“ไม่ค่ะ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
เวินหนิงโบกมือด้วยสีหน้าไม่สนใจ
ไป๋หลินยวี่สังเกตเธอนานมาก จากนั้นจึงยิ้ม “ถ้าหนูปล่อยวางได้จริงๆ อย่างนั้นยิ่งดี เพราะยังไงแม่เป็นห่วงเรื่องแบบนี้ที่สุด ข้างตัวเขามีผู้หญิงตลอด ถ้าเจอคนไหนที่ยุ่งด้วยไม่ได้ อาจจะทำร้ายตัวหนูด้วย”
“รู้แล้วค่ะแม่ อย่าเป็นห่วงเลยค่ะ หนูรู้ตัวเอง”
เวินหนิงพยักหน้า แต่ใจกลับไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ผ่านไปสักพัก คุณหมอก็เข้ามาตรวจร่างกาย เวินหนิงเลยหาข้ออ้างออกไปดูโทรศัพท์ คิดไปคิดมา เลยลองค้นหาข่าวที่แม่พูดถึง
เธอหาไปตั้งนาน แต่กลับหาข่าวที่เกี่ยวข้องไม่เจอเลย ว่างเหมือนไม่เคยมีข่าว
ลู่จิ้นยวนลบข่าวพวกนั้น?
เวินหนิงเดาเอง แต่พอไม่เจอข่าว ใจเธอกลับลนลานกว่าเดิม
มีเสียงสองเสียงดังวนในหัว เสียงแรกคือบอกว่า ในเมื่อจะปล่อยมือแล้ว เธอยังจะดูข่าวที่เกี่ยวกับเขาทำไม เกี่ยวอะไรกับเธอ?
เสียงที่สองคือ ก็แค่ดูเฉยๆ ดูแล้วจะได้ตายใจ ไม่งั้นเดี๋ยวนึกขึ้นอีกจะยิ่งรู้สึกฝั่งใจ
ลังเลไปตั้งนาน เวินหนิงกัดริมฝีปากแน่น มีพยาบาลสาวสองคนเดินมาพอดี ในปากก็เอาแต่พูดถึงข่าวดังในวันนี้
“เธอเห็นหรือยัง ข่าวที่ลู่จิ้นยวนไปเดทกับคุณหนูหยงนั่น”
“เห็นแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมโดนลบไปแล้ว รู้สึกแปลกๆ”
“เหอะเหอะ เธอจำได้หรือเปล่า แต่ก่อนมีข่าวลือว่าแม่ของคุณชายน้อยตระกูลลู่กลับมาแล้ว ไม่แน่ ลู่จิ้นยวนอาจจะไม่อยากให้เธอเห็นเลยลบก็ได้”
“ลบข่าวได้แต่ลบความทรงจำผู้คนไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นน่าสงสารจริงๆ แม้แต่ลูกก็ยกให้คนอื่น แต่ยังเป็นแบบนี้อีก ผู้หญิงในตระกูลร่ำรวยนี่อยู่ยากจริงๆ”
เวินหนิงฟังสิ่งที่พวกเธอพูด ใจที่เฉื่อยชากลับรู้สึกเจ็บปวด
ทีแรกคิดว่า สร้างเกราะป้องกันขนาดนั้นแล้ว กับเรื่องพวกนนี้เธอจะไม่เสียใจ
แต่พอได้ยินเต็มหูแบบนี้ เธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดี
ข่าวลือพวกนั้นทำลายศักดิ์ศรีเธอ เธอกลายเป็นคนที่น่าสงสารในสายตาผู้คน เป็นผู้หญิงที่เพ้อฝันที่อยากแต่งเข้าตระกูลร่ำรวย
เธอยิ่งอยากรู้ว่าข่าวนั่นเขียนอะไรไว้บ้าง ทำไมถึงทำให้คนอื่นคิดแบบนี้
“พวกเธอเห็นข่าวนั้นแล้วใช่ไหม? ฉันยังไม่ได้ดูเลย ให้ฉันดูหน่อยได้ไหม?”
เวินหนิงคิดไปมา เลยเดินไปทักคุยกับพยาบาล
พยาบาลก็ไม่รู้ว่าเวินหนิงเป็นใคร แต่เธอเหมือนไม่มีพิษภัยอะไร เลยหยิบโทรศัพท์ให้ “ยังดีที่ฉันมีประสบการณ์ตามข่าวพวกนี้ เลยเซฟไว้ก่อน ฉลาดจริงๆ เธอดูสิ รูปถ่ายนั่น คิดว่าถ่ายละครสักอีก”
เวินหนิงรับโทรศัพท์มาดู ในที่ที่คนอื่นไม่เห็น มือเธอสั่นเล็กน้อย
พอเปิดดู เลยเห็นเนื้อหาข่าวที่ถูกลบไปแล้ว เนื้อหาประมาณว่า ทั้งสองตระกูลเหมาะสมกันขนาดไหน ถ้าทั้งสองแต่งงานกัน จะนำพาผลประโยชน์มหาศาล”
เวินหนิงมองผ่าน ไปดูรูปถ่ายข้างล่าง
ทันใดนั้น ดวงตาเธอหม่นหมองไปไม่น้อย
ชายหญิงในรูป สนิมสนมใกล้ชิดกันมาก ร่างกายแนบชิดติดกัน คนทั่วไปยังรับไม่ได้เลย อย่าพูดถึงคนอย่างลู่จิ้นยวนเลย
เหอะเหอะ พูดได้น่าฟังขนาดนั้น คิดไม่ถึงจริงๆ สุดท้ายก็แพ้ทางผู้หญิงกับอำนาจ……
เวินหนิงอธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่มุมปากกลับเลิกขึ้น
“ส่งให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ? ฉันอยากเก็บไว้ดู”
“อือ ก็ได้”
พยาบาลไม่คิดเลยว่าเธอจะขออะไรแปลกๆแบบนี้ แต่ท่าทางเวินหนิง ไม่รู้ทำไมถึงไม่อยากปฏิเสธ “แต่เธออย่าเอาไปพูดนะ ไม่งั้นหัวหน้ารู้ฉันโดนด่าเละแน่”
เวินหนิงพยักหน้า จากนั้นก็เปิดบลูทูธรับข่าวนั่นมาที่โทรศัพท์ตัวเอง
เธอต้องเก็บรักษาของพวกนี้ไว้ให้ดี ต้องคอยย้ำเตือนตัวเอง อย่าหวั่นไหวเพราะความอ่อนโยนชั่วคราวของลู่จิ้นยวนเด็ดขาด
ผู้ชายคนนี้ ฐานะของเธอตอนนี้ อยู่กับเขาไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย
……
ลู่จิ้นยวนอยู่บริษัท ถึงแม้คนที่ปล่อยข่าวจะถูกตระกูลลู่จัดการแล้ว แต่อารมณ์ของเขาก็ยังแย่เหมือนเดิม
ในขณะที่คนทั้งบริษัทกำลังกดดันเพราะอารมณ์บอสไม่ดี แต่กลับมีคนที่คาดไม่ถึงมาเยือน
ตัวหลักอีกคนในข่าว หยงซือเหม่ยมาหาเองถึงที่
“ฉันจะพบคุณชายลู่”
หยงซือเหม่ยมาถึง ก็เอ่ยไปตามตรง
ลู่จิ้นยวนได้รับรายงานแล้ว คิ้วก็กระตุก ไม่พูดไม่ได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกมองไม่ทะลุ
ทำเรื่องแบบนี้โดยไม่ผ่านการอนุมัติจากเขา ยังกล้ามาหาถึงที่อีก เธอคิดว่าเธอมีตระกูลหยง เขาก็ไม่กล้าทำอะไรเกินเลยงั้นเหรอ……
สายตาลู่จิ้นยวนเยือกเย็น ผู้หญิงคนนี้ เป็นคุณหนูตัวจริงของตระกูลหยงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงเธอจะเป็นตัวจริง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องทนกับการกระทำที่ชั่วช้าของเธอ
“ให้เธอขึ้นมา”
ลู่จิ้นยวนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง นี่เลยทำให้พนักงานต้อนรับประหลาดใจ
เมื่อวานเพื่อนร่วมงานของเธอถูกย้ายไปทำงานที่สบายๆเพราะคุณหนูหยงคนนี้ แถมเงินเดือนยังเพิ่มเป็นเท่าตัว วันนี้เธอยังรอให้คุณหนูหยงคนนี้อาละวาด
คิดไม่ถึงจริงๆว่าบอสจะยอมให้เข้าไป ถ้าเป็นแบบนี้ คงไม่ต้องหวังว่าจะได้เพิ่มเงินเดือนแล้วสินะ
พนักงานต้อนรับเอ่ยอย่างมีมารยาทกับหยงซือเหม่ย ซึ่งแฝงไปด้วยความเสียดาย “เชิญค่ะคุณหนูหยง บอสรอคุณอยู่ชั้นบนค่ะ”
หยงซือเหม่ยยิ้มอ่อน หยิบกระจกออกมาดูภาพลักษณ์ตัวเอง ก่อนที่เธอมา เธอตั้งใจแต่งหน้าสวยๆ ใบหน้าที่สวยสง่าขนาดนี้ แค่เป็นผู้ชายก็ต้องรู้สึกว้าวแน่นอน
พอขึ้นลิฟต์วีไอพี หยงซือเหม่ยเห็นตัวเลขพวกนั้น ใจก็เต้นเร็วกว่าเดิม
ลิฟต์จอดที่ชั้นบนสุด
หยงซือเหม่ยก้าวเดินออกไป เดินไปไม่กี่ก้าว ก็เห็นลู่จิ้นยวนที่นั่งอยู่บนโซฟาแล้ว
มุมปากผู้ชายคนนั้นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มองผ่านกระจก ก็ทำให้รู้สึกลึกลับ มีเสน่ห์แปลกๆ นี่เลยทำให้ใจหยงซือเหม่ยเต้นเร็วกว่าเดิม
“คุณชายลู่ คุณยอมพบฉันสักทีนะคะ”
หยงซือเหม่ยห้ามความรู้สึกไว้ ก้าวเดินไปอย่างสง่า
ลู่จิ้นยวนเงยหน้ามองเธอ “ยังไง ผมก็อยากดูว่าหลังจากที่คุณเล่นละครสร้างข่าวแบบนั้นแล้ว จะมาเผชิญหน้ากับผมยังไง”