ดีไซน์เนอร์ทั้งสองคนต้องทำให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด แล้วใครที่จะเป็นคนชนะ ก็ต้องให้ลูกค้ามาเป็นคนเลือก
ตอนที่ลูกค้ามาถึง ถ้าชอบผลงานดีไซน์ของใครมากกว่า ใครก็จะชนะ ทั้งสองห้ามมีข้อเรียกร้องอื่นเด็ดขาด
ลู่จิ้นยวนสุ่มหยิบเอกสารออกมา ให้เลขาปริ้นสองชุดไปให้ดีไซเนอร์ทั้งสองคน จากนั้นก็ติดต่อลูกค้าเชิญพวกเขามา
เวินหนิงตั้งใจดูเอกสารในมือ
หัวข้องานออกแบบครั้งนี้ ลูกค้าเป็นเด็กผู้หญิงฝาแฝด ครั้งนี้อยากจะให้ดีไซน์ชุดที่ทั้งสองจะใส่ในวันเกิดที่อายุครบสิบแปดปี
หรืออาจจะพูดอีกแบบ ในเมื่อเป็นฝาแฝด ก็ต้องดีไซน์สองชุดอยู่แล้ว
ไม่นาน คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งก็พาลูกสาวฝาแฝดเดินมา หน้าตาเหมือนกันมาก เป็นผู้หญิงที่สวยมาก
ลู่จิ้นยวนต้อนรับทั้งสองด้วยตัวเอง แล้วอธิบายรายละเอียดกับทั้งสอง ยังบอกอีกว่าค่าใช้จ่ายในการออกแบบครั้งนี้ฟรี ถือว่าเป็นของขวัญที่ให้กับคุณหนูทั้งสองคน
ทั้งสองสามีภรรยาไม่รู้สึกติดใจอะไร ถึงแม้พวกเขาจะมีบริษัทเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่มาก แล้วค่าใช้จ่ายการออกแบบของบริษัทตระกูลลู่ก็ไม่ถูกเลย ถ้าได้ของฟรีก็ดีสิ
ยังให้ดีไซเนอร์ทั้งสองคนแข่งขันมาออกแบบชุดให้ลูกสาวตัวเอง ดีไซเนอร์ก็ต้องใช้สุดความสามารถ ไม่ว่าจะมองจากทางไหน พวกเขาก็ได้เปรียบ
ทั้งสองสามีภรรยาพาลูกสาวตัวเองเข้าไปในห้องรับรองอย่างอารมณ์ดี
ตอนที่ลู่จิ้นยวนกำลังคุยกับทั้งสอง เวินหนิงก็เห็นโดยบังเอิญ ถึงแม้ทั้งสองคนจะหน้าตาเหมือนกัน แต่สีหน้าแตกต่างกันสิ้นเชิง
คนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ที่นั่น ส่วนอีกคนถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรเยอะ แต่สีหน้าก็ไม่ค่อยดีมากนัก ตอนที่หันมองไปที่อีกคนสายตาก็เหมือนแฝงไปด้วยใบมีดอย่างนั้น
เธออดไม่ได้ที่จะแปลกใจแล้วขมวดคิ้ว
จากที่เธอเคยเห็น ทั้งสองพี่น้องหน้าตาเหมือนกัน ก็ต้องรู้สึกสัมผัสใจกันได้ ตามหลักแล้ว พี่น้องแบบนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ต้องดีไม่ใช่เหรอ
แต่ฝาแฝดตรงหน้ากลับไม่เหมือนอย่างนั้น
เวินหนิงถามแล้วค่อยรู้ คนที่ยืนนิ่งเป็นพี่สาว แต่คนที่สีหน้าไม่ดีมากนักเป็นน้องสาว
เธอยังใจละเอียดแล้วสังเกตุเห็นว่า ทั้งสองพี่น้องสวมใส่เสื้อผ้ารองเท้าเหมือนกัน แม้แต่เครื่องประดับก็เหมือนกัน แต่น้องสาวกลับถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วดึงคอเสื้อให้เปิด
เดิมทีมัดผมอยู่ก็ปล่อยผม แล้วประดับเครื่องประดับอีกแบบ จากสายตาที่น้องสาวมองไปทางพี่สาว ในใจเวินหนิงก็คาดเดาอะไรบางอย่างได้
เธอเบี่ยงความสนใจกลับมาข้อมูลในมือตัวเอง ในใจก็คิดว่า ไม่ว่ายังไงก็ต้องดีไซน์ชุดสองชุดอยู่แล้ว ทำตามความคิดในใจแล้วกัน
แต่หูยวี่ที่อยู่ตรงข้าม ไม่สนใจพี่น้องฝาแฝดเลย แต่เธอกลับให้ความสนใจเวินหนิงมากกว่า
พอไม่เห็นเธอแสดงอาการอะไร ในใจก็ยิ้มอย่างไม่แยแส เสแสร้งต่อไปเถอะ เพราะการแข่งขันครั้งนี้เธอต้องชนะแน่นอน
เวลาที่ให้กับทั้งสองคนทั้งหมดสามชั่วโมง ในระยะเวลาสามชั่วโมง ต้องออกแบบชุดสองชุด เริ่มตั้งแต่การเลือกเนื้อผ้า วาดรูปแล้วเริ่มลงตัวอย่างชุด
พอเป็นแบบนี้ เวลาก็เริ่มกดดัน ทั้งสองจึงมีผู้ช่วยมาช่วยด้วย
พอเริ่มเวลา หูยวี่ก็ไม่ได้สนใจเวินหนิงอีก ตั้งใจกับงานออกแบบของตัวเอง เธออยากจะดีไซน์งานที่ทำให้คนอื่นสะดุดตา แล้วทำให้เวินหนิงแพ้อย่างราบคาบ
เธออยากให้บอสเห็นว่า ในด้านการออกแบบ ตัวเองเป็นคนที่มีความสามารถที่สุด แล้วเป็นคนที่สามารถช่วยเขาได้
เวินหนิงตั้งใจกับเรื่องวาดแบบ แล้วให้ผู้ช่วยจัดการเรื่องเนื้อผ้า
เธอนึกถึงนิสัยของผู้หญิงทั้งสองคน แล้วตัดสินใจดีไซน์ชุดสองชุดตามความรู้สึกของตัวเอง
ประวัติของหูยวี่เธอเคยได้ยินว่า เคยได้รับรางวัลต่างๆมาไม่น้อย แล้วในวงการแม้แต่ต่างประเทศก็มีชื่อเสียงด้วย ไม่ใช่แค่จบจากมหาลัยชื่อดัง ยังมีอาจารย์ที่เป็นคนดังในวงการด้วย
พื้นหลังแบบนี้ ก็ต้องมีความสามารถอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เธอทำได้แค่พนันสักตั้ง เพราะเข้าใจดีความสามารถของตัวเองคงเทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้
ถ้าอยากชนะ ก็ต้องทำให้แตกต่าง หวังว่าตัวเองจะพนันชนะแล้วกัน
เก็บความคิดกลับมาแล้วเริ่มวาดงานบนกระดาษสีขาวตรงหน้า
เวลาผ่านไปทีละวินาที เวลาหนึ่งชั่วโมงก็หมดไปอย่างรวดเร็ว
เวินหนิงดูงานที่วาดในมือ เป็นงานสไตล์สองแบบที่แตกต่างกัน ชุดหนึ่งเป็นชุดเรียบร้อยสไตล์หญิงสาววัยเรียน
แต่ก็แตกต่างจากชุดนักเรียนก็คือ มีการดีไซน์ที่โดดเด่นแล้วเพิ่มเครื่องประดับไปด้วย จนทำให้กระโปรงดูสดใสแฝงไปด้วยความเป็นผู้ดี
แต่อีกชุดกลับเป็นสไตล์เปรี้ยวจี๊ดที่แตกต่างกับชุดแรกอย่างสิ้นเชิง ชุดนี้ก็ต้องออกแบบมาเพื่อน้องสาวโดยเฉพาะ
ชุดแรกจะใช้เนื้อผ้าซาตินเป็นหลัก แต่ชุดที่สองจะใช้เนื้อผ้ายีนส์เป็นหลัก เวินหนิงเริ่มลงมือตัดผ้า
หูยวี่นั่งอยู่ตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกออกแบบเอของบริษัทตระกูลลู่ ก็ต้องมีความสามารถอยู่แล้ว อย่างน้อยในด้านการออกแบบ เธอก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์
เธอไม่ได้สังเกตละเอียดเหมือนเวินหนิงขนาดนั้น แล้วเป็นคนหัวโบราณด้วย กับชุดของฝาแฝดทั้งสอง ก็ต้องดคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหรือว่าสี ถึงแม้จะไม่เหมือนกัน แต่ก็เข้ากันได้ดี
ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าตา แต่พอใส่ชุดทั้งสองชุดนี้ออกมา ก็รู้ทันทีว่าเป็นพี่น้องกัน
ดีไซเนอร์ทั้งสองคนเริ่มทำชุดกันแล้ว
ส่วนใหญ่หูยวี่จะใช้สีดำเป็นหลัก แล้วประดับด้วยสีทองกับสีแดง ชุดทั้งสองชุด หนึ่งชุดเปิดไหล่ข้างซ้าย ส่วนอีกชุดเปิดไหล่ข้างขวา
ตรงแขนก็ออกแบบเป็นคลื่นน้ำ ทิศทางก็ตรงข้ามกันเหมือนเดิม ถึงแม้ลวดลายบนกระโปรงไม่เหมือนกัน แต่รอยต่อระหว่างสีแดงกับสีทองก็ต่อกันได้พอดี
พอวางทั้งสองชุดไว้ด้วยกัน ลวดลายบนกระโปรง ถ้ามองไปแล้วก็เหมือนภาพวาดหนึ่งภาพ ดูสะดุดตามาก
ไม่พูดไม่ได้เลยว่า ความสามารถด้านออกแบบกับความคิดสร้างสรรค์ของหูยวี่ดูฉลาดมาก ถึงว่าล่ะ ถึงได้เป็นผู้อำนวยการแผนกออกแบบเอ เวินหนิงมองเห็นงานดีไซน์ของเธอ ก็แอบถอนหายใจ
ถ้าเทียบกันแล้ว เธอจะไม่ดูถูกงานออกแบบของตัวเอง แล้วไม่คิดว่างานออกแบบของตัวเองไม่ดีขนาดนั้น แต่ของหูยวี่กลับดูสะดุดตามากกว่าเธอ
เธออดไม่ได้จนต้องยิ้มขมขื่น ดูเหมือนว่าคงต้องพึ่งโชคชะตาแล้วล่ะ
ลู่จิ้นยวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาสนใจแค่ทางเวินหนิง แต่หูยวี่ พูดได้เลยว่าไม่หันมองไปเลยด้วยซ้ำ
ยังดีที่หูยวี่ให้ความสนใจกับงานออกแบบของตัวเอง ถ้าเห็นสถานการณ์แบบนี้ ไม่รู้ว่าจะจับกรรไกรขึ้นหรือเปล่า
ระยะเวลาสามชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว บนหุ่นตัวอย่างมีชุดสวมใส่ไว้แล้วทั้งสองฝั่ง