ลู่จิ้นยวนกำลังพูดคุยอยู่กับนักธุรกิจในงานเลี้ยง แต่เขาก็รู้สึกร่างกายผิดปกติไป
มีคนทำอะไรกับของกินของเขางั้นหรอ?
ลู่จิ้นยวนพยายามทนไว้แล้วเดินออกจากงาน ยังโชคดีชั้นบนเป็นห้องรับแขก เขาใช้เวลาที่รวดเร็วที่สุดแล้วเข้าไปในห้องสวีท เดินตรงเข้าไปในห้องอาบน้ำพร้อมใช้น้ำเย็นสาดตัวเอง
เจ็บใจชะมัด มีคนกล้าลงมือกับเขา
น้ำเย็นทำให้อุณหภูมิบนร่างกายหายไป แต่ความรู้สึกข้างในก็ไม่ได้บรรเทาลงเลย แล้วเวลานี้แสงไฟในห้องอาบน้ำก็มืดลง
ในความมืด เซี่ยเหลียนใช้คีย์การ์ดแล้วเปิดประตูเข้าไป
“ใคร? ไสหัวออกไป!”
ตอนนี้ ลู่จิ้นยวนแน่ใจแล้วว่ามีคนตั้งใจวางแผนไว้
วันนี้มีวงศ์ตระกูลที่มีชื่อเสียงไม่น้อยในเมืองเจียงเฉิงอยู่ที่นี่ ถ้าเขามีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็คงจะมีแต่หายนะตามมาแน่นอน
เซี่ยเหลียนได้ยินเสียงของผู้ชายที่หงุดหงิด ร่างกายก็สั่นไป แต่ก็ยังกล้าถอดเสื้อบนร่างกายแล้วพุ่งเข้าไปหาลู่จิ้นยวนที่กำลังเช็ดตัวอยู่
ขอแค่เธอทำสำเร็จ ลู่จิ้นยวนก็เป็นของเธอ อีกหน่อยเธอก็จะได้เป็นคุณหญิงน้อยตระกูลลู่แล้วจะได้ใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทอง
เพราะฉะนั้น ความเสี่ยงแค่นี้คุ้มค่ามาก
ดูท่าทางของเธอแบบนี้ เหมือนเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว
สายตาของลู่จิ้นยวนมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น ไร้อย่างอายมาก
แต่ว่า กลิ่นน้ำหอมฟีโรโมนบนตัวเธอไม่ทำให้เขาเสียสติไปแต่กลับทำให้เขาได้สติขึ้นมาทันที
จากนั้นเขาก็หันตัวไปแล้วบีบคอผู้หญิงคนนั้นไว้แน่น
“บอกมา ใครสั่งให้เธอมา?”
เซี่ยเหลียนตกใจ ตอนนี้ความโมโหของลู่จิ้นยวนพุ่งไปขีดสุด น้ำหนักมือไม่อ่อนแรงเลย สีหน้าเธอแดงมากอาจจะเป็นเพราะขาดอากาศหายใจ ทำได้แค่ทุบตีแขนที่แข็งแรงนั้นเพื่อที่จะได้อากาศหายใจ
ลู่จิ้นยวนกำลังจะถามต่อ แต่ความรู้สึกที่กำลังพยายามหักห้ามไว้ในร่างกายก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง เขาเหวี่ยงผู้หญิงในมือออกอย่างรุนแรง “ไสหัวไป ไม่งั้นฉันฆ่าเธอแน่”
เซี่ยเหลียนไม่ยอมแพ้อยากวิ่งเข้าหาอีกครั้ง แต่ว่า คำพูดของลู่จิ้นยวนน่ากลัวเกินไป เธอจับไปที่คอตัวเอง จะกล้าอยู่ที่นี่อีกได้ยังไงแล้วรีบวิ่งออกไป
……
เวินหนิงมองเห็นผู้ชายเข้าใกล้มาเรื่อยๆ ตอนนี้ เชือกบนร่างกายเธอถูกคลายออกแล้ว มีแค่ขาที่ยังมัดไว้แน่น เพราะฉะนั้นเธอเลยพยายามถ่วงเวลาไว้
“ผู้กำกับโจว คุณคิดดูสิคะ เวินหลานเป็นดาราดัง ต่างกับคนธรรมดาอย่างฉัน คุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ แล้วไปหาเธอ!”
ผู้กำกับโจวมองสำรวจเวินหนิง “ผมว่าเธอก็ไม่ได้แย่ไปกว่าน้องสาว อีกอย่าง……เธอก็อยากจะเป็นดารา? ถ้างั้น ขอแค่เธอเป็นคนของผม ผมก็จะให้เธอเข้าวงการแล้วรับประกันได้เลยว่าดังกว่าน้องสาวแน่นอน!”
เวินหนิงหมดคำพูดไป กับผู้ชายแบบนี้ ดูเหมือนว่าเธอพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ ผู้กำกับโจวก็ไม่เอ่ยพูดอะไรอีกแล้วพุ่งมาหา
เวินหนิงหลบไปแล้วเชือกที่เท้าก็คลายออกสักที เธอไม่กล้าทำอะไรเลยแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา “ผู้กำกับโจว คุณต้องอ่อนโยนหน่อยนะคะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็ใช้เข่ายันบนตัวผู้ชาย จากนั้นก็วิ่งออกไป
“นังสารเลว!” ผู้กำกับโจวตะโกน “ไปจับตัวเธอมากลับมาเดี๋ยวนี้ จับกลับมาแล้วฉันจะให้มันตายทั้งเป็นแน่”
สีหน้าของผู้ชายคนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแล้วเอ่ยกับผู้ช่วยข้างกาย
เมื่อเวินหนิงได้ยินว่าข้างหลังมีคนวิ่งไล่ตามเธอ ก็เลยต้องพยายามวิ่ง แต่ว่าเมื่อกี้ถูกมัดไว้นานแล้วขาก็รู้สึกชา เธอเลยทำได้แค่เขย่งวิ่งไปช้าๆ
จากนั้นข้างหลังก็มีเสียงฝีเท้าของคนลอยมาอย่างรวดเร็ว
ไม่ได้ เธอจะถูกจับไม่ได้ ถ้าเธอถูกจับเธอตายแน่
คิดไปคิดมา เวินหนิงก็เห็นว่ามีห้องสวีทประตูเปิดอยู่ไม่ได้ล็อก เลยนึกได้ ตอนนี้เธอเป็นพนักงานของโรงแรม ถึงแม้ข้างในจะมีคน เธอก็สามารถบอกได้ว่าเข้าผิดห้อง
เวินหนิงรีบเข้าไปข้างในอย่างไม่ลังเลแล้วล็อกประตูทันที
ลู่จิ้นยวนได้ยินเสียงลอยมาจากที่ประตูอีกครั้ง เขาค่อยนึกได้เมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นวิ่งออกไปไม่ได้ล็อกประตู
ก็เลยมาอีกคนที่ไม่กลัวตายงั้นหรอ?
“ออกไป” เสียงของลู่จิ้นยวนต่ำมากจนไม่เหมือนเสียงมนุษย์
พอโดนฤทธิ์ยาเข้าไป เขาก็เกือบจะควบคุมสติตัวเองไม่แล้ว
เวินหนิงตกใจกับเสียงที่ดังออกมา เสียงที่โมโหของผู้กำกับโจวข้างนอกก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เธอจะออกไปไม่ได้ก็เลยจำใจต้องอยู่ในนี้ต่อ
“ขอโทษนะคะคุณผู้ชาย ฉันเป็นพนักงานของที่นี่ คุณเรียกพนักงานหรือเปล่าคะ?”
เวินหนิงเลียนเสียงคำพูดของพนักงาน
ลู่จิ้นยวนพยายามยันตัวลุกขึ้นจากบนเตียงแล้วยื่นมือไป กำลังจะโยนพนักงานคนนั้นออกไป แต่กลิ่นหวานบนตัวเธอก็กระตุกต่อมอารมณ์ของเขา
“ไม่ออกไปใช่ไหม?” ลู่จิ้นยวนตาแดงทั้งสองข้าง เวลานี้ ความรู้สึกในร่างกายของเขาหักห้ามไว้ไม่อยู่แล้ว กำลังจะฉีกผู้หญิงที่เข้ามาเป็นชิ้นๆแล้วกินเข้าไป
“ฉัน……” เวินหนิงตกใจแล้วรู้สึกถึงอันตราย แต่ว่ายังไม่ทันได้พูดตอบก็ถูกผู้ชายคนนี้ควบคุมตัวจนขยับไม่ได้
เธอตกใจแล้วใช้มือผลักหน้าอกที่อุ่นร้อน แต่ลมหายใจของเธอก็ถูกขโมยไปจนเธอเหมือนกำลังจะหมดเรี่ยวแรง
หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้เธอจะไม่สัมผัส แต่ก็รู้ดี
“อย่า อย่า ขอร้อง……” ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ร่างกายของเวินหนิงก็ถูกปล่อย เธออยากจะถอยหลังไปแต่ก็ถูกผู้ชายคนนั้นจับไว้ขยับไม่ได้ ทำได้แค่ขอร้องว่าอย่าทำแบบนั้นกับเธอ
เมื่อกี้เธอเพิ่งออกมาจากถ้ำเสือแล้วเข้ามาที่รังหมาป่าอีก……
“เธอรนหาที่เอง” น้ำเสียงผู้หญิงคนนี้กำลังร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ลู่จิ้นยวนใจอ่อนเลย
ลู่จิ้นยวนจับบัตรพนักงานที่หน้าอกเธอขึ้นแล้วดู เธอไม่ได้โกหกเป็นพนักงานที่นี่จริงด้วย แต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีสติพอที่จะไปควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้ว
เสียงดัง’ฉึก’ เวินหนิงหลับตาลงอย่างหวาดกลัว