแม้เธอจะเป็นคนสมัยใหม่ แต่ก็เข้าใจดี
ถ้าเธอใส่ชุดแบบนี้ออกไปข้างนอกตอนเช้า คนอื่นคงคิดว่าเป็นคนบ้าแน่นอน
คิดไปคิดมา ถังหว่านเอ๋อร์ก็เลยก้าวเดินไปหา “คือคุณลุงคะ ขอโทษนะคะ คือหนูเจอปัญหานิดหน่อย บนตัวก็ไม่มีเสื้อผ้า ไม่มีเงินเลยสักบาท คือ คุณลุง คุณ……”
ถังหว่านเอ๋อร์รู้สึกลำบากใจมาก คำพูดที่ว่าจะยืมเงินพูดไม่ออกสักที เธอคาดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แล้วต้องยืมเงินกับคุณลุงที่เฝ้าประตูโรงงานเก็บขยะอีก
คุณลุงหันมองไปที่เธอ เมื่อเห็นว่าเธอพูดชัดเจน ก็เริ่มลังเล แต่จะยืมเงินก็คงเป็นไปไม่ได้ คุณลุงแกตอนนี้ก็เป็นแค่คนแก่คนนึง เดือนนึงไม่มีเงินอะไรมากมาย
เขาเดินเข้าไปในห้อง แล้วหยิบชุดทำงานเก่าๆตัวหนึ่งออกมา อายุเขาขนาดนี้แล้วอีกหน่อยก็คงไม่มีโอกาสใส่แล้ว
คุณลุงโยนชุดทำงานสีเหลืองน้ำตาลที่มีคราบที่ล้างไม่ออกไปให้เธอ แล้วไล่เธอเหมือนกับแมลงวันอย่างนั้น
“มีแค่เสื้อตัวนี้ อย่างอื่นไม่มี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องยืมเงิน รีบไปเถอะรีบไปเถอะ”
ถังหว่านเอ๋อร์มองชุดทำงานบนมือตัวเอง แล้วสีหน้าที่รังเกียจของคุณลุง ก็รู้สึกโมโหจนจะเป็นบ้า
คิดถึงตอนที่เธออยู่ประเทศF เธอใช้ชีวิตสุขสบาย แล้วมีคนรู้จักไม่น้อย มีคนที่ยอมจ่ายเงินให้เธอก็นับไม่ถ้วน ไม่คิดเลยว่าพอกลับมาถึงในประเทศ กลับถูกรังเกียจแบบนี้ เจ็บใจชะมัด……
แต่ความจริง ถึงแม้เธอจะโกรธแค่ไหน ก็ทำได้แค่เก็บความรู้สึกไว้ จับชุดทำงานในมือไว้แน่น แล้วก้าวเดินออกจากที่นี้
ถังหว่านเอ๋อร์ยืนมองสำรวจโรงงานอยู่ข้างนอก เดินไปใต้แสงไฟข้างทางก็ขมวดคิ้วแน่น รู้สึกรังเกียจเสื้อผ้าในมือมาก อยากจะโยนทิ้งด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้……
เธอมองชุดนอนบนตัว ก็โมโหจนต้องมองบน สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามหักห้ามความโมโหไว้ จับเสื้อผ้าขึ้นแล้วก้มลงไปดมกลิ่นอย่างระมัดระวัง
เสื้อผ้าที่ถูกเก็บไว้หลายปีจะมีกลิ่นอะไรน่าดมได้ยังไง กับคนทั่วไป ก็ไม่ได้เหม็นขนาดนั้น แต่สำหรับผู้หญิงที่ใช้น้ำหอมกลิ่นฉุนอยู่
ให้เธอใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นแบบนี้ ฆ่าเธอง่ายกว่า
ตอนนี้ เธอโกรธแค้นโม่เทียนยวี๋มาก ในใจก็ตัดสินใจแล้วว่า ถ้าตามหาตัวเขาจะจัดการเขาแน่นอน
ถังหว่านเอ๋อร์หักห้ามความคิดที่อยากจะฆ่าคนแล้วจำใจใส่เสื้อตัวนี้ สีหน้าของเธอตึงเครียดมาก แล้วเริ่มอาเจียนขึ้นมาทันที โมโหจนตัวสั่น
เธอเดินไปนานมากกว่าจะเจอถนนที่มีแสงไฟสว่าง แล้วเดินไปที่ร้านค้า ขอร้องตั้งนานกว่าจะยืมโทรศัพท์มาได้
สีหน้าถังหว่านเอ๋อร์ตอนนี้โกรธจนซีดขาว ในสายตามีแต่ความโกรธแค้น แต่เธอยังรู้สึกดีใจที่ตัวเองยังจำเบอร์โทรศัพท์ของโม่เทียนยวี๋ได้
อาจจะเป็นเพราะเป็นเบอร์แปลก โทรไปก็ถูกตัดสายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนที่ถังหว่านเอ๋อร์จะระเบิดอารมณ์ออกมา สุดท้ายก็รับสักที
“ดึกดื่นขนาดนี้ โทรมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า รนหาที่ตายเหรอวะ” เสียงตะคอกที่โมโหของโม่เทียนยวี๋ลอยออกมา
มหัศจรรย์มาก ความโกรธในใจของถังหว่านเอ๋อร์หายไปไม่น้อย เธอสูดหายใจเข้าลึกแล้วกัดฟันพูด “โม่ เทียน ยวี๋……”
โม่เทียนยวี๋ขมวดคิ้ว เสียงที่คุ้นเคยนี้……
“ถังหว่านเอ๋อร์?”
“ใช่ ฉันเอง ไม่ว่าตอนนี้นายทำอะไรอยู่ ที่ถนนฝั่งตะวันออก รีบให้คนมารับฉันเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ด่วน”