เวินหนิงทนดูต่อไปไม่ได้ พอข่าวนี่เผยแพร่ออกไปก็ทำให้เกิดกระแส ที่คอมเม้นต์ก็มีแต่คำด่าพี่สาวที่น่าไม่อาย
ด้วยเหตุนี้ ผู้คนในโซเชียลก็เลยหาวิธีติดต่อของเวินหนิงได้ นี่ก็เลยทำให้โทรศัพท์เธอได้รับโทรศัพท์แล้วก็ข้อความขยะเยอะมาก
ดูจนสุดท้าย สีหน้าเวินหนิงก็ไร้ความรู้สึกแล้ว แต่ก็ทำได้เพียงคอมเม้นต์ไปว่า “คำพูดพวกนี้ไม่มีหลักฐาน ทำไมไม่ใจเย็นกันก่อน?”
แต่ว่า ไม่มีใครฟังคำพูดของเวินหนิงเลย แต่กลับทำให้เกิดกระแสโจมตี “ในเมื่อเธอชอบแก้ตัวให้มือที่สาม คงไม่ใช่เจ้าตัวหรอกมั้ง?”
“คนแบบเธอน่ารังเกียจมาก ขอให้เธอก็มีพี่สาวแบบนี้มาทรมานเธอ”
เวินหนิงมองเห็นการโจมตีที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ เธอเข้าใจ ที่เรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้ ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว ถ้าไม่รีบจัดการ ผู้คนก็จะยิ่งไปกันใหญ่
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โทรศัพท์มือถือก็ใช้ไม่ได้ เวินหนิงก็เลยยืมโทรศัพท์ของพนักงานในร้านแล้วโทรหาเวินหลาน
“เธอจะทำอะไรกันแน่? ข่าวบนเว็บนั่น แล้วก็เบอร์ติดต่อไปบนนั้น ทำแบบนี้มีอะไรดีต่อเธอ?”
เวินหนิงเอ่ยเสียงเยือกเย็นอย่างไม่เกรงใจ ตอนนี้เธอยังสามารถควบคุมสติแล้วพูดดีๆกับคนทำผิด ก็ถือว่าเธอสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีแล้ว
ไม่งั้น เวินหนิงก็คงจะพุ่งไปหา แล้วตบหน้าเธอเหมือนกับในข่าวที่เขียนไว้ แบบนี้สิถึงจะได้ระบายอารมณ์ออกมา
“มีอะไรดี? แค่เห็นแกลำบากก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันแล้ว” เวินหลานได้ยินเสียงที่โมโหของเวินหนิง ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย
มองใบหน้าตัวเองที่สวยงามบนกระจก แล้วเวินหลานเอ่ยอย่างได้ใจ “เวินหนิง ทีแรกเธอยังได้ใจมากไม่ใช่หรอ คิดว่ามาขี่บนหัวฉันได้แล้วไม่ใช่หรอ? เธอคิดว่าลู่จิ้นยวนจะปกป้องเธอตลอดหรอ? ฉันบอกเธอไว้เลย ความจริงนี่แค่เริ่มต้น……”
เมื่อคำพูดหยุดลง เวินหนิงก็เห็นข่าวอัพเดตอีกครั้ง บนนั้นมีคลิปวิดีโอเพิ่มมา หน้าปกคลิปวิดีโอก็เป็นรูปภาพที่ยวี๋เฟยหมิงมาหาเธอวันนั้น!
แต่ว่า มุมกล้องวิดีโอนี้เอียงมาก ดูเหมือน ผู้ชายผู้หญิงทั้งสองกำลังทำอะไรที่สนิทสนม
ไม่สิ นี่ของปลอม……นี่ไม่ใช่เรื่องของจริง!
เวินหนิงเบิกตากว้างแล้วดูในคลิป เธอหายใจถี่ๆ คลิปนี้ดึงกระแสดีมาก คนนอกดู เหมือนเธอกำลังยั่วยวี๋เฟยหมิง
“เอ๊ะ ผู้หญิงคนนี้ ทำไมคุ้นตาจัง?”
ในขณะที่เวินหนิงกำลังลนลานอยู่ พนักงานในร้านที่กำลังเล่นโทรศัพท์ก็เงยหน้าขึ้นมา จ้องไปที่เวินหนิง จากนั้น ก็กรีดร้องออกมา “เป็นเธอ มือที่สามในรูปนั่น!”
เวินหนิงรีบลุกขึ้น ยังโชคดีที่ร้านนี้คนไม่เยอะมาก ก็เลยมีคนตามมาแค่ไม่กี่ คนเธอรีบเขียนเช็คไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็ใช้แขนเสื้อปิดหน้าตัวเองไว้แล้ววิ่งออกไป
เวินหลานใจเด็ดมาก เพื่อที่จะทำลายเธอ ถึงขั้นยอมปล่อยคลิปแบบนี้ออกมา หรือว่าชื่อเสียงของยวี๋เฟยหมิงเธอก็ไม่สนแล้ว?
หลบอยู่ในมุมลับตาคน เวินหนิงเลื่อนโทรศัพท์ด้วยนิ้วมือที่สั่น ทั้งๆที่รู้ว่าบนนั้นไม่มีสิ่งที่เธออยากจะเห็น แต่เธอก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่
ตามคาด ตอนที่คลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกมา ผู้คนก็มาดูอย่างถล่มทลาย อารมณ์ของทุกคนก็ถูกปลุกขึ้น มีคนไม่น้อยที่กำลังคิดหาวิธีสืบข้อมูลส่วนตัวของผู้หญิงคนนั้น แล้วให้คนข้างกายเธอรู้ว่าเธอเป็นคนยังไง แล้วไม่ให้เธอได้เงยหน้าขึ้นอีก
เวินหนิงมองเห็นผลสรุปที่คนพวกนั้นคุยกัน วิธีแก้แค้นแบบนั้นทำให้รู้สึกเสียวสันหลัง
ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่หนาวที่สุดในฤดูหนาว แต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าความหนาวในใจเยือกเย็นมากกว่าบนร่างกายอีก
เธอจะทำยังไงดี……แผนของเวินหลาน เธอจะล้มแผนยังไง?
……
ลู่จิ้นยวนลงจากเครื่องบินในระยะยาว เพิ่งเดินออกมาจากสนามบินก็ถูกผู้หญิงต่างชาติผมสีทองขวางทางไว้ บอกว่าจะถ่ายรูปกับเขา
ลู่จิ้นยวนไม่ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว พอได้ยินคำขอแบบนี้ ยังไงก็ต้องปฏิเสธ
แต่ว่า ผู้หญิงคนนั้นก็ตอแยไม่เลิก ขณะที่ลู่จิ้นยวนกำลังรู้สึกปวดหัว ก็มีเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้น “ขอโทษนะคะ คุณผู้หญิงคนนี้ เขาเป็นแฟนของฉัน ขอร้องคุณอย่าตอแยเขาได้ไหมคะ?”
เมื่อผู้หญิงเห็นที่แต่งตัวดูสวยดูดี ก็เบะปาก จากนั้นก็เดินจากไป
“ไม่เจอกันตั้งหลายปี ไม่คิดเลยว่านายจะได้รับความสนใจขนาดนี้……” มู่เยียนหรานยิ้มแล้วเดินมาหาด้วยท่าทางที่สนิทสนม จนทำให้ระยะห่างของทั้งสองคนใกล้ชิดกันมาก
“ก็แค่อุบัติเหตุ ไม่สิ ผู้หญิงคนนั้น……” ลู่จิ้นยวนส่ายหน้า กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาค่อยรู้สึกตัวว่าโทรศัพท์ถูกผู้หญิงต่างชาติคนนั้นขโมยไปแล้ว
แต่ว่า ท่ามกลางผู้คนแบบนี้ จะหาตัวเธอเจอได้ยังไง?
“ดูเหมือนว่า สิ่งที่ดึงดูดเธอไม่ใช่แคนาย แล้วก็เป็นเงินของนายด้วย” มู่เยียนหรานมองเห็นท่าทางทุลักทุเลของลู่จิ้นยวน ก็ยิ้มหัวเราะ
ลู่จิ้นยวนก็ยิ้มตามด้วย ก็แค่โทรศัพท์ เขาไม่สนใจอยู่แล้ว “ไม่เจอกันตั้งหลายปี เธอก็ยังเหมือนเดิม”
“ไปเถอะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าว เรื่องโทรศัพท์……ใช้ของฉันก่อนก็ได้ กว่าจะมาต่างประเทศได้ครั้งหนึ่ง ก็มาผ่อนคลายหน่อยเถอะ เรื่องในประเทศ ก็ไม่ต้องสนใจแล้ว เป็นไงบ้าง?”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว เขาเป็นคนที่ไม่ทิ้งการงานเพราะเรื่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่มู่เยียนหรานก็ยังยืนยันว่าแค่วันเดียว เขาก็เลยไม่ปฏิเสธเลยตอบตกลงไป
“เอาล่ะ งั้นตอนนี้เราก็เริ่มการท่องเที่ยวที่ต่างประเทศของเรากันเลย” มู่เยียนหรานเห็นว่าลู่จิ้นยวนยอมตอบตกลงกับคำขอที่งี่เง่าของตัวเอง ในใจก็รู้สึกมีความสุข
……
เวินหนิงไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ข้างนอกไปนานแค่ไหน จนทำให้อากาศเย็นทะลุเข้ามาถึงร่างกายจนชา เธอค่อยลุกขึ้นอย่างเฉื่อยชา
เธอจะล้มลงเพราะการใส่ร้ายแบบนี้ไม่ได้ เธอห้าม……
แต่ในขณะที่เวินหนิงกำลังจะเดินจากไป จากนั้น ก็มีข่าวเด้งขึ้นมาบนโทรศัพท์อีก เป็นเรื่องที่ยวี๋เฟยหมิงจะแถลงข่าว
ยวี๋เฟยหมิงกับเวินหลานหมั้นกัน เป็นที่ชื่นชอบของเมืองเจียงเฉิง เพราะฉะนั้น เขาจำเป็นต้องออกมาเคลียร์เรื่องนี้
“ที่เกิดเรื่องแบบนี้ ผมรู้สึกขอโทษมาก แต่เรื่องทั้งหมด วันนั้นพี่สาวของหลานหลานเอาแต่ยั่วยุอารมณ์ จนทำให้คุณปู่ของผมเข้าโรงพยาบาล”
“ตอนนั้นผมใจร้อนมากก็เลยไปคุยกับเธอตัวต่อตัว อยากให้เธอล้มเลิกการกระทำที่ไร้สาระแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าเธอจะแก้แค้น แล้วเข้าหาเอง ที่ผมไม่ทันผลักตัวเธอออก เป็นความผิดของผม ที่ทำให้หลานหลานได้รับผลกระทบขนาดนี้ ผมรู้สึกผิดมาก”
“แกกำลังโกหก!” เวินหนิงมองเห็นใบหน้ายวี๋เฟยหมิงบนหน้าจอ ทั้งๆที่กำลังบิดเบือนความจริง แต่เขาก็พูดเหมือนกับว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นอย่างนั้น
ยวี๋เฟยหมิงพูดจบ เวินหลานก็เดินออกมา ดวงตาทั้งสองข้างของเธอบวมแดงเล็กน้อย แต่ก็ไม่กระทบกับความสวยบนใบหน้า แต่กลับทำให้รู้สึกน่าสงสาร มองแล้วก็รู้สึกเป็นห่วง
“ฉันเชื่อคำพูดของพี่เฟยหมิง เราคบกันตั้งกี่ปี ฉันรู้จักดีว่าเขาเป็นคนยังไง แต่ว่า หนูหวังว่าพี่สาวจะไม่ทำการกระทำที่ไร้สาระแบบนี้อีก”
“คุณปู่ของพี่เฟยหมิงเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว คุณแม่ของหนูก็ร้องไห้กับเรื่องนี้ คุณพ่อก็ถอนหายใจทั้งวัน พี่สาว ขอแค่พี่ยอมรับผิดแล้วรับปากจะไม่ทำอีก ยังไงเราก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ”