บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 47 ควรจะตายไปในคุก

เวินหนิงเปียกไปทั้งตัว หนาวจนรู้สึกสั่น เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกใจหายมากกว่าเดิม

เขาอยู่ในห้องรับแขก ทั้งๆที่เห็นว่าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้ยังไง แต่ก็ยังเข้าข้างจางหย่าหลิน

นี่เป็นคุณพ่อของเธอ คนที่แม่ของเธอรักมาทั้งชีวิตแล้วยอมเสียสละให้ทุกอย่าง

เวินหนิงพยายามฝืนยิ้มทำตัวไม่แคร์แล้วนั่งลงบนโซฟาตรงข้าม ไม่สนเลยว่าความสกปรกบนตัวจะทำให้โซฟาที่หรูหรานั่นเปื้อนเปรอะ

ในเมื่อเขาเป็นห่วงของมากกว่า งั้นเธอก็จะทำให้สกปรกมากกว่าเดิม ไม่งั้นจะคุ้มกับสิ่งที่จางหย่าหลินต้อนรับได้ยังไง?

“คุณผู้ชายเวิน คุณมีเวลามาสั่งสอนฉัน ควรจะเอาเวลาไปรักษาสายตาให้ภรรยามากกว่า คนทั้งคนยืนอยู่ข้างนอกแต่เธอไม่เห็น ไม่ใช่ตาบอดมั้งคะ? ถ้ามีโรคก็ควรจะรีบไปรักษาที่โรงพยาบาล เดี๋ยวจะพลาดเวลาที่สำคัญ ถ้าอย่างนั้นก็คงจะแย่เลย”

รอยยิ้มจางหย่าหลินตึงอยู่บนหน้า ไม่คิดเลยว่าเวินหนิงจะไร้ยางอายแบบนี้แล้วไม่รู้สึกขายหน้า

“ฉีโม่ เมื่อกี้ฉันไม่เห็นจริงๆ อย่าพูดถึงเลย เดี๋ยวฉันไปเอาชุดที่สะอาดมาให้เวินหนิง”

“คุณไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง” เวินหนิงปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด ใครจะรู้ว่าเสื้อผ้าที่เธอเอามาจะมีเข็มแอบมาด้วยหรือเปล่า นี่เป็นสิ่งที่คนอย่างจางหย่าหลินทำแน่นอน

เวินฉีโม่ก็รู้สึกโมโห “แกหุบปากเดี๋ยวนี้ เธอเป็นผู้ใหญ่ ทำไมแกถึงพูดแบบนี้?”

“หนูไม่นับถือผู้ใหญ่ที่สาดน้ำสกปรกใส่แขก ผู้ใหญ่ของหนูมีแค่แม่ของหนูเท่านั้น” เวินหนิงมองไปที่ใบหน้าของเวินฉีโม่อย่างเยือกเย็นแล้วพูดออกมาทีละคำ

“ช่างเถอะ เรื่องนี้ก็ปล่อยไปก่อน ที่ฉันเรียกแกมาก็เพราะมีเรื่องจะคุยด้วย”

เวินหนิงยิ้มอ่อน พอเจอสถานการณ์ที่ตัวเองเสียประโยชน์ก็รีบเปลี่ยนประเด็น สมกับเป็นคุณพ่อที่ดีของเธอ ไม่เคยเปลี่ยนเลย

“เรื่องพรีเซนเตอร์ของน้องแก ทีแรกก็คุยตกลงกันได้แล้ว ทำไมแกต้องไปยุ่งด้วย? ตอนนี้เธอได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มาก แกไปเอาพรีเซนเตอร์ของน้องแกกลับมาเดี๋ยวนี้”

เอากลับมา?

เวินหนิงเกือบจะหลุดหัวเราะกับท่าทางที่สูงส่งนี้

“ขอโทษนะคะคุณผู้ชายเวิน ฉันเคยบอกแล้ว ฉันไม่มีอำนาจไปบังคับการตัดสินใจของลู่จิ้นยวน ตอนนั้น เอาแต่พูดว่าฉันเป็นแค่ของเล่นของเขา อย่าโอ้อวดไป คุณเป็นคนพูดนะคะ?”

“เพราะฉะนั้น ฉันจะกล้าเอาหน้าไปขอร้องให้เขาทำนู่นทำนี่ได้ยังไง?”

เวินหนิงเลียนแบบน้ำเสียงที่คนตระกูลเวินเหยียดหยามเธอ แล้วพูดตอกกลับไป

“แก!” เวินฉีโม่ฟังออก แต่ว่าพอนึกถึงเรื่องสำคัญของลูกสาวคนเล็ก เขาก็ไม่สนแล้วว่าจะกลืนน้ำลายตัวเอง

“ยังไงแกก็ต้องเอาพรีเซนเตอร์ของน้องแกกลับมา แกไปร้องไห้ขอร้องอะไรก็ได้ ฉันไม่สนว่าแกจะทำยังไง ขอแค่แกทำได้ก็พอ”

“ขอโทษนะคะ ทำไม่ได้ ลู่จิ้นยวนเคยพูดแล้ว เรื่องงานของเขาไม่มีทางยอมให้คนอื่นมายุ่งด้วย อย่าว่าแต่หนูเลย แม้แต่คุณปู่ของเขา เขาก็อาจจะไม่ฟัง”

“หรือว่าฉันพูดอย่างนี้แล้วกันค่ะ ถ้าฉันมีปัญญาที่ทำให้ลู่จิ้นยวนเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้ ทำไมฉันไม่ให้เขามาแก้แค้นตระกูลเวินล่ะ? แต่แค่เอาพรีเซนเตอร์เล็กน้อยนี้ของเวินหลานไป มันไม่สะใจเลยไม่ใช่เหรอคะ?”

เมื่อเวินหนิงพูดจบ ใบหน้าก็รู้สึกแสบร้อน เวินฉีโม่พุ่งมาหาแล้วตบไปที่หน้าฝั่งซ้ายของเธอ

เขาตบเต็มแรงจนทำให้เวินหนิงได้ยินเสียงดังก้องในหู จนสมองหยุดทำงานไป

“นังลูกไม่รักดี ตอนนั้นฉันไม่น่าให้แกเกิดมาเลย แกควรจะตายอยู่ในคุก ตอนนี้ยังจะแก้แค้นตระกูลเวิน แกลืมแล้วเหรอว่าแกแซ่อะไร ลืมแล้วหรอว่าเลือดบนตัวแกเป็นเลือดของตระกูลเวิน?”

“เหอะ ฉันไม่แคร์ ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ไม่อยากมีพ่อที่จิตใจอำมหิตอย่างคุณ ตระกูลเวินเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันอยากจะให้มันหายไปในชั่วพริบตาด้วยซ้ำ!”

สายตาของเวินหนิงดุเดือดมากแล้วตะคอกไปทางเวินฉีโม่

มองเห็นท่าทางผู้ชายตรงหน้าที่โมโห ไม่มีท่าทางผู้ดีมีความรู้มีชาติตระกูลเลย เขาเหมือนกับคนบ้า เหมือนซาตาน

เวินฉีโม่โมโหจนถึงขั้นสุด จับเก้าอี้ข้างๆได้ก็จบฟาดลงไป

ถ้าเป็นวันปกติ ถ้าได้ยินเธอพูดแบบนี้ เขายังสามารถเสแสร้งแกล้งทำเป็นนิ่งหรือว่าอาจจะเอ่ยอย่างไม่แยแส

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม เวินหนิงเกาะลู่จิ้นยวนไว้ งั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปด้วย อำนาจของลู่จิ้นยวน ถ้าอยากจะทำลายตระกูลเวินก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ถึงแม้จะมีโอกาสหนึ่งในล้าน เขาก็ไม่มีทางให้เกิดขึ้น

“คุณใจเย็นๆก่อนนะคะ ถ้าทำแบบนี้เดี๋ยวจะมีคนตายได้!” จางหย่าหลินตกใจแล้วรีบดึงตัวเวินฉีโม่ไว้ จากนั้นก็เรียกคนรับใช้มา “เอาตัวเวินหนิงไปขังในห้องเก็บของ ให้มันสงบสติอารมณ์หน่อย!”

เวินหนิงถูกคนลากเข้าไปในห้องเก็บของ เมื่อกี้เพิ่งโดนตบไปแล้วบวกกับคนที่มาจับตัวเธอไว้ก็เป็นผู้ชายร่างสูง เธอไม่มีแรงต่อต้านเลย

เสียงดังขึ้นปึง เธอก็ถูกโยนลงไปบนพื้นกระเบื้องที่เย็น จากนั้นประตูก็ถูกคนล็อคจากข้างนอก

เวินหนิงทำความคุ้นชินไปสักพักแล้วไอออกมา พร้อมกับจับไปที่แก้มที่บวมของตัวเอง ก็รู้สึกเจ็บ เธอทนเจ็บไม่ได้จนโอดครวญแล้วได้กลิ่นคาวเลือดในปาก จนเธอขมวดคิ้วเข้ม

ลงมือหนักขนาดนี้ ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะจางหย่าหลินห้ามเขาไว้ ตอนนี้เขาก็คงจะฟาดเธอตายไปแล้ว

……

ลู่จิ้นยวนรออยู่ที่บ้าน เลยเวลาครึ่งชั่วโมงแล้วเวินหนิงก็ยังไม่กลับมา

แม้แต่โทรศัพท์เธอก็ไม่โทรมา นี่กำลังยั่วยุงั้นหรอ หรือว่าเธอ……หาที่พึ่งได้แล้ว แล้วคิดที่จะหนีไป?

ในสายตาลู่จิ้นยวนมีความเยือกเย็น เขามีความคิดที่จะตามหาผู้หญิงคนนี้ให้เจอแล้วฉีกเป็นชิ้นๆ

“ไปเช็คดูตอนนี้เวินหนิงอยู่ที่ไหน”

วันหยุดสุดสัปดาห์ อันเฉินกำลังเดทกับผู้หญิงอยู่ก็ได้รับสายพร้อมกับคำสั่งนี้อย่างเร่งด่วน

เวินหนิง……เธอควรจะอยู่กับบอสไม่ใช่หรอ?

อันเฉินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่น้ำเสียงที่น่ากลัวของลู่จิ้นยวนก็ทำให้เขาไม่กล้าเอ่ยถาม ก็เลยต้องรีบไปตามหาคน

……

เวินหนิงอยู่ในห้องเก็บของไปสักพัก ผ่านไปไม่นาน ความอุ่นในตัวก็หายไป

ในฤดูหนาวแบบนี้ ถ้าไม่มีเครื่องทำความร้อนก็จะรู้สึกหนาวจนเสียวสันหลังแล้วลามไปทั่วตัว

เวินหนิงขยับนิ้วที่แข็งทื่อแล้วจับไปที่ไขข้อบริเวณที่รู้สึกเจ็บปวดบนร่างกาย

ตอนที่เธออยู่ในคุกก็ต้องทนหนาวแบบนี้บ่อยๆ เพราะฉะนั้นก็รู้สึกปวดไขข้อมาก ในวันปกติยังดี ในบ้านลู่ก็เปิดเครื่องทำความร้อนไว้ไม่หนาวเลย แต่ว่าตอนนี้……

เธอนึกถึงคำพูดที่ลู่จิ้นยวนพูดกับเธอ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง จะโยนของทุกอย่างของเธอออกไปแล้วหรือยัง

เมื่อคิดถึงสีหน้าที่โมโหของผู้ชายคนนี้ เวินหนิงก็รู้สึกตัวสั่นไป จากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมทุบประตู เรียกให้คนมาปล่อยเธอออกไป แต่ตะโกนเรียกไปตั้งนานก็ไม่มีใครสนใจเธอเลย

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset