คนที่เดินเข้ามาเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่ง เวินหนิงเห็นพวกเขาเดินยิ้มมาแต่ไกล แต่รอยยิ้มนั้นกลับไม่ได้มีความหวังดีเลยซะนิด
“คุณอา คุณอาสะใภ้” หลังจากที่แปลกใจอยู่เล็กน้อย ลู่จิ้นยวนก็เดินเข้าไปทักทายอย่างมีมารยาท
เวินหนิงขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอมาอยู่บ้านตระกูลลู่มาพักใหญ่แล้ว แต่ไม่ยักจะเคยเห็นคนพวกนี้
“จิ้นยวน ในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมาซะที” ลู่หมิงฮั่นตบไหล่เขาเบาๆ
ลู่จิ้นยวนมองดูผู้ชายตรงหน้าแล้วหลบมือเขาโดยไม่พูดอะไร
ลู่หมิงฮั่นเป็นแค่อาในนามของลู่จิ้นยวน ไม่ได้เป็นน้องชายแท้ๆของพ่อเขา แต่เป็นลูกชายของน้องชายนายท่านลู่
เมื่อครั้งที่บ้านตระกูลลู่แบ่งทรัพย์สมบัติกันก็เกิดความไม่พอใจกันขึ้น นายท่านลู่ได้นำเงินก้อนหนึ่งออกมาต่อสู้ฝ่าฟันสร้างบริษัทตระกูลลู่ในตอนนี้ขึ้นมาเอง ส่วนธุรกิจเดิมของตระกูลลู่ก็ถูกพี่น้องที่ไม่เอาไหนล้างผลาญกันจนหมด
ดันนั้น ตอนนี้ที่คนพวกนี้พยายามเข้าหาก็เพราะหวังผลประโยชน์จากบริษัทตระกูลลู่
เดิมที ตามนิสัยของนายท่านลู่แล้ว ทรัพย์สินของบริษัทตระกูลลู่ในตอนนี้ต้องยกให้ลู่จิ้นยวนคนเดียวเท่านั้น แต่เนื่องจากลู่จิ้นยวนมาเกิดอุบัติเหตุเข้า นายท่านลู่เองก็หมดแรงใจ และไม่ได้ไปสนใจดูแลธุรกิจตระกูลลู่ในต่างประเทศด้วย จึงทำให้ธุรกิจในส่วนนั้นตกไปอยู่ในมือของลู่หมิงฮั่นไปอย่างง่ายดาย
ลู่จิ้นยวนยังคิดอยู่ว่าจะหาโอกาสเอาธุรกิจในต่างประเทศของตระกูลลู่กลับคืนมาอยู่ แต่ไม่คิดว่าคนพวกนี้จะเข้ามาหาเขาซะเอง
“จิ้นยวน ฟื้นขึ้นมาแล้วทำไมไม่ส่งข่าวให้อาและอาสะใภ้หน่อยล่ะ? ถึงแม้ว่าพวกเราจะดูแลธุรกิจของตระกูลลู่อยู่ที่ต่างประเทศ แต่เรื่องที่เธอฟื้นขึ้นมามันเป็นเรื่องสำคัญมาก อาจะพลาดงานนี้ได้ยังไง คงไม่ใช่ต้องการกันไม่ให้พวกเรามานะ?”
ถึงแม้ลู่หมิงฮั่นจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับแฝงไปด้วยความเชือดเฉือน ทุกถ้อยคำที่พูดนั้นกำลังชี้ว่าลู่จิ้นยวนเป็นคนไม่ให้ความเคารพต่อผู้ใหญ่
“ไม่หรอกครับ” ลู่จิ้นยวนรู้สึกไม่พอใจ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกมาแม้แต่น้อย “แค่กลัวว่าจะลำบากคุณอากับคุณอาสะใภ้ที่ต้องเดินทางไปกลับกับในระยะทางที่ค่อนข้างไกล”
“ไม่ลำบากเลย พวกเราจะขอพักอยู่ที่บ้านตระกูลลู่ก่อนซักสองสามวันด้วย” โจไป๋เยว่พูดขึ้น “จิ้นยวนเธอคงยินดีต้อนรับเราใช่มั้ย?”
เวินหนิงมองดูครอบครัวนี้พูดคุยกันจากไกลๆ พวกเขาพูดกันไม่ดังนะ ทำให้เธอได้ยินได้ชัดเจน แต่ดูจากภาพที่เห็นแล้วไม่เหมือนกับภาพครอบครัวที่พบปะพูดคุยกันทั้วไปอย่างที่เธอเคยเห็น
ที่แท้ คนอย่างลู่จิ้นยวนที่มากไปด้วยความสามารถ ก็มีปัญหาน่าปวดหัวแบบนี้ด้วย
เวินหนิงมองดูอยู่เงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับนึกถึงคนพวกนั้นที่บ้านตระกูลเวินขึ้นมา เป็นไปได้ยากนะที่เธอจะบังเอิญมาเข้าใจถึงความรู้สึกของลู่จิ้นยวนในตอนนี้
บางทีคนที่ทำร้ายเราได้มากที่สุดไม่ใช่คนนอกหรอก แต่กลับเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนบ้านเดียวกันมากกว่า
ลู่จิ้นยวนถูกสองคนนั้นกวนจนรู้สึกหงุดหงิด พอดีมีคนเข้ามาขอชนแก้ว เขาจึงถือโอกาสหลบเลี่ยงออกไป
ไม่นานลู้จิ้นยวนก็ถูกล้อมรอบไปด้วยคุณหนูตระกูลผู้ดีอีกครั้ง สองสามีภรรยารู้สึกตกใจกับภาพตรงหน้าเล็กน้อย ขณะเดียวกันใบหน้าก็ฉายแววอึดอัดและเจ็บใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จำต้องอดกลั้นเอาไว้
เวินหนิงมองแล้วรู้สึกเบื่อหน่าย จึงตัดสินใจจะกลับเข้าห้องนอน ขณะนั้น โจไป๋เยว่ก็เงยหน้ามองไปยันชั้นสองพอดี เธอถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เบานัก”จิ้นยวน ได้ข่าวว่าเธอแต่งงานแล้ว ทำไม่วันนี้ไม่หลานสะใภ้เลยล่ะ?”
พอคนที่อยู่ในงานได้ยินเรื่องลู่จิ้นยวนแต่งงานแล้ว ต่างก็พากันหยุดความเคลื่อนไหว หันมาจ้องมองด้วยความสงสัย
บรรยากาศรอบตัวลู่จิ้นยวนเริ่มเย็นยะเยือก เรื่องของเวินหนิงเป็นความลับของบ้านตระกูลลู่ พวกเขาไม่น่าจะรู้นะ
หรือว่าจะมีคนปล่อยข่าว?
เวินหนิงเองก็ตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน สิ่งแรกที่เธอทำคือมองไปที่ลู่จิ้นยวน
เขาจะคิดว่าเธอเป็นคนปล่อยข่าวมั้ยนะ?
“เอ๊ะ? หญิงสาวคนนี้ ไม่คุ้นหน้าเลย ดูแล้วไม่น่าใช่คนในบ้านนะ หรือว่าจะเป็นหลานสะใภ้ของฉันที่ไม่มีใครเคยเห็นหน้ามาก่อน?
โจไป๋เยว่พอใจกับสถานการณ์เงียบกริบในตอนนี้ ลู่จิ้นยวนกลับมาควบคุมส่วนกลางของบริษทตระกูลลู่ได้แล้ว ถ้าได้แต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลที่มีอำนาจอีก ถ้าเป็นเช่นนั้นต่อไปพวกเขาก็จะเอาผลประโยชน์อะไรจากมือเขาไม่ได้อีก
ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาที่หาได้ยาก ถ้าลู่จิ้นยวนที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ดันมีภรรยาที่เคยติดคุกมาก่อน มันจะกลายเป็นด่างพร้อยในชีวิตเขาไปทั้งชีวิต
เวินหนิงกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น ถึงแม้ว่าโจไป๋เยว่จะทำเป็นใจดีและเป็นกันเอง แต่คนแบบนี้ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เคยเจอมาก่อน จางหยาหลินแสดงได้ดีกว่าเธอมากนัก
“ทำไมไม่พูดล่ะ? ทะเลาะกับจิ้นยวนเหรอ ไม่เป็นไร เดี๋ยวอาสะใภ้จะช่วยคุยให้เอง ฉันจะไม่ให้ใครมารังแกเธอได้เลย”
คำพูดไม่กี่คำของโจไป๋เยว่ ทำให้ทุกคนต่างพากันมองไปที่เวินหนิง
หนึ่งในนั้น ก็มีลู่จิ้นยวนที่มองมาด้วยสายตาเย็นชาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
เวินหนิงยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอียงหน้ามองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “ขอโทษค่ะ คุณน่าจะจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่หลานสะใภ้อะไรของคุณ ฉันเป็นแค่เด็กรับใช้ในบ้านค่ะ”
เวินหนิงพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงไม่มีอาการสั่นแม้แต่น้อย จนดูไม่ออกเลยว่าเธอพูดจริงหรือไม่”
“อ้าว เด็กคนนี้ ยังไงกัน?” โจไป๋เยว่กล้าหาเรื่องต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้ย่อมต้องมีหลักฐานแน่นอน
เดิมทีเธอคิดว่าเมื่อเวินหนิงเห็นลู่จิ้นยวนถูกล้อมหน้าล้อมหลังไปด้วยสาวงามมากมายแบบนี้ ต้องรู้สึกไม่พอใจและโมโหเป็นแน่ แค่เพียงเธอออกปากว่าจะช่วย เวินหนิงคงต้องติดกับเธอแน่นอน
แต่ใครจะไปคิดว่า เด็กผู้หญิงที่ดูอายุยังน้อยอยู่เลย กลับไม่ยอมติดกับเธอซะงั้น
“หลานสะใภ้ ถ้าเธอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ไม่พูดตอนนี้ ต่อไปก็จะไม่ใครช่วยเธอได้แล้วนะ”
เวินหนิงได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกอยากหัวเราะเยาะนัก พูดซะดูดีเลย แต่ถ้าเธอพูดออกมาจริงๆ แล้วทำให้บ้านตระกูลลู่ไม่พอใจขึ้นมาล่ะก้อ คุณอาสะใภ้คนนี้คงไม่แม้แต่จะโพล่หัวออกมาช่วยพูดให้เธอแน่ ทำอย่างกับว่าเธอเป็นคนโง่ไปได้
“คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันมีอะไรต้องไมjสบายใจเหรอคะ บ้านตระกูลลู่ก็ไม่ได้ไม่จ่ายค่าแรงหรือไม่ให้ฉันกินนี่คะ ว่าแต่คุณทำไมต้องคอยยัดเยียดให้คุณชายของเราเป็นคนที่แต่งงานแล้วด้วยคะ มันดูแปลกนะคะ ฉันไม่กล้าเออออตามคำพูดพล่อยๆของคุณหรอกค่ะ ฉันรู้จักประเมินตัวเองค่ะ”
เวินหนิงพูดเสร็จ ผู้คนต่างก็พากันมองไปที่โจไป๋เยว่ ใครๆก็รู้ว่างานนี้เป็นโอกาสที่ลู่จิ้นยวนจะได้มองหาคู่แต่งงานในอนาคต แต่อาสะใภ้คนนี้กลับทำเรื่องให้ดูวุ่นวายไปหมด เธอมีวัตถุประสงค์อะไรกัน ถ้าคิดดูดีๆก็คงจะดูออก
“เธอ! ” แผนการของโจไป๋เยว่ถูกเวินหนิงพังลงด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ ขณะที่เธอกำลังจะอาละวาด ก็โดนลู่หมิงฮั่นดึงตัวไปก่อน “พอแล้ว จำคนผิดก็ไม่ต้องเถียง”
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ลู่หมิงฮั่นก็ยังหันไปมองทางลู่จิ้นยวน ครั้งนี้ถือว่ารอดตัวไป ก่อนพูดขึ้น “แต่ถ้าจิ้นยวนมีข่าวดีเมื่อไหร่ห้ามปิดบังพวกเรานะ”
ลู่จิ้นยวนหยักหน้าตอบอย่างมีมารยาท ก่อนจะเลื่อนสายตามองขึ้นไปทางชั้นสอง แต่เวินหนิงไม่อยู่แล้ว
เธอไม่ได้พูดอะไรต่อหน้าผู้คนให้เขาต้องลำบากใจ แต่เขากลับเกิดความรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
รู้จักประเมินตัวเอง…….
ผู้หญิงคนนั้นพูดแบบนั้นจากความรู้สึกในใจจริง หรือแค่……
ลู่จิ้นยวนยังไม่ได้ทันได้คิดอะไรมากกับเรื่องของเวินหนิง ผู้คนทั้งหลายต่างก็เริ่มพากันล้อมเข้ามาหาเขาอีกครั้ง ทำอย่างกับว่าเมื่อครู่ไม่มีเรื่องตื่นเต้นอะไรเกิดขึ้นเลย
ในเมื่อลู่จิ้นยวนยังโสด เขาก็ยังเป็นเป้าหมายที่สาวๆในเมืองเจียงเฉินเฝ้าจับจองแย่งชิงกันอยู่