เมื่อโม่โยวเห็นใบหน้าของเขาแล้ว ถึงได้เชื่ออย่างหมดจดกับคำพูดของพ่อบ้านฉิน โม่เทียนยวี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัสจริงๆ พึ่งจะถูกย้ายออกจากห้องผู้ป่วยหนัก
เมื่อเห็นโม่เทียนยวี๋เป็นแบบนี้ โม่โยวก็ถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง ” เทียนยวี๋ ทำไมคุณถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ คุณหมอว่ายังไงบ้าง”
โม่เทียนยวี๋อ้าปากเหมือนอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
พ่อบ้านฉินที่เช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ “ คุณโม่ครับ ถ้าคุณมีอะไรอยากถามก็ถามลุงเถอะครับ คุณชายของเราพูดมากไม่ได้ครับ แค่อ้าปากก็เจ็บมากแล้วครับ โถ้ คุณชายที่น่าสงสารของลุง”
“คุณชายประสบอุบัติเหตุรถยนต์ครับ ได้รับบาดเจ็บกระดูกหักหลายจุด และร่างกายและใบหน้าโดนกระแทกจนดูไม่ได้ สองสามวันก่อนที่ถูกส่งเข้าโรงพยาบาล เกือบจะหยุดลมหายใจไปหลายครั้ง โชคดีที่ชีวิตของคุณชายยังไม่ถึงฆาต ถึงได้รอดชีวิตมาได้”
“คุณโม่ครับ ตามหลักแล้ว มีเรื่องบางเรื่องไม่ใช่พ่อบ้านอย่างพวกเราจะสามารถพูดได้ แต่ว่าใจคุณช่างโหดร้ายเกินไปจริงๆ ลุงพยายามโทรหาคุณหลายต่อหลายครั้ง แต่คุณไม่เคยรับสายเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
” ในตอนที่ชีวิตของคุณชายอยู่ในขีดอันตราย แทบจะไม่รู้สึกตัว ในปากของเขามีแต่ชื่อของคุณ”
เมื่อพ่อบ้านฉินบ่นจบ โม่เทียนยวี๋ถึงได้ใช้สายตาต่อว่าเขาอย่างโกรธ ๆ และตักเตือนว่า ” ลุงฉิน อย่าพูดอีกเลย”
โม่โยวถูกพ่อบ้านฉินต่อว่าจนยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็งงงวยมาก ” ลุงฉินคะ ฉันไม่เคยได้รับสายโทรศัพท์ของลุงเลย แม้แต่ครั้งเดียวค่ะ”
ตามความคิดของโม่เทียนยวี๋แล้ว เขาไม่น่าจะไปสงสารเรื่องปัญหาเหล่านี้ แต่เขาไม่สามารถที่จะอดกลั้นได้อีก เพราะว่า เหตุการณ์เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นกับเขาก่อนหน้านั้น ทำให้เขาจุดจำมันได้เป็นอย่างดี
และเรื่องร้ายๆเหล่านี้ เป็นเพียงเพราะเหตุผลเดียวก็คือการติดต่อกับโม่โยว
ด้วยความคับแค้นใจที่ถูกฝั่งลึกเข้าไปของโม่เทียนยวี๋ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า ” โม่โยว ครั้งล่าสุดที่ผมขอคุณแต่งงาน ทำให้คุณกลัวจนไม่อยากรับสายของผมหรือเปล่าครับ ” ดังนั้นถึงได้บล็อกเขาในบัญชีดำ
” ฉันไม่ได้ทำจริงๆนะคะ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่คุณจะไม่สามารถติดต่อฉันได้ และฉันก็ไม่ได้เปลี่ยนเบอร์ด้วย”
โม่โยวรู้สึกว่าตัวเองโดนเข้าใจผิดอย่างมาก จนอดไม่ได้ที่ต้องหยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆเตียงของโม่เทียนยวี๋ แล้วกดโทรไปยังเบอร์ของตัวเอง ผลที่ตามมา …
” ขออภัย หมายเลขที่คุณโทรไม่ได้รับการตอบรับชั่วคราว โปรดโทรอีกครั้งในภายหลัง” น้ำเสียงเย็นชาที่ค้นเคยของผู้หญิง ดังขึ้นในห้องผู้ป่วย
โม่โยว “… ”
เธอจ้องมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ จากนั้นก็มองไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองที่ไม่มีการตอบสนองใดๆ หัวสมองของเธอนั้นอึงไม่น้อย
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
ลุงฉินที่อยู่ข้างๆก็เตือนขึ้นมาด้วยความเจตนาดีว่า “ คุณโม่ครับ เป็นไปได้ไหมที่คุณบล็อกเบอร์คุณชายในบัญชีดำ แล้วลืมไป”
โม่โยวเม้มริมฝีปากของตัวเอง แล้วกดเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ แล้วเรียกฟังก์ชันบัญชีดำขึ้นมา เดิมทีเธอไม่เคยใช้ฟังก์ชันนี้มาก่อน แต่ในขณะนี้ได้มีชื่อของคนๆหนึ่งอยู่ในนี้
ก็คือ โม่เทียนยวี๋
ณ ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนว่าต่อให้กระโดดลงแม่น้ำก็ไม่สามารถอธิบายได้เลย แต่ว่า …
โม่โยวอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอจะพูดอะไรได้ล่ะ บอกว่าเธอไม่เคยทำ
แต่นี่มันโทรศัพท์มือถือของเธอ ถ้าจะบอกว่าเธอไม่ใช่คนทำ ต่อให้พูดออกมาก็คงไม่มีใครเชื่อ เหมือนโดนผีเล่นงาน โม่โยวคิดคำแก้ตัวยังไงก็คิดไม่ออก
ท้ายที่สุด ได้แต่สรุปง่ายๆว่า น่าจะเป็นช่วงก่อนเธอหลุดมือไปกดโดนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
” ขอโทษนะคะ เทียนยวี๋ นี่เป็นความผิดพลาดของฉันเอง ” โม่โยวรู้สึกผิดเล็กน้อย แล้วรีบปลดเขาออกจากบัญชีดำทันที
โม่เทียนยวี๋จะพูดอะไรได้ ได้แค่ทำเป็นไม่แคร์
เขาได้ส่งสายตาให้ลุงฉินออกไป ภายในห้องผู้ป่วยเหลือแค่พวกเขาสองคน
” โม่โยว ผมรู้สึกว่าเหมือนผมไม่ได้เจอคุณมานานมาก ช่วงที่ผ่านมา ไม่มีเวลาไหนที่ผมไม่คิดถึงคุณเลย พอจะนั่งคุยเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหม ” โม่เทียนยวี๋พูดอย่างไม่มีแรง
เมื่อโม่โยวเห็นเช่นนี้ก็ไม่เห็นด้วย ” คุณได้รับบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่สามารถพูดคุยเป็นเวลานานได้เหรอ รอให้คุณหายดีก่อนค่อยว่ากัน ”
เขาส่ายหัว ” ไม่ ผมกลัว ผมกลัวว่าถ้าผมออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะไม่สามารถติดต่อคุณได้อีก ไม่มีโอกาสพูดอีก”
” โม่โยว ตอนที่ผมถูกรถชน ผมคิดว่าผมกำลังจะตายแล้วจริงๆ ในสมองของผมเต็มไปด้วยภาพของคุณ และมีแต่คุณคนเดียวเท่านั้น”
“ ในตอนนั้น ผมเสียใจจริงๆ ถ้าผมไม่ได้ทำเรื่องบัดซบเหล่านั้น พวกเราคงจะแต่งงานกันไปแล้ว คงจะอยู่ในโลกของเราสองคนอย่างมีความสุข”
“แต่ผมกับรู้สึกโชคดีนิดๆ ที่เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ โชคดีที่คุณไม่ได้แต่งงานกับผม เพราะถ้าเกิดผมตายขึ้้นมาจริงๆ งั้นก็ต้องทิ้งคุณไว้อยู่คนเดียว จะให้ผมวางใจได้อย่างไร”
บอกได้เลยว่า การแสดงนั้นยอดเยี่ยมมาก โม่เทียนยวี๋ไม่มีความสามารถด้านธุรกิจเลย แต่เรื่องการหลอกลวงผู้หญิงนั้นฝีมือไม่ย่อยเลยจริงๆ
คำพูดที่พูดออกมาเหล่านี้ มันน่าทึ่งและซึ้งใจมากจริงๆ
ภายในห้องทำงานของประธานลู่ อันเฉินที่ได้ยินยังรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว จึงพูดออกมาอย่างอดใจไม่ได้ว่า ” เจ้านายครับ โม่เทียนยวี๋คนนี้เป็นตัวปัญหาจริงๆ”
เป็นตัวปัญหาจริงๆ ลู่จิ้นยวนคิดในใจ
เขาหรี่ตาลงแล้วหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยวิธีการของเขา มีหลายวิธีมากมายที่จะทำลายคน ๆ หนึ่งได้อย่างสมบูรณ์
แต่ดันกับแมลงวันที่น่ารำคาญตัวนี้ เพราะกังวลถึงความรู้สึกของโม่โยว วิธีจัดการเขายังไม่สามารถรุนแรงจนเกินไป ได้แค่สั่งสอนเท่านั้น
ยังเป็นแมลงสาบที่ฆ่าไม่ตายจริงๆ
ภายในห้องผู้ป่วย.
โม่โยวรู้สึกซาบซึ้งใจกับคำพูดของโม่เทียนยวี๋นั้นจริงๆ แต่นอกเหนือจะความซึ้ง ลึกๆข้างในยังรู้สึกอึดอัดใจอย่างอธิบายไม่ถูก
เพราะไม่ว่าโม่เทียนยวี๋จะพูดหรือทำมากแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถหลอกลวงหัวใจของตัวเองได้เพื่อตอบสนองเขา เธอกับโม่เทียนยวี๋มันเป็นไปไม่ได้
เธอรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นเพราะการมีตัวตนของลูกชายหรือ …
มันก็เป็นไปไม่ได้.
เมื่อเผชิญกับคำพูดที่รักใคร่ของโม่เทียนยวี๋ ในขณะที่เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงต่อดี ประตูของห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก แล้วร่างเล็ก ๆ ก็เข้ามาอยู่ในสายตาของทั้งสอง
หนุ่มน้อยมาพร้อมกับบอดี้การ์ดสองคนเท่านั้นคือลู่อีกับลู่เอ๋อ นอกนั้นกี่คนเฝ้าอยู่ที่ข้างนอกโรงพยาบาล
สีหน้าและปฎิกิริยาของทั้งสองคนต่างกันเมื่อเผชิญหน้ากับการปรากฏตัวของเขา
โม่โยวแปลกใจ “อันหราน หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ”
โม่เทียนยวี๋ที่อยู่บนเตียงเห็นลู่อันหราน ความทรงจำที่ผ่านมาทั้งหมดก็ท่วมหัวของเขา โดยเฉพาะครั้งที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าทำให้เขาขายหน้าอย่างมาก เขาจำได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงแค่นั้น ในความคิดของเขา ทัศนคติของโม่โยวที่มีต่อเขาเริ่มเปลี่ยนไป ก็คือช่วงที่โดนเจ้าตัวเล็กคนนี้เล่นงานในห้างสรรพสินค้าครั้งนั้น
ดังนั้นที่เขาต้องกลายเป็นแบบนี้ในทุกวันนี้ เจ้าตัวเล็กคนนี้มีส่วนร่วมอย่างมาก แค่พริบตา ทำให้เขาโมหกจนใบหน้าบิดเบี้ยวและเกือบจะเสียสติจนกระโดดลงจากเตียงผู้ป่วย
ยังดีที่บาดแผลบนใบหน้าถูกดึงจนเจ็บ ทำให้ช่วยดึงสติของเขากลับมา
ลู่อันหรานกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของโม่โยว ใบหน้าที่เย็นชาต่อหน้าคนนอกอย่างไม่แยแสและต่อสาธารณะของเขาก็หายไปในทันที กลายเป็นเด็กน้อยที่น่ารักและอ่อนหวาน
แต่มีเพียงหนุ่มน้อยเท่านั้นที่รู้ว่า ที่ตัวเองหลบใบหน้าเข้าไปในอ้อมแขนของโม่โยว เพียงแค่กลัวว่าตัวเองนั้นจะหัวเราะออกมา
เขาคาดคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่เขาเข้ามา เขาจะได้เห็นหน้าอย่างหัวหมูของโม่เทียนยวี๋นี้ โอ้แม่เจ้า มันน่าขำและตลกมากจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า …