เวินหนิงนั่งรถของตระกูลลู่ไปยังบ้านของตระกูลเวิน เธอรู้สึกตื่นเต้นตลอดทาง ถึงแม้บ้านหลังนั้นไม่ได้มีค่าให้จดจำ แต่แม่ของเธออยู่ที่นั่น แค่คิดว่าใกล้จะได้เจอแม่แล้ว ใจของเธอก็เต้นแรงมาก
ถึงบ้านตระกูลเวิน เวินหนิงรีบลงจากรถ วิ่งไปที่ประตูของบ้านตระกูลเวิน และรีบกดกริ่งหน้าบ้าน
“เช้าตรู่ขนาดนี้ทำอะไรเนี่ยะ เสียงดังเชียว….” จ้าวหย่าหลินที่กำลังมาส์กหน้าอยู่เดินลงมาจากข้างบนเพื่อเปิดประตูบ้าน ปกติเธอเป็นคนสบายๆไม่คิดอะไรมาก ตอนที่เห็นเวินหนิงก็หยุดชะงักไป สูญเสียความสง่างาม ท่าทางดูตลก
“เวินหนิง เธออกมาได้ยังไง?”
เวินหนิงได้รับโทษสิบปี ถึงตอนนี้ก็ยังห่างไกลเวลาที่เธอออกจากคุกอีกยาวนาน ทำไมถึงออกมาได้แล้วล่ะ?
จ้าวหย่าหลินเห็นเธอ ก็เกิดความรู้สึกหลากหลายมาก ทั้งตกใจ กลัว และรู้สึกขาดความมั่นใจ
“ฉันออกมาแล้ว คุณไม่พอใจเหรอ?” เวินหนิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอเข้าไปอยู่ในคุกได้อย่างไร ไม่มีใครรู้ลึกซึ้งได้เท่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ แต่เธอทำหน้าตาท่าทางเหมือนตัวเองไม่ผิดอะไร
บางทีมันอาจจะทำให้ดูน่าสงสาร ทำให้พ่อที่ดีของเธอทอดทิ้งภรรยาและลูก แม้แต่บาปบุญคุณโทษก็ลืมหมดแล้ว
“ตระกูลมีคนได้รับโทษก็มากพออยู่แล้ว เธอยังกล้ากลับมาอีก เธอไม่อายคน ฉันและพ่อของเธอยังรู้สึกอายเลย!”
“ฉันได้รับโทษได้ยังไง ทำอย่างกับคุณไม่รู้?” เวินหนิงทำหน้าเย็นชา แล้วเดินเข้าไป จ้าวหย่าหลินถอยหลังด้วยความตกใจ
เด็กคนนี้ไม่เหมือนเมื่อสามปีก่อน สายตาเย็นชาแทบจะฆ่าคนได้ ไม่เหมือนสามปีก่อนที่โง่เขลาจนโดนใครๆรังแก
“เธอ!”
“พอได้แล้ว” มีเสียงผู้ชายดังมาจากบันไดชั้นบน เวินหนิงเงยหน้าขึ้นไปมอง และเห็นพ่อที่ดีของเธอ เวินฉีโม่
“เวินหนิง ตามขึ้นมา”
เวินฉีโม่เดินไปทางห้องหนังสือ เวินหนิงจ้องจ้าวหย่าหลินหนึ่งที และผลักเธอออก เดินขึ้นชั้นบนไป
จ้าวหย่าหลินยืนกระทืบเท้าแรงๆอยู่ที่เดิม “ออกมาได้แล้วจะยังไง จะมาอวดดีอะไร ยังไงซะไม่ช้าก็เร็วฉันก็เอาเธอกลับไปอยู่ในนั้นจนได้!”
ในห้องหนังสือ เวินฉีโม่มองเวินหนิงอยู่ครู่หนึ่งแล้วอ้าปากพูด ” เพิ่งสามปี ออกมาได้ยังไง?”
จิตใจของเวินหนิงเย็นยะเยือก
นี่คือผู้ชายที่เธอเรียกว่าพ่อมาตลอดระยะเวลาสิบแปดปี เห็นลูกสาวแท้ๆออกมาจากคุก มีปฏิกิริยาที่เย็นชา
ที่แท้ไม่ใช่เพียงแค่จ้าวหย่าหลินและเวินหลาน แม้แต่เวินฉีโม่ก็หวังให้เธออยู่ในคุกตลอดไปไม่ต้องออกมาอีกเลย
เวินหนิงกัดริมฝีปากด้วยความขื่นขม นี่พ่อที่เธอรักและเคารพมาตลอดสิบแปดปี คือผู้ชายที่แม่รักมาสิบแปดปี!
ตอนนั้น เพื่อธุรกิจเวินฉีโม่ก็เลยทิ้งรักแรกของเขาจ้าวหย่าหลิน หน้าด้านมาจีบคนที่บ้านมีฐานะดีอย่างแม่ของเธอ หลังจากใช้แม่เป็นเครื่องมือในการพัฒนาธุรกิจแล้ว เวินฉีโม่ก็คิดถึงจ้าวหย่าหลิน ทั้งสองคนกลับไปคบหากัน และก็มีเวินหลานออกมา
ต่อมา ธุรกิจบ้านของแม่เกิดปัญหาค่อยๆล้มลง กลายเป็นขวากหนามสำหรับเขาทั้งคู่ สุดท้ายภรรยาที่ช่วยสร้างธุรกิจมาด้วยน้ำพักน้ำแรงด้วยมือเปล่าก็สู่ผู้หญิงที่เคยมีความสัมพันธ์ร่วมกันไม่ได้ ทั้งสองคนก็หย่ากัน เวินหลานและจ้าวหย่าหลินก็มาอยู่ในบ้านตระกูลเวิน
เพราะเวินหนิงเป็นทายาทที่สืบทอดมรดกตามกฏหมายของตระกูลเวิน ก็กลายเป็นตะปูทิ่มแทงจิตใจของทั้งสามคน โดยเฉพาะจ้าวหย่าหลินและเวินหลานที่เกลียดเวินหนิงมากจนไม่รู้จะฆ่าให้ตายวันไหน
เมื่อสามปีก่อน เวินหนิงโดนตำรวจจับ เวินฉีโม่ประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับเธอ และยังยื่นขอให้ประหารชีวิต เพราะเหตุนี้แม่ของเธอก็เลยหมดสติไป เธอยังจำได้ก่อนขึ้นศาลหนึ่งวัน จ้าวหย่าหลินนำใบผลตรวจร่างกายแม่มาข่มขู่เธอ บอกว่าถ้าเธอไม่ยอมรับโทษ ก็จะระงับการรักษาแม่เธอ ให้แม่เธอตายในห้องผ่าตัด
เธอในตอนนั้น ทำอะไรไม่ได้ จำเป็นต้องยอมรับผิดว่าตัวเองเป็นคนขับรถชน ด้วยเหตุนี้ การติดคุกมาสามปี ทำลายชีวิตเธอทั้งชีวิต
ภาพทั้งหมดแว่บเข้ามาในสมองเธอ เวินหนิงตาแดงก่ำ ” ฉันออกมาได้อย่างไร เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย? คุณเวิน”
เวินฉีโม่ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “ยังไงก็ออกมาแล้ว ก็อย่ามาทำตัวมีปัญหา เธอชนคน ติดคุกแค่สามปีก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”
เวินหนิงยิ้มเย็นชา เธอชนคน? คนตระกูลเวินปากคอนี่เหมือนกันเลย
ความสามารถในการใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นนี่น่าศรัทธาจริงๆ!
หรือพูดโกหกเยอะไป จนคนที่พูดโกหกคิดว่านั่นเป็นเรื่องจริงไปแล้ว?
ติดคุกแค่สามปี?
สามปีนี้พวกเขาใช้ชีวิตสุขสบายกินดีอยู่ดีข้างนอกไม่ได้ทนทุกข์อะไร แต่เธอใช้ชีวิตในคุกยังไง แล้วพวกเขาจะเข้าใจอะไร!