เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วแล้วถึงวันที่เวินหลานนัดกับผู้กำกับโจว
เวินหนิงมาถึงโรงแรมตั้งนานแล้ว พร้อมยืนอยู่ห้องที่ไม่ไกลจากพวกเขามากนัก
จากนั้นเธอก็ให้เงินพนักงานที่เป็นนักศึกษา พอเวินหนิงให้เงินเธอก็ยอมตกลงแล้วยืมชุดให้เธอไม่กี่ชั่วโมง
“คุณต้องระวังนะคะ วันนี้เรามีงานเลี้ยงที่นี่ อย่าออกไปทำอะไรเด็ดขาด”
เวินหนิงพยักหน้าแล้วรับชุดมา ในนั้นเป็นชุดพนักงานของโรงแรมแล้วยังมีบัตรพนักงานด้วย เธอรีบเปลี่ยนแล้วเดินออกไปทำความสะอาดไปด้วยสังเกตสถานการณ์ไปด้วย
……
โรงแรมหมิงเสิ่ง
ลู่จิ้นยวนจอดรถมองไปที่แสงไฟในงานเลี้ยงพร้อมนวดขมับ
วันนี้ เขาจะเจอกับลูกพี่ลูกน้องที่ต่างประเทศ คุณอาแล้วก็อาสะใภ้ก็รออยู่นานแล้ว ก็อยากจะให้โอกาสลูกชายตัวเองได้เปิดเผยหน้าก็คงไม่พลาดโอกาสแบบนี้แน่นอน
เพราะฉะนั้นก็เลยจัดงานเลี้ยงที่ใหญ่โตนี้
ลู่จิ้นยวนยิ้มอย่างเยือกเย็น อยากจะประกาศสงครามกับเขาตั้งแต่วันนี้?
ไม่ดูความสามารถของตัวเองเลย
แต่ว่าเถ้าแก่อยากให้ความสัมพันธ์ของเขากับน้องชายคนนั้นดี อย่าเอาความโกรธแค้นของผู้ใหญ่มารวมด้วย เพราะฉะนั้นเขาก็เลยมา
พอลงรถ ลู่จิ้นยวนก็เดินก้าวเข้าไปในงาน
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากกับงานเลี้ยงที่เขาไม่อยากมา เสื้อผ้าก็เป็นชุดที่ใส่ไปทำงาน แต่ว่าถึงแม้จะเป็นชุดสูทธรรมดา แต่พอใส่บนตัวลู่จิ้นยวนก็ทำให้รู้สึกเหมือนชุดที่สั่งตัดโดยเฉพาะ
ลู่ยวนเทาเป็นตัวหลักของงานเลี้ยงนี้ ถึงแม้หน้าตาจะดี แต่พอเทียบกันแล้วก็ถือว่าเสียเปรียบ
สายตาของผู้หญิงก็ถูกลู่จิ้นยวนดึงดูด
ลู่ยวนเทาเห็นว่าลู่จิ้นยวนถูกคนล้อมไว้ สายตาที่อยู่ภายใต้แว่นตาก็แฝงไปด้วยความโมโห จากนั้นก็เสแสร้งยิ้มอย่างเป็นกันเอง
อีกไม่นาน ลู่จิ้นยวนคงไม่ได้ใจแบบนี้แน่
“เตรียมตัวเสร็จหรือยัง?” ลู่ยวนเทาเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง
เวลานี้เซี่ยเหลียนก็เดินออกมาจากข้างๆแล้วมองไปที่ผู้ชายท่ามกลางผู้คนแล้วพยักหน้า “ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ”
กี่วันก่อน เซี่ยเหลียนกำลังโมโหกับเรื่องของเวินหนิงแล้วคู่สามีภรรยาลู่หมิงฮ่นก็ไปหาเธอ พวกเขาบอกว่ารู้ความรู้สึกที่เธอมีให้ลู่จิ้นยวน พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ก็เลยยอมช่วย
แต่ว่าฐานะของเธอต่ำต้อยเป็นแค่คนรับใช้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ทำให้เป็นข้าวสุก ถ้าท้องได้ก็ยิ่งดี
เพราะฉะนั้นในมือที่เธอถือไว้ไม่ใช่อย่างอื่น แต่กลับเป็นขนมที่ใส่ยาลงไป ยาชนิดนี้รุนแรงมาก ขอแค่แตะโดนนิดเดียวผู้ชายก็ไม่สามารถควบคุมสติแล้วอยากจะได้ตัวผู้หญิงแน่นอน
เซี่ยเหลียนเดินไปแล้วยื่นของในจานให้ลู่จิ้นยวน “คุณชายคะ เถ้าแก่ให้ฉันมาดูแลคุณ กลัวว่าคุณจะเจ็บกระเพาะแล้วให้ฉันเตือนให้คุณชายท่านอะไรด้วยค่ะ”
ลู่จิ้นยวนพยักหน้า เซี่ยเหลียนเห็นเขากินอาหารที่เธอเตรียมเข้าไปอย่างไม่ตั้งตัว ในใจก็รู้สึกสั่นแล้วเต้นรุนแรงกว่าเดิม
ยาจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว ถึงเวลาเธอต้องคว้าโอกาสไว้ให้ได้
……
เวินหนิงเดินไปเดินมาอยู่ข้างนอก รอจนอดทนไม่ไหวแล้ว แต่เธอก็เลยเห็นเงาของเวินหลานปรากฏขึ้นที่ปลายทางเดิน ข้างหลังเธอก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่ง
คนนี้ก็คงจะเป็นผู้กำกับโจวสินะ
เวินหนิงก็รู้สึกเกร็งแล้วจับกล้องถ่ายรูปในมือพร้อมก้มหน้าทำตัวเหมือนกำลังทำความสะอาด อีกเดี๋ยวถ้าถ่ายได้รูปภาพ เธอก็จะสำเร็จแล้ว
คิดไปคิดมาเวินหนิงก็รู้สึกตื่นเต้น ในขณะที่เธอกำลังได้ใจ รองเท้าส้นสูงก็หยุดลงต่อหน้าเธอ เวินหลานเดินมาต่อหน้าเธอแล้วหยุดลง
“เวินหนิง ใช่เธอหรือเปล่า?” เวินหลานยิ้มอย่างเยือกเย็น
พอเวินหนิงรู้สึกตัว เธอก็ถูกเปิดโปงแล้ว? ไม่ควรเลย แต่ว่านี่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดว่าทำไม เวินหลานรู้ตัวแล้ว เธอต้องรีบหนีสิ
แต่ว่าผู้ชายข้างหลังเวินหลานก็จับมือเธอไว้แล้วสะบัดไปบนพื้น “อย่าดิ้น ผมไม่รับประกันว่าคุณจะบาดเจ็บหรือเปล่า”
เวินหนิงอึ้งไป เธอไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ผู้กำกับโจว? ท่าทางของผู้ชายคนนี้กระฉับกระเฉง ไม่ใช่ผู้กำกับที่ตัวอ้วนคนนั้นแน่นอน
เห็นท่าทางเวินหลานแบบนี้ คงเตรียมตัวมาแล้ว
เธอเปิดเผยตัวเองเมื่อไหร่?
“เวินหนิง เธอกำลังคิดว่าฉันรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ใช่ไหม?” เวินหลานได้รับชัยชนะในกำมือแล้ว ใช้ปลายลงเท้าแตะไปที่คางของเวินหนิง “วันนั้นในห้องกล้องวงจร พวกเธอไม่เห็น แต่ว่าฉันสังเกตเห็นว่าเธอแอบฟังอยู่ตรงมุม”
“ทีแรก ถ้าแกไม่ทำอะไรตุกติก ฉันก็ทำอะไรแกไม่ได้ แต่นี่แกมารนหาที่เอง”
เวินหลานแย่งกล้องถ่ายรูปในมือเวินหนิงไป “เตรียมตัวมาดีหนิ แต่ว่าของชิ้นนี้ไร้ประโยชน์แล้วล่ะ……”
เธอขยับเข้าใกล้หูของเวินหนิง “พอดีเลย หน้าตาผู้กำกับโจวขี้เหร่ขนาดนั้นแล้วยังได้ยินว่ามีความชอบอะไรที่แปลกๆ ฉันก็ไม่อยากจะทำการแลกเปลี่ยนกับเขา งั้นก็ให้เธอไปอยู่กับเขาแล้วกัน เธอเป็นพี่สาว ก็ควรจะช่วยแก้ปัญหาให้น้องสาวสิ”
พูดจบ เวินหลานก็ให้คนนั้นมัดมือมัดขาเวินหนิงไว้แล้วโยนไปบนเตียงในห้อง “ฉันคิดว่า พี่สาวคงจะชอบของที่ตัวเองเตรียมมา”
เวินหลานเปิดกล้องค้างไว้แล้ววางไปบนหัวเตียง เธอไม่เพียงจะทำให้เวินหนิงเกิดเรื่อง แล้วยังจะเอาหลักฐานไปแบล็คเมล์เธอ ไม่ให้เธอเงยหน้าขึ้นได้อีก
เวินหนิงพยายามดิ้นรน มองเห็นเวินหลานเดินออกไปอย่างได้ใจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้
เมื่อนึกถึงสายตาของผู้กำกับโจว เวินหนิงก็รู้สึกรังเกียจ เธอขยับให้ข้อมือเสียดสีกับเชือกจนเป็นแผลก็ไม่สน เธอเข้าใจดี ถ้าเวินหลานทำแผนสำเร็จ เธอตายแน่
สุดท้ายด้วยความพยายามของเธอ เชือกที่มือก็คลายออกเล็กน้อย เวินหนิงกำลังดีใจแล้วเร่งความเร็ว ที่หน้าประตูก็มีเสียงแตะการ์ดประตูเข้ามา
“หนูน้อย รอจนใจร้อนแล้วสินะ?”
ผู้กำกับโจวมาถึงแล้ว!
เวินหนิงหน้ามืดไปแล้วกัดริมฝีปากแน่น ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นทำให้เธอใจเย็นแล้วควบคุมสติไว้
เมื่อเห็นว่าคนบนเตียงไม่ใช่เวินหลาน แต่กลับเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดพนักงานอยู่ ผู้กำกับโจวก็รู้สึกอึ้งไป เห็นว่าเขาไม่รู้เรื่องเลยรีบเอ่ย “ผู้กำกับโจวคะ เวินหลานวิ่งหนีไปแล้วค่ะ ฉันเป็นแค่พนักงานที่นี่ คุณปล่อยฉันเถอะค่ะ”
เมื่อผู้กำกับได้ยินก็รู้สึกโมโห แต่ไม่นานเวินหลานก็โทรมา “นี่เป็นพี่สาวของฉัน ก็ถือว่าเป็นของขวัญเล็กน้อยที่ให้ผู้กำกับ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผู้กำกับโจวก็ตอบตกลงทันที มองเห็นใบหน้าที่สวยงามของเวินหนิงแล้วหุ่นที่ดูดีนั่นด้วยก็เกือบจะพุ่งไปหา “น้องสาวเธอบอกกับผมหมดแล้ว อย่ากลัวเลย ผมจะทำอย่างอ่อนโยน”
เห็นผู้ชายที่ร่างอ้วนใหญ่เดินเข้ามาใกล้ เขาไม่ใช่คน แต่เป็นสารเลว!