“โอ้ บังเอิญมากเลย ชื่อของพวกเราต่างมีตัว หราน เหมือนกัน ”
ลู่อันหรานสังเกตไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ตรงหน้าอย่างละเอียด เธอเตี้ยกว่าตัวเองนิดหนึ่ง ใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีเนื้อหนังไม่มาก จึงดูผอมไปเล็กน้อย
แต่ดวงตาคู่หนึ่งนั้นอ่อนโยนและว่องไวดี ดูขี้อายเล็กน้อย ทำให้คนที่เห็นมีความรู้สึกที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ลู่อันหรานพยักหน้า ดูแล้วเหมือนจะสวยกว่านักเรียนดีเด่นประจำห้องเยอะเลย จึงรู้สึกสนใจและอยากรู้จักเธอ
“ เธอต้องการสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร
ที่โรงเรียนของเธอไม่ได้แจกเหรอ ”
ใบหน้าของไป๋ซินหรานมืดลง แน่นอนว่าที่โรงเรียนได้แจกหนังสือให้อยู่แล้ว แต่หนังสือแบบฝึกหัดนอกหลักสูตรเหล่านี้ต้องซื้อเอง
หลังจากที่แม่ของเธอออกจากบ้านไป เธอก็เลยต้องอาศัยอยู่กับพ่อของเธอ พ่อเธอได้หาแม่เลี้ยงใหม่ให้เธอ เมื่อไม่นานนี้ก็ได้ให้กำเนิดน้องชายคนหนึ่ง
หลังจากนั้นมา เธอแทบจะไม่มีเงินค่าขนมเลย เรื่องที่ต้องใช้เงินพวกนี้ เธอไม่กล้าเอากลับไปบอกคนที่บ้านหรอก เพราะเธอรู้ดีว่าต่อให้พูดไปแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์
ลู่อันหรานเห็นใบหน้าของเด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาหรี่ลงทีละน้อย แล้วพูดขึ้นอย่างถอนหายใจ ” อ้อ ช่างมันเถอะ ถ้าเธอไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดก็ได้ อย่างไรก็ตามของเหล่านี้ฉันเก็บไว้ก็เปล่าประโยชน์ ถ้าหากเธออยากเอากลับไปใช้ ก็ดีเลย จะได้ไม่ต้องสิ้นเปลือง ”
เมื่อได้ยินลู่อันหรานพูดอย่างงี้ เด็กผู้หญิงเงยหน้าขึ้นมองเขา ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่เพียงแต่หน้าตาดี แต่ยังน่ารักมากอีกด้วย
” ขอบคุณเธอมาก ถ้ามีโอกาส ฉันจะต้องตอบแทนเธออย่างแน่นอน ”
” แฮ่ม แฮ่ม ”
เมื่อลู่อันหรานได้ยินเธอพูดอย่างจริงจังแบบนี้ รู้สึกอายเล็กน้อย จึงทำเป็นไอขึ้นมาสองที ” งั้นพวกเราแลกเปลี่ยนเบอร์กันไหม ต่อไป เราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว คิกๆ มีเรื่องอะไรฉันจะปกป้องเธอเอง ”
หลังจากพูดจบ ลู่อันหรานล้วงกระเป๋าของเขา พบว่าโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าที่เปลี่ยนออกไปไม่ได้เอาออกมา ทำได้เพียงแค่หยิบกระดาษเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เขียนเบอร์โทรของตัวเองแล้วยื่นไปให้ไป๋ซินหราน
ไป๋ซินหรานกำลังจะรับมันขึ้นมา ทันใดนั้น ข้างหลังก็มีเสียงด่าของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
“ ไอ้เด็กระยำคนนี้วิ่งไปไหนแล้ว ให้แกออกไปซื้อของหน่อยตอนนี้ยังไม่กลับมา หรือว่าเอาเงินหนีไปแล้ว
ถึงว่าล่ะขนาดแม่มันยังไม่เอาเลย ”
ลู่อันหรานยังไม่เคยได้ยินคำพูดที่หยาบคายเช่นนี้ เมื่อมองไปก็เห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาค่อนข้างจะดุร้ายเดินเข้ามา
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เห็นไป๋ซินหรานที่ยืนอยู่ข้างๆลู่อันหราน จึงรีบเดินเข้ามาด้วยอารมณ์ที่โมโหร้ายทันที ” ฉันให้แกออกมาซื้อนมให้น้องชายแก แกกลับวิ่งมายืนคุยกับคนอื่นที่นี่ แกอยากให้น้องชายแกต้องหิวตายหรือไง
แกมันเด็กไร้ความกตัญญูจริงๆ ”
ในขณะที่พูดก็ยังมีกันยื่นมือเข้ามาหยิกเด็กผู้หญิง ทำให้ไป๋ซินหรานตกใจกลัว กำลังจะขอโทษ ลู่อันหรานก็ก้าวเท้ายืนออกมา ” คุณป้าคนนี้ คุณจะทำอะไร
ทำร้ายร่างกายเด็กเหรอ ”
และเขายังบอกไปแล้วว่าจะปกป้องเธอ แล้วจะปล่อยให้เธอถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร
” เธอเป็นใคร
ฉันกำลังสั่งสอนลูกสาวของฉัน มันเกี่ยวอะไรกับเธอ”
” จะไม่เกี่ยวกับผมได้อย่างไร ก็คุณมาทำร้ายร่างกายเด็กต่อหน้าผมนี่ ”
ลู่อันหรานไม่กลัวเธอแม้แต่น้อย
” ฮ่า ฮ่า ฉันไปทำร้ายมันยังไง ขณะแม่มันยังไม่ต้องการมันเลย ยังทิ้งเธอไว้ที่นี่แล้ววิ่งหนีตามผู้ชายไป ตอนนี้ฉันให้มันกินให้มันใช้ก็ถือว่าบุญมากแล้ว เด็กเสเพลอย่างเธอมายุ่งอะไรด้วย ไป๋ซินหรานแกมานี่เดี่ยวนี่ ”
ไป๋ซินหรานได้ยินเช่นนี้ รอบตาแดงไปหมด
ตอนที่คุณแม่ของเธอออกไปจากบ้าน เธอยังเล็กมากยังจำอะไรไม่ได้ พอเธอจำความได้เริ่มรู้เรื่องแล้ว พวกผู้หลักผู้ใหญ่ต่างพากันบอกว่าแม่ของเธอมีชู้ วิ่งหนี่ตามผู้ชายอื่นไปแล้ว ไม่ต้องการเธอแล้ว
สำหรับเด็กแล้ว การที่บอกว่าแม่เธอไม่ต้องการเธอแล้ว เป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจอย่างมาก
” แม่ของฉันต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างถึงได้จากไป ต้องไม่ใช่อย่างที่คุณพูดอย่างแน่นอน ”
” ฮ่า ฮ่า นี่เธอยังกล้าต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ รีบกลับบ้านไป ดูสิว่าฉันจะลงโทษเธอยังไง”
หลังจากพูดจบ หญิงวัยกลางคนก็คว้าข้อมือบาง ๆ ของไป๋ซินหรานพยายามจะดึงเธอจากไป
ลู่อันหรานเห็นท่าทางนี้แล้ว ถูกเธอลากตัวกลับไปแบบนี้ ยังไงก็ต้องโดนตีแน่นอน จึงรีบยื่นมือออกไปดึงมือเด็กผู้หญิงไว้ ไม่ให้พวกเขาไป
เพียงแต่ว่าลู่อันหรานยังเป็นเด็กอยู่ เทียบกับความแข็งแกร่งและแรงของผู้ใหญ่ไม่ได้ มือของเด็กผู้หญิงจึงค่อยๆหลุดออกไป
ลู่อันหรานรีบร้อนใจมาก ทันใดนั้นก็คิดอะไรออก เขาจึงคว้ามือของไป๋ซินหรานไว้แล้วร้องไห้ออกมาอย่างเสียงดัง
” ช่วยด้วยครับ ที่นี่มีคนทำร้ายร่างกายเด็ก ช่วยพวกเราโทรเรียกตำรวจหน่อยได้ไหมครับ ”
เสียงเรียกร้องของเขาได้ดึงดูดสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปมาไม่น้อย ต่างพากันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร 110
ไป๋ซินหรานยังไม่เคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน รู้สึกตกใจมาก “ หรือไม่ก็ ช่างมันเถอะ ”
เธอไม่เคยไปสถานีตำรวจ ถึงแม้ว่าที่ลู่อันหรานทำไปเพราะหวังดีกับเธอ แต่ต่อให้เข้าไปที่สถานีตำรวจ ก็แค่สามารถแก้ไขได้เฉพาะชั่วคราวเท่านั้น หลังจากนั้นเธออาจจะโดนที่บ้านรังแกหนักกว่าเดิมอีก
” ไม่ต้องกลัว เธออยากหาแม่ใช่ไหม คุณพ่อของฉันเก่งมาก เขาสามารถช่วยเธอตามหาแม่ของเธอได้อย่างแน่นอน”
ลู่อันหรานรีบปลอบใจขึ้นมาทันที พอได้ยินคำนี้ไป๋ซินหรานรู้สึกหวั่นไหวทันที คิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอคิดถึงแม่ของตัวเเองจริงๆ ที่บ้านนี่เธอเป็นเหมือนส่วนเกินคนหนึ่ง เธอจึงพยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรอีกเลย
“ ไป๋ซินหราน นี่แกกำลังต่อต้านเหรอ ยังจะแจ้งตำรวจอีก
รีบพูดให้ชัดเจนเดียวนี้ ”
หญิงวัยกลางคนตื่นตระหนกเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะดูร้ายต่อเด็ก
แต่เธอเป็นคนธรรมดาที่ไม่เคยเห็นสังคมที่ใหญ่โตอะไร พอได้ยินว่าสถานีตำรวจ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมาไม่น้อย
” ฉัน ฉันอยากให้คุณลุงตำรวจช่วยฉันตามหาแม่ของฉัน”
ไป๋ซินหรานรวบรวมความกล้าทั้งหมด มองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าเธอ
ที่บ้านนี้ ผู้หญิงคนนี้ค่อยแต่ดุด่าและตีเธอ ด่าว่าเธอเป็นเด็กระยำ และบางครั้งเวลาพ่อของเธอดื่มเหล้าเมายังมาลงไม้ลงมือกับเธออีก บอกว่าเธอเหมือนกับแม่ของเธอ เธอไม่สามารถทนอยู่ได้อีกต่อไป
ลู่อันหรานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเมื่อเห็นว่าในที่สุดเธอไม่อยากยอมอีกต่อไป
หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจมาเห็นถึงสถานการณ์ ยังเห็นคนจำนวนไม่น้อยล้อมรอบอยู่ กลัวว่าจะส่งผลในทางที่ไม่ดี จึงพาทั้งสามคนกลับไปที่สถานีตำรวจ
…
เวินหนิงมาถึงที่โรงเรียน ไม่เห็นลู่อันหราน
เธอกังวลและรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที แม้ว่าปกติลู่อันหรานจะซนไปหน่อย แต่เวลาแบบนี้เขา ไม่เคยไปวิ่งเล่นที่ไหนไกล
หรือจะเป็นเพราะโดนคุณครูเรียกไว้ทำการบ้านที่ห้องเรียนหรือเปล่า
เวินหนิงปลอบใจตัวเอง
เวินหนิงรีบไปถามครูที่ห้องเรียนทันที แต่คำตอบที่ได้คือพวกเขาปล่อยลู่อันหรานเลิกเรียนไปตั้งนานแล้ว ไม่ได้อยู่ที่ห้องเรียน
เวินหนิงตระหนักได้ทันทีว่าเรื่องไม่ดีแล้ว จึงรีบให้คนออกไปตามหา
ความคิดที่ไม่ดีมากมายค่อยๆปรากฏขึ้นในสมองของเธอ เธอยังคิดไปว่าอาจถูกคนร้ายลักพาตัวไปเพื่อเรียกค่าไถ่ก็ได้
เพราะลู่อันหรานเป็นคนของตระกูลลู่ มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เวินหนิงรีบโทรหาเบอร์ของลู่อันหรานทันที แต่ยังไงก็ไม่มีใครรับสาย เธอจึงรีบออกไปตามหาด้วยตัวเอง ยังเรียกครูสองสามคนช่วยตามหาอีกด้วย แต่ก็ไม่มีใครพบเจอ