ได้ยินคุณหมอพูดแบบนี้ เวินหนิงค่อยวางใจ
อย่างน้อยก็จะไม่มีผลเสียหายที่หนักหนาอะไรตามมา
กำลังคิดแบบนี้ ลู่อันหรานที่เฝ้าไป๋ซินหรานอยู่ข้างเตียงก็เอ่ยขึ้น “แม่ครับ แม่ เธอพูดแล้ว”
พอเวินหนิงได้ยิน เลยคิดว่าไป๋ซินหรานฟื้นแล้วซะอีก เลยรีบเดินไปหา แต่ว่าได้ยินแค่ไป๋ซินหรานอาแต่เรียกหาแม่
เวินหนิงได้ยินแล้วรู้สึกเอ็นดู ยังไงเด็กก็ต้องการแม่อยู่แล้ว
ถึงแม้เธอจะดีกับไป๋ซินหรานแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถแทนที่ของแม่ได้
“แม่ครับ แม่หาคุณแม่ซินหรานเจอหรือยังครับ? ผมอยากให้ตอนที่เธอตื่นแล้วได้เจอแม่ตัวเอง”
ตอนที่ลู่อันหรานได้ยิน เขาก็เศร้าเหมือนกัน
จึงอดนึกถึงตัวเองไม่ได้ ตอนที่ยังหาคุณแม่ไม่เจอ เขาเอาแต่จิตนาการว่าแม่ตัวเองหน้าตายังไง บางครั้งก็โดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ ในใจเขาก็โกรธเหมือนกัน ทำไมคุณแม่ไม่อยู่ข้างเขา
เพราะฉะนั้น ลู่อันหรานเลยรู้สึกได้ บวกกับที่เขารู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำกับซินหราน เขาก็เลยอยากจะชดใช้ให้เธอ
เวินหนิงดูโทรศัพท์ เรื่องนี้เธอขอให้เห่อจื่ออันช่วย อาจจะได้ข่าวอะไรแล้วมั้ง
“อันหรานรอก่อนนะ แม่โทรถามก่อน”
เวินหนิงเดินออกไป ถือโทรศัพท์ไว้แล้วโทรหาเห่อจื่ออัน
ความจริงเห่อจื่ออันหาแม่ของไป๋ซินหรานเจอแล้ว แต่ว่าพอเธอได้ยินว่าจะต้องไปเจอลูกสาวตัวเอง เลยบล็อคเห่อจื่ออันทันที
เห่อจื่ออันเข้าใจว่าเธอหมายความว่ายังไง เธอไม่อยากยอมรับอดีตของตัวเอง คงจะไม่รับไป๋ซินหรานแน่ๆ
แต่ว่า เห่อจื่ออันไม่อยากให้เวินหนิงผิดหวัง เลยให้คนไปสืบว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหน เขาคิดว่าจะไปคุยกับเธอเอง
ถ้าความรักระหว่างแม่ลูกทำให้เธอหวั่นไหวไม่ได้ เขาเลยต้องใช้ผลประโยชน์ทางธุรกิจเพื่อให้เธอพยักหน้าตกลง
แต่วันนี้เจียงซินเฉียวพาลูกฝาแฝดของเธอไปสวนสนุก เห่อจื่ออันเลยมาดักรอ เดี๋ยวเธอหนีไปอีก
ขณะที่เห่อจื่ออันกำลังรอ ก็ได้รับโทรศัพท์จากเวินหนิง
“จื่ออัน เรื่องราบรื่นหรือเปล่า? เจียงซินเฉียว ยอมมาเจอซินหรานไหม?”
เห่อจื่ออันเงียบไปครู่หนึ่ง “ตอนนี้ฉันรอเธออยู่ ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับเธอ เธอให้เวลาฉันหน่อยได้ไหม?”
พอเวินหนิงได้ยินแบบนี้ ในใจก็รู้คร่าวๆแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ถ้า เจียงซินเฉียวยังใส่ใจลูกตัวเอง รู้ว่าเธอเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คงต้องรีบมาหาแน่นอน
ลองสลับกัน ถ้าลู่อันหรานป่วย เวินหนิงไม่มีทางลังเลแน่นอน สำหรับแม่คนหนึ่ง ความปลอดภัยของเด็กสำคัญกว่าทุกสิ่ง
ถ้าอย่างงั้น……
เวินหนิงรู้สึกปวดหัว “จื่ออัน นายอย่าปิดบังฉัน เธอไม่อยากยอมรับซินหรานใช่ไหม?”
เห่อจื่ออันคิดไปมา “ประมาณนั้น”
เวินหนิงถอนหายใจ
“เดี๋ยวฉันไปคุยกับเธอเอง”
เวินหนิงคิดไปมา ยังอยากพยายามซะหน่อย
ยังไงเธอก็เป็นคนที่มีลูก อาจจะพูดอะไรที่ทำให้เจียงซินเฉียวเปลี่ยนใจได้
“ร่างกายเธอยังไม่ดีขึ้น อย่าไปไหน”
พอเห่อจื่ออันได้ยิน น้ำเสียงจึงเข้มงวดทันที
ตอนเช้าเธอเพิ่งเป็นลมไป ตอนนี้มาคิดมากเรื่องนี้อีก ไม่กลัวว่าจะเป็นลมอีกครั้งเหรอไง?
“แต่ว่า ฉันอยู่ที่นี่ฉันใจร้อนมาก นายให้ฉันไปเถอะ ถ้าฉันรู้สึกไม่สบายตัว ฉันจะบอกนายทันที”
เวินหนิงพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน เห่อจื่ออันเลยทำใจปฏิเสธไม่ได้ ยังไงเธอก็หวังดี เขาไม่อยากให้ความเมตตาของเธอถูกทำลาย
“งั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันส่งที่อยู่ให้ เธอมาหาฉัน อย่าไปไหน เข้าใจไหม?”
เวินหนิงตอบตกลง รู้ที่อยู่แล้วจะเตรียมตัวไปทันที
พอลู่อันหรานเห็น จึงตามมาด้วย “แม่ครับ ผมไปด้วย”
เวินหนิงไม่อยากตามใจเขา การคุยกันครั้งนี้ คงไม่ง่าย เธอไม่อยากให้ลู่อันหรานเห็นด้านมืดของผู้ใหญ่ เลยชี้ไปที่เตียงคนไข้
“อันหราน เราอยู่ดูแลซินหรานที่นี่ได้ไหมคะ? เธออยู่ที่นี่คนเดียว ถ้าตื่นแล้วไม่มีใครอยู่ด้วย คงรู้สึกโดดเดี่ยวแน่นอน อีกอย่าง แม่ก็ไม่วางใจด้วย”
ลู่อันหรานคิดไปมา “งั้นก็ได้ครับ ผมจะอยู่ดูแลเธอที่นี่”
“อันหรานเป็นเด็กดีมาก”
เวินหนิงจูบหน้าผากลู่อันหราน มองเด็กน้อยวิ่งกลับไปที่เตียงไป๋ซินหราน ตั้งใจดูแลเธอ เวินหนิงค่อยยิ้ม แล้วไปจากที่นี่
เวินหนิงรีบไปตามที่อยู่ที่เห่อจื่ออันส่งมาทันที
จุดมุ่งหมายคือสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงเฉิง แต่ก่อนลู่อันหรานก็ชอบบอกให้เธอพาเขาไปเล่นบ่อยๆ
แต่ว่า พอนึกถึงไป๋ซินหรานที่นอนรอคุณแม่ไปหา เธอแม่ของเธอกลับพาน้องๆมาเที่ยวเล่นแบบนี้ ไม่ว่ายังไง ก็รู้สึกเสียดสีอยู่ดี
เวินหนิงคิดไปมา เลยหักห้ามอารมณ์ ควบคุมสติไว้
เวินหนิงไปหาเห่อจื่ออันก่อน เห่อจื่ออันสำรวจสีหน้าของเวินหนิง รู้สึกว่าร่างกายเธอยังไม่หายดี แต่ว่าเธอหัวดื้อ เขาเลยให้เธอมาด้วย
“หนิงหนิง เดี๋ยวถ้าเธอรู้สึกไม่สบายตรงไหน ต้องรีบบอกนะ ฉันไม่อยากเห็นเธอเป็นลมหรือเป็นอะไร”
“ฉันรู้แล้ว ไว้ใจเถอะ ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย ฉันดูแลตัวเองได้”
เวินหนิงพยักหน้าขอบคุณกับความเป็นห่วงของเห่อจื่ออัน จากนั้นจึงถาม “ผู้หญิงคนนั้นคือเจียงซินเฉียวหรือเปล่า?”
เวินหนิงชี้ผู้หญิงที่พาเด็กสองคนมาด้วย
ถึงแม้ ถ้าคิดดีๆเธอเคยคลอดลูกสามคนแล้ว แต่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกดูไม่ออกเลย ใบหน้าที่สวยสะดุดตา รักษาหุ่นได้ดีมาก อีกอย่าง ท่าทางที่ดูอ่อนแอแบบนั้น ทำให้คนมองรู้สึกอยากปกป้องอย่างบอกไม่ถูก
“ใช่”
เวินหนิงมองผู้หญิงคนนั้น ข้างตัวเธอมีเด็กสองคน ดูแล้วตัวเท่าๆไป๋ซินหรานเลย ไม่รู้ว่าเพราะไป๋ซินหรานสารอาหารไม่ครบถ้วนเลยดูตัวเล็กหรืออะไรกันแน่
“เดี๋ยวฉันลองไปคุยกับเธอ”
เวินหนิงเอ่ยพูด
เห่อจื่ออันคิดไปมา “ได้ เธอไปลองก่อน ถ้าไม่ได้ ฉันค่อยหาวิธีใหม่”
เวินหนิงตอบเสียงเบา จากนั้นจึงเดินไปใกล้เจียงซินเฉียว
เจียงซินเฉียวกำลังยุ่งอยู่กับเด็กสองคน เลยไม่ได้สังเกตว่ามีคนมาหา
“คุณคือคุณเจียงใช่ไหมคะ ฉันขอคุยกับคุณหน่อยได้ไหมคะ?”
เวินหนิงเดินไป เอ่ยพูดอย่างมีมารยาท
เจียงซินเฉียวมองเวินหนิง “ขอโทษนะคะ ฉันกำลังยุ่ง”
“ฉันจะคุยกับคุณเรื่องของซินหราน”
เวินหนิงเห็นว่าเธอจะไป เลยเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
พอได้ยินชื่อไป๋ซินหราน สีหน้าผู้หญิงคนนั้นก็ซีดทันที