บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 70 หาเรื่องใส่ตัว

ลู่จิ้นยวนมองหน้าเวินหนิงที่แดงเล็กน้อย และเม็ดเหงื่อที่เกาะอยู่ตรงปลายจมูก

“เธอวิ่งมาเหรอ?”

“คือ…..เปล่าค่ะ ฉันกลัวคุณต้องรีบใช้ เลยรีบไปหน่อย” เวินหนิงไม่ได้พูดถึงเรื่องของเวินหลาน เชื่อว่าลู่จิ้นยวนเองก็คงไม่ชอบฟังเรื่องคาวๆแบบนั้น

พอได้ยินแบบนั้น ลู่จิ้นยวนที่มีสีหน้าตึงเครียดก็ยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะรับเอกสารไปจากเธอ “ไม่คิดว่าเธอจะมีความรับผิดชอบในหน้าที่เหมือนกัน”

เวินหนิงพยักหน้ารับอย่างใจลอย ในใจยังเอาแต่นึกถึงเรื่องของเวินหลาน ลู่จิ้นยวนหันไปมองงานเลี้ยงด้านหลังที่เต็มไปด้วยผู้คนพร้อมเครื่องดื่มต่างๆ อีกทั้งยังมีสาวโสดมากมายที่รอเข้าหาเขาอยู่

เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับสังคมจอมปลอมที่ต้อมสวมหน้ากากใส่กันแบบนี้มาก พอเห็นว่าเวินหนิงกำลังจะกลับ ก็พูดขึ้น “ฉันกำลังมองหาคู่ควงเข้างานอยู่ เธอมาเป็นให้หน่อยแล้วกัน”

เวินหนิงที่เพิ่งดึงสติกลับมา ตกใจจนตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน

ล้อเล่นใช่มั้ย ตอนนี้เธอยังใส่ชุดฟอร์มสีขาวดำของบริษัทตระกูลลู่อยู่เลย ในขณะที่คนในงานเลี้ยงแต่งตัวกันมาสวยงามหรูหราแบบนั้น ขืนให้เธอเดินเข้าไปแบบนี้ มีหวังคนในงานได้หัวเราเยาะเธอตายแน่?

“เดี๋ยวฉันพาเธอไปซื้อชุดเอง” ลู่จิ้นยวนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยไม่ปล่อยให้เวินหนิงมีโอกาสปฏิเสธ

“…………..” เห็นความตั้งใจของเขาแล้ว เวินหนิงก็ไม่กล้าขัดอะไร เพราะยังไงแล้วตอนนี้เขาเป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของเธอ “แต่ ถ้าเราเข้าไปด้วยกันแบบนี้ จะไม่มีปัญหาอะไรตามมาทีหลังเหรอคะ”

ลู่จิ้นยวนไม่รีรอให้เธอได้พูดอะไรอีก เขาดึงมือเธอขึ้นรถไป ไม่นานรถก็มาถึงสถานที่ที่หนึ่งที่ไกลออกมา ” ที่นี้ล่ะ ”

เวินหนิงค่อยๆลงจากรถ ขณะเงยหน้ามองป้ายหน้าร้าน ในใจเธอก็กระตุกวาบขึ้นมาเล็กน้อย

ที่ที่ลู่จิ้นยวนพาเธอมานั้นเรียกว่าหลานเมิ่ง เป็นร้านดีไซน์เนอร์เสื้อผ้าชื่อดังในเมืองเจียงเฉิน เมื่อตอนที่แม่เธอยังแข็งแรงอยู่ ก็เคยพาเวินหนิงมาที่นี้

แม่จะพูดเสมอว่า “หนิงหนิงเป็นเจ้าหญิงน้อยของแม่ ต้องแต่งตัวสวยๆนะรู้มั้ย”

หลังจากลู่จิ้นยวนจอดรถเสร็จ ก็หันมามองเวินหนิงที่ยืนนิ่งอยู่หน้าร้าน ยังไม่ทันได้ทักขึ้น เขาก็สังเกตเห็นความเศร้าสร้อยและเจ็บปวดในแววตาเธอ ในความนิ่งเฉยของเธอแฝงด้วยความเศร้าหมองจนยากที่จะละสายตาได้

น้ำเสียเขาที่ทักขึ้นอ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ตัว “เข้าไปเถอะ”

เวินหนิงพยักหน้า ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไป ทันใดนั้นเธอก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “ฉันจำได้ว่าที่นี่ต้องนัดล่วงหน้า เราเข้ามาแบบนี้ จะไม่เป็นไรเหรอคะ?”

“คนที่ต้องนัดล่วงหน้าคือเธอ ไม่ใช่ฉัน” ลู่จิ้นยวนพูดขึ้นอย่างวางตัว แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง พอเขาพาเธอเดินเข้าไปปุ๊บ ก็มีคนมาต้อนรับทันที แล้วพาพวกเขาไปยันห้องVIP

ดูแล้ว เธอยังประเมินอำนาจบารมีของลู่จิ้นยวนที่มีในเมืองเจียงเฉินต่ำไป ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนชีวิตของเวินหนิงก็ถือว่าดีอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าเทียบกับตระกูลลู่แล้ว ยังถือว่าห่างไกลกันมากนัก

ทั้งสองรออยู่ชั่วครู่ ก็มีชายหนุ่มผมยาวคลุมบ่าเดินเข้ามา ก่อนจะจ้องไปที่ลู่จิ้นยวนแล้วเลื่อนสายตาไปมองหน้าเธอ แล้วยกมุมปากยิ้มอย่างร้ายๆ “นี่สงสัยพระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วมั้ย? คุณชายลู่ถึงได้พาผู้หญิงมาที่นี่ได้ ทั้งที่ไม่ได้มาตั้งหลายปีแล้ว”

เฉิงหยางจ้องไปที่ลู่จิ้นยวน และพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน เนื่องจากพวกเขาเป็นเพื่อนกันจึงพูดขึ้นอย่างเป็นกันเอง

ลู่จิ้นยวนมองเขาแวบหนึ่ง “พูดมากน่ะ รีบทำผมและหาเสื้อให้เธอเลย”

พอเห็นว่าลู่จิ้นยวนยังคงเอาใจยากเหมือนเดิม เฉิงหยางก็ส่ายหัวไปมาเล็กน้อย ก่อนจะมองไปทางเวินหนิงที่นั่งเกร็งอยู่ข้างๆ”

เธอที่แต่งตัวธรรมดา ใบหน้าขาวใสหมดจดไม่ได้แต่งแต้มอะไรบนใบหน้า แต่ผิวกลับดูขาวใสไม่มีแม้รูขุมขนหรือรอยด่างดำ และด้วยรูปร่างที่ดูสมส่วน ถึงจะสวมใส่แค่ชุดฟอร์มธรรมดาก็ยังสามารถดึงดูดสายตัวผู้คนได้

แววตาของเฉิงหยางที่ส่องประกายไม่หยุด เหมือนกำลังจ้องมองหยกน้ำงามที่รอการเจียระไน ขอแค่ขัดสีฉวีวรรณดีๆ เธอก็เปล่งแสงเจิดจรัสขึ้นมาได้อย่างสวยงามแน่นอน

เวินหนิงถูกเขาจ้องมองจนรู้สึกอึดอัด แต่เฉิงหยางกลับไม่รู้สึกอะไร ดวงตาทั้งคู่ยังคงจ้องมองเธอต่ออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้่าไปในห้องเสื้อ แล้วเลือกชุดให้เธออย่างรวดเร็ว

“ไป ลองชุดนี้ดู”

เวินหนิงไปเปลี่ยนตามที่เขาบอก เฉิงหยางถือโอกาสที่เธอไม่อยู่ เข้าไปพูดล้อเลียนลู่จิ้นยวนอีกครั้งอย่างไม่กลัวตาย

“รสนิยมเปลี่ยนไปมากนะ เมื่อก่อนเห็นชอบแนวเซ็กซี่ไม่ใช่เหรอ?”

แน่นอนว่าเฉิงหยางไม่เคยลืมความรักครั้งก่อนของลู่จิ้นยวนและมู่เยียนหรานที่ผู้คนต่างพากันอิจฉา บวกกับข้างกายของลู่จิ้นยวนเองก็ไม่มีผู้หญิงที่ไหนมานานแล้ว เขายังนึกอยู่เลยว่าลู่จิ้นยวนอาจจะยังรอเธอกลับมาสานสัมพันธ์กันต่อ ไม่คิดว่าวันนี้จะพาผู้หญิงมาจนได้

“ก็มีอยู่แค่คนเดียว มีแนวอะไรที่ไหนกัน?”

ลู่จิ้นยวนพูดจริง เขาเป็นคนช่างเลือก คนที่จะเข้าตาเขามีไม่มากนัก แต่มีข้อดีตรงที่ถ้าเขาเลือกใครแล้ว ก็ยากที่จะเปลี่ยนใจ

แต่วันนี้ ดูเขาจะเปลี่ยนไปแล้วนะ

“มันก็ใช่อยู่ ก็เคยบอกแล้วว่า คนเราจะมาจมปลักกับคนคนเดียวไม่ได้”

เฉิงหยางเอามือตบเบาๆบนบ่าเขา เฉิงหยางไม่เหมือนกับไป๋ซินอวี๋ที่คอยแต่จะปกป้องมู่เยียนหราน เขาคิดว่าสองคนนี้ต่างก็เย่อหยิ่งพอกัน ดูไม่เหมาะสมกันเท่าไหร่ ต่างกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอดูอ่อนโยนน่ารัก ดูเหมาะกับลู่จิ้นยวนมากกว่า

เวินหนิงที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมา

เฉิงหยางเลือกชุดราตรีสีเหลืองที่ดูเรียบหรูดูดีให้เธอลอง ชุดแบบนี้ดูแล้วอาจธรรมดา และถ้าคนใส่ไม่ขาวใสพอ ก็จะทำให้ใส่แล้วดูหมองไม่มีระดับ

แต่เวินหนิงใส่แล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น ผิวที่ขาวอมชมพูของเธอไม่ได้ดูหมองลงเลยแม้แต่น้อย กลับคลับผิวเธอให้สว่างมากกว่าเก่า รูปร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งก็เห็นชัดยิ่งขึ้น ทำให้ดูหรูและมีระดับ

“อืม ดีมาก ไม่แพ้มู่เยียนหรานเลย” เฉิงหยางพอใจกับสายตาของตัวเองมาก จนเผลอพูดประโยคนี้ออกมา

เวินหนิงได้ยินแล้ว ก็อึ้งไปเล็กน้อย มู่เยียนหราน…….คือใครกัน?

เธอเผลอมองไปที่ลู่จิ้นยวน เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจ้องมองไปที่เฉิงหยางอย่างคาดโทษ เฉิงหยางที่รู้ว่าตัวเองปากพล่อยก็ทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนเล็กน้อย แล้วรีบพาเวินหนิงเข้าไปยันห้องแต่งหน้าทันที

ขณะที่เวินหนิงมองดูเฉิงหยางแต่งหน้าให้เธอ ในหัวก็นึกถึงชื่อของคนที่เขาเพิ่งพูดเมื่อกี้

มู่เยียนหราน เธอเหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนนะ แต่ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้น่าจะสนิทสนมกับลู้จิ้นยวนอยู่ไม่น้อย

สัมผัสที่หกของหญิงสาวบอกเธอว่า ผู้หญิงคนนั้นกับลู่จิ้นยวนน่าจะมีความสัมพันธ์กันแบบไม่ธรรมดาแน่

“คุณชายเฉิง มู่เยียนหรานที่คุณพูดถึง คือใครกันคะ?” เวินหนิงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

เฉิงหยางร้องกรี๊ดอยู่ในใจ เขาไม่น่าปากพล่อยเลย ทีนี้เอาไงล่ะ ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset