หยงซือเหม่ยโกรธมาก จึงโทรไปหาซ่งรั่วอวิ้นอีกครั้ง จะโทรไปด่าสักหน่อย
แต่ว่า สายก็ไม่มีคนรับสักที
หลังจากที่ซ่งรั่วอวิ้นวางสาย เธอก็เข้าไปในห้องผ่าตัด
ทั้งหมดดำเนินไปตามขั้นตอน ก็เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์อยู่แล้ว
หยงซือเหม่ยโทรไปตั้งหลายสาย แต่ก็ไม่มีคนรับ เธอเลยมีลางสังหรณ์อะไรไม่ดีบางอย่าง
จากนั้นก็รีบไปโรงพยาบาลที่ไป๋หลินยวี่อยู่ทันที
เธอเพิ่งถึง ก็เห็นซ่งรั่วอวิ้นถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด
พอบริจาคไขสันหลังไป สีหน้าซ่งรั่วอวิ้นก็ซีดมาก ดูสภาพร่างกายอ่อนแอมาก
หยงซือเหม่ยไม่มีอารมณ์สนใจเรื่องนี้ เห็นเธอสภาพนั้น เธอรู้ทันทีว่าเพิ่งทำอะไรมา
“ซ่งรั่วอวิ้น แกบริจาคไขสันหลังแล้ว?”
พอคิดว่าซ่งรั่วอวิ้นไม่ทำตามแผนตัวเอง แล้วแอบบริจาคไขสันหลังให้ผู้หญิงคนนั้น หยงซือเหม่ยก็โกรธจนจะเป็นบ้า
นี่เป็นไพ่ใบสำคัญของเธอ ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว เธออยากจะฉีกซ่งรั่วอวิ้นให้เละด้วยซ้ำ
“ร่างกายคนอื่นทนเสียเวลากับเธอไม่ได้ ฉันแค่ช่วยคน มีปัญหาอะไรเหรอ?”
ซ่งรั่วอวิ้นเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง ไม่มีกระจิตกระใจทำตัวตามใจอีก
“แก……แก……เหมือนที่คุณลุงเขาพูดจริงๆ แกมันเนรคุณ ตอนนี้ช่วยคนนอกแล้วมาทำลายแผนของฉัน ฉันจะกลับไปบอกคุณตาเรื่องนี้ ให้ท่านไล่แกออกจากบริษัท”
พอซ่งรั่วอวิ้นได้ยิน ไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดกลัวอย่างที่หยงซือเหม่ยคิดไว้ แต่กลับยิ้มอย่างไม่แคร์
ความจริง ด้วยความสามารถของซ่งรั่วอวิ้น ถึงไม่ทำงานที่ตระกูลหยง ก็สามารถพึ่งพาความสามารถตัวเองได้ แต่เพราะจะตอบแทนบุญคุณตระกูลหยง เงินเดือนของเธอเลยน้อยกว่าคนทั่วไป
แต่ว่า แต่ก่อนเธอไม่ได้ใส่ใจมาก คิดว่ายังไงก็ครอบครัวเดียวกัน
แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว พวกเขาไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน เธอก็แค่สุนัขที่ตระกูลหยงเลี้ยง อารมณ์ดีก็ให้กระดูก ให้ขนมเธอดีใจ
แต่พออารมณ์เสีย ก็เหมือนหยงซือเหม่ยเมื่อกี้ ชี้หน้าด่าเธอ คำพูดที่ไม่น่าฟังก็เอามาด่าว่า
“ถ้าเธออยากก็ไปบอกสิ ฉันก็เหนื่อยพอดี อยากจะลาออกไปพักสักระยะ เธอไปพูด ฉันก็ไม่ต้องเสียเวลาอีก”
“นังสารเลว……” พอหยงซือเหม่ยได้ยิน ก็โมโหจนจะพุ่งมาตบซ่งรั่วอวิ้น
ทันใดนั้น มือของเธอก็ถูกตรึงไว้ พอหันไป จึงเห็นว่าเวินหนิงออกมาพอดี
เมื่อกี้เวินหนิงเข้าไปในห้องผ่าตัดกับคุณแม่ พอออกมา ก็เห็นหยงซือเหม่ยกำลังอาละวาดอยู่ ทีแรกเป็นเรื่องในครอบครัวคนอื่น เธอไม่อยากยุ่ง
แต่พอเห็นหยงซือเหม่ยจะทำร้ายร่างกายคน ซ่งรั่วอวิ้นเพิ่งให้ไขสันหลังไป ตอนนี้ร่างกายกำลังอ่อนแอ เวินหนิงเลยรีบไปห้ามทันที
“หยงซือเหม่ย คุณมาที่นี่ทำไม? เรื่องที่คุณทำไว้ ปั่นหัวฉันเหมือนคนโง่ ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลย ตอนนี้ยังจะทำร้ายคนอื่นอีกเหรอ?”
หยงซือเหม่ยรู้ว่าเรื่องโป๊ะแตกแล้ว ก็เลยไม่แสแสร้งต่อ ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! “ใช่ แกรู้แล้วยังไง ฉันมีตระกูลหยง แกล่ะ? แกจะทำอะไรฉันได้?”
เวินหนิงเห็นท่าทางที่ได้ใจของเธอ จึงกำมือแน่น
คิดว่าชาติตระกูลดี ก็มาปั่นหัวคนอื่นแบบนี้ได้เหรอ จนกระทั่งชีวิตคนทั้งคนก็ไม่สนใจ?
ความคิดแบบนี้ เวินหนิงไม่มีทางเข้าใจ แต่เห็นท่าทางหยงซือเหม่ยแบบนี้ เธอก็รู้สึกแปลกใจ ถ้าเธอรู้ว่าตัวเองไม่ใช่หลานสาวตระกูลหยง เป็นแค่ตัวปลอม จะแสดงสีหน้ายังไง
“เพราะแบบนี้ คุณเลยรู้สึกว่าอยู่สูงกว่าฉัน? เตือนคุณไว้นะคะ เป็นคนต้องรู้จักถ่อมตัว เดี๋ยวอีกหน่อยจะตบหน้าตัวเองเปล่าๆ”
เวินหนิงเหลือบไปทางหยงซือเหม่ย พยุงตัวซ่งรั่วอวิ้นไว้ “เรากลับไปเถอะ”
พูดจบ ทั้งสองคนก็ไม่สนใจหยงซือเหม่ยอีก เดินตรงไปเลย
พอถูกมองข้าม หยงซือเหม่ยก็โมโหจนกระทืบเท้า แต่ตอนนี้เธออยู่ในที่ของคนอื่น เลยทำอะไรไม่ได้เลย
“พวกแกรอไว้ก่อน อย่าคิดว่าเรื่องจะจบง่ายๆแบบนี้”
……
การผ่าตัดของไป๋หลินยวี่ผ่านไปอย่างราบรื่น การปลูกถ่ายก็ทำเสร็จอย่างรวดเร็ว
คุณหมอบอกเวินหนิง ตอนนี้แค่ไป๋หลินยวี่พักฟื้นร่างกายดีๆ เดี๋ยวจะค่อยๆกลับมาเป็นปกติ ต้องระวังเรื่องทานยา อย่าให้มีอะไรมากระทบเด็ดขาด
พอได้ยินข่าวนี้ เวินหนิงก็ดีใจมาก
เธอรอวันนี้มานานแล้ว
เหมือนยกก้อนหินออกจากหน้าอก เวินหนิงโล่งใจไปไม่น้อย จากนั้น เรื่องที่เก็บไว้ในใจตลอดก็เอ่อล้นออกมา
ทางลู่จิ้นยวน เป็นยังไงบ้าง……
เพราะคุณแม่ใกล้จะผ่าตัดแล้ว เวินหนิงเลยบังคับตัวเองไม่ให้นึกถึงอาการของลู่จิ้นยวน ตอนนี้ทุกอย่างจบแล้ว เธอจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องนั้นก็ยาก
คิดไปมา เวินหนิงเลยหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรไปถามที่โรงพยาบาล
ตัวเธอไปไม่ได้ อย่างน้อยก็โทรถามอาการคุณหมอก่อน
เวินหนิงโทรไป ไม่นานก็โทรออก
“ฉันอยากจะสอบถามว่า ตอนนี้อาการลู่จิ้นยวนเป็นยังไงบ้างคะ?”
พอคุณหมอได้ยิน ก็รีบระวังทันที
เพราะลู่จิ้นยวนบาดเจ็บแล้วพักฟื้นอยู่ที่นี่ มีคนไม่น้อยที่โทรมาถามเรื่องอาการ
ในฐานะที่พวกเขาเป็นโรงพยาบาลที่ตระกูลลู่เป็นหุ้นส่วน ยังไงก็ต้องปิดข่าวให้เงียบอยู่แล้ว
“ขอโทษนะครับ เราไม่สามารถบอกรายละเอียดของคนไข้”
พอเวินหนิงได้ยิน ก็ถอนหายใจในใจ
เหมือนว่าต้องไปด้วยตัวเองสินะถึงจะรู้ว่าอาการเป็นยังไงกันแน่
คิดไปคิดมา เวินหนิงเลยตัดสินใจจะไปตอนที่คุณหมอเลิกงาน เธอไม่อยากให้ลู่จิ้นยวนรู้ว่าเธอแอบมาถามเรื่องเขา
เพราะยังไง ตัวเองก็เป็นคนใจดำพูดแบบนั้นเอง ตอนนี้ไปถามไถ่เรื่องเขา นี่ตบหน้าตัวเองชัดๆ……