“ต่อไปเรื่องของพวกเขาปู่จะไม่ยุ่งอีก ปู่เชื่อว่าแกจะจัดการได้” เถ้าแก่ลู่ส่ายหน้า จากนั้นก็นั่งลงมองวิวหน้าต่างข้างนอกแล้วถอนหายใจ
“คุณปู่ไว้ใจเถอะครับ ผมไม่ทำอะไรพวกเขาหรอก แค่พวกเขายอมอยู่อย่างสงบสุข ผมก็จะไม่อะไรด้วย”
เถ้าแก่ตอบรับ “อีกอย่าง เซี่ยเหลียนทำตัวแบบนั้น ก็ไล่ออกไปเถอะ แต่จากที่เธอเคยดูแลแก ก็ไม่ต้องทำให้เธอทรมานมาก”
ลู่จิ้นยวนเอ่ยตอบรับ คนรับใช้ที่หักหลังเขา ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
พูดจบ ลู่จิ้นยวนก็ไม่รบกวนเถ้าแก่อีก พร้อมออกจากห้องหนังสือแล้วกลับห้องตัวเอง
แต่ว่า ในใจเขาคิดแผนการที่จะจัดการกับคุณอาแล้ว อย่างแรกเลยก็คือ เอาหุ้นของบริษัทลู่ที่ต่างประเทศกลับมาก่อน ไปครั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลย
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ผู้ชายคนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องก่อนที่เขาจะไปต่างประเทศ อดไม่ได้ที่อยากจะเจอเวินหนิง อย่างน้อย ก็ควรจะย้ำเตือนอะไรกับเธอ
วันนี้เป็นวันหยุด เวินหนิงน่าจะอยู่
เมื่อนึกถึงเธอ ในใจลู่จิ้นยวนก็รู้สึกสับสน เมื่อวาน เขามีอะไรกับผู้หญิงแปลกหน้า ถึงจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา แต่ยังไงผิดก็คือผิด
ถึงแม้การแต่งงานของเขากับเวินหนิงจะมีอะไรพิเศษ เธอไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องของเขา แต่ยังไงลู่จิ้นยวนก็รู้สึกผิด
คิดไปด้วยลู่จิ้นยวนก็ลังเลอยู่หน้าประตู จากนั้นค่อยเปิดประตูเข้าไป แต่ที่หน้าแปลกใจคือ ในห้องไม่มีใครเลย
เวินหนิงไม่อยู่?
ลู่จิ้นยวนถามคนรับใช้ บอกว่าเมื่อคืนเธอไม่อยู่ เพิ่งกลับมาตอนเช้า อาหารเช้าก็ไม่ได้กิน เอาแต่อยู่ในห้องไม่รู้ว่าทำอะไร
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วเข้ม
แล้วมองสำรวจอีกครั้งก็พบว่าไฟในห้องอาบน้ำสว่างอยู่ แต่ข้างในไม่มีเสียงน้ำแล้วเงียบมาก เงียบจนผิดปกติ อีกอย่าง เขามองไปที่ประตูไม่มีไอน้ำเลย ใสสะอาดมาก
ความผิดปกตินี้ทำให้ลู่จิ้นยวนสงสัย เขาเคาะประตู “เวินหนิง เวินหนิง เธออยู่ข้างในหรือเปล่า?”
ไม่มีเสียงตอบรับ มีแต่ความเงียบ
ลางสังหรณ์ไม่ดีในใจลู่จิ้นยวนก็แรงขึ้นอีก ตอนนี้ไม่สนอะไรแล้วก็เลยถีบประตู
ประตูห้องอาบน้ำถูกลู่จิ้นยวนถีบจนเปิด
เมื่อได้ยินเสียงดังขนาดนี้ เวินหนิงค่อยสะดุ้งตื่นจากอ่างอาบน้ำ น้ำในอ่างไม่เหลืออุณหภูมิอะไรแล้ว เมื่อกี้เธอเผลอหลับไป
ตอนที่เพิ่งถึงบ้าน เธอรู้สึกว่ากลิ่นของผู้ชายคนนั้นยังหลงเหลืออยู่บนตัว เหมือนโอบล้อมเธอไว้ก็เลยไปล้างตัวให้สะอาดในห้องอาบน้ำ
ไม่คิดเลยว่า เป็นเพราะเหนื่อยเกินไปเธอเลยหลับข้างในนั้น
ลู่จิ้นยวนเดินเข้าไป “เวินหนิง เธอ……”
คำพูดของผู้ชายคนนี้หยุดไป แล้วสายตาก็มองไปบนตัวผู้หญิงคนนั้น
ลู่จิ้นยวนรู้สึกว่าเขาเหมือนคนโง่ที่รู้สึกผิดเมื่อกี้ เขาแค่ไม่อยู่คืนเดียวเธอก็ออกไปมั่วกับผู้ชายคนอื่นแล้ว
เธอคิดว่าเขาเป็นของตายเหรอ?
“เวินหนิง……ผมแค่ไม่อยู่วันเดียว เธอก็อดไม่ไหวจนต้องไปหาผู้ชายคนอื่นเลยเหรอ?”
เวินหนิงกำลังใส่เสื้อคลุมอาบน้ำอย่างร้อนรน แต่สายตาของผู้ชายคนนี้ทำให้เธอไม่รู้จะทำตัวยังไง
เมื่อเห็นว่าเธอรีบใส่เสื้อคลุมปิดบังร่างกาย ลู่จิ้นยวนก็คิดว่าเธอกำลังร้อนตัว แล้วความโมโหในใจก็พุ่งขึ้นไปอีก
เขาลากตัวเวินหนิงออกมาจากห้องอาบน้ำ แล้วกดตัวเธอไว้หน้ากระจก
“แต่ก่อนผมคงตาบอดไปที่คิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่ดี แต่ตอนนี้ ขอแค่ผู้ชายคนไหนมีเงินก็คงจะได้แล้วมั้ง? แล้วเธอจะมาแกล้งแสแสร้งทำไม อยากจะโกหกผมแล้วจะได้เรียกราคาที่ดีงั้นเหรอ?”
“ลู่จิ้นยวน นายปล่อยฉันนะ!” เวินหนิงรู้สึกเจ็บหนังหัวที่ถูกเขาจับไว้ ความเจ็บแบบนี้เทียบกับความเจ็บในใจเธอไม่ได้เลย
เธอถูกบังคับ เธอก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ทำไมลู่จิ้นยวนต้องทำให้เธออับอายขนาดนี้ด้วย?
“ปล่อยเธอ ปล่อยเธอให้ไปมั่วกับผู้ชายคนนั้นอีกงั้นเหรอ แล้วสวมเขาให้ผม?”
ลู่จิ้นยวนเห็นเวินหนิงดิ้นรน ยิ่งเธอทำแบบนี้ เขาก็ยิ่งโมโห
กี่วันนี้ เขาคิดว่าดีกับเวินหนิงมากแล้ว แต่เธอให้อะไรกับเขา?
หักหลัง!
หักหลังต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ลู่จิ้นยวนที่ไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ วินาทีนี้เขาอยากฉีกผู้หญิงคนนี้เป็นชิ้นๆ
“เปล่า ไม่ใช่นะ……ฉันถูกบังคับ” เวินหนิงมองไปที่ผู้ชายในกระจก แล้วน้ำตาก็ไหลลงมา
เมื่อลู่จิ้นยวนได้ยินก็ปล่อยมือ แต่โทรศัพท์ของเวินหนิงก็ดังขึ้นพอดี ผู้ชายคนนั้นดึงมาแล้วกดรับสาย “ดูสิว่าจะเป็นผู้ชายที่อยู่กับเธอเมื่อวานโทรมาหรือเปล่า”
เสียงของเวินหลานลอยออกมาจากโทรศัพท์ “เป็นยังไงบ้างคะพี่สาว เมื่อคือกับผู้กำกับโจวเป็นยังไงบ้าง?”
พอเวินหลานลืมตาตื่นก็ถึงนึกเรื่องของเวินหนิง ก็เลยโทรมายั่วยวนอารมณ์เธอ
“เธอว่าอะไรนะ?” สีหน้าของลู่จิ้นยวนเข้มงวดไปแล้วกำโทรศัพท์ไว้แน่น
“พี่สาวอยากเป็นดารา น้องสาวคนนี้ก็เลยแนะนำทางที่ดีให้เธอ” เวินหลานตกใจกับน้ำเสียงของผู้ชาย คิดไปคิดมาก็เลยยั่วอารมณ์ต่อ
ขอแค่ลู่จิ้นยวนรังเกียจเวินหนิง เธอจะทารุณเธอยังไงก็จะไม่มีใครมายุ่งอีก
โทรศัพท์ถูกลู่จิ้นยวนกำจนแตก
ผู้ชายคนนี้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้วฟาดโทรศัพท์ไปทางเวินหนิง เวินหนิงไม่ได้หลบเลยฟาดโดนหน้าผาก จากนั้นเลือดก็ไหลลงมาโดยที่เธอไม่รู้ตัว
“นี่เหรอเป็นเรื่องที่เธอถูกบังคับ หะ?” ลู่จิ้นยวนรู้สึกเยาะเย้ยกับความรู้สึกตัวเองที่เธอแก้ตัวเมื่อกี้
เขาประเมินเวินหนิงต่ำไป การแสดงของผู้หญิงคนนี้ดีกว่าน้องสาวอีก
เขาหลงกลกับความน้อยใจแล้วก็ไร้เดียงสาที่เธอแสแสร้งออกมา เอาแต่คิดว่าเธอไม่ได้แย่เหมือนที่คิด จนลืมไปว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ทำให้เขานอนอยู่บนเตียงเหมือนคนไร้ความหมายมาสามปี
“เปล่านะ วันนั้นฉันจะไปแอบถ่ายคลิปเวินหลานกับผู้กำกับโจว แต่เธอรู้ตัวก็เลย……”
เวินหนิงพูดไปเสียงก็เริ่มเบาลง เพราะเธอเห็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นบนใบหน้าของลู่จิ้นยวน เขาไม่เชื่อ เขาไม่มีทางเชื่อเธออีก
“เวินหนิง นิทานที่เธอแต่ง ฟังแล้วตัวเองเชื่อเหรอ?” ลู่จิ้นยวนลุกขึ้นแล้วจับคางเธอขึ้นพร้อมมองอย่างรังเกียจ
สายตาของเวินหนิงว่างเปล่าไป ใช่ เรื่องแบบนี้ ฟังแล้วเป็นไปไม่ได้ ถึงทั้งหมดจะเป็นเรื่องจริง แต่ใครจะเชื่อเธอ?
แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่อยากเชื่อว่าเรื่องเมื่อวานเป็นเรื่องจริง
ลู่จิ้นยวนมองไปที่เธออย่างเยือกเย็น “เวินหนิง เธอทำให้ผมขยะแขยงมาก”