ก่อนหน้านี้ดูเหมือนชายร่างกำยำจะกล่าวว่า เล่ยมินนั้นเฝ้ารอการกลับมาของเธออยู่ อย่างไรก็ดี จีเฟิงเยี่ยนไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างที่พวกเขาคิด
สตรีรับใช้คนสนิทของเล่ยมินมองเธอจนผิวหนังชั้นกำพร้าเเทบทะลุ
ในอีกด้านหนึ่ง ชายร่างกำยำเเละลูกน้องก็กำลังต่อล้อต่อเถียงกับยามอย่างเมามัน กว่าพวกเขาจะเถียงกันจบ สตรีรับใช้ทั้งสองก็เลิกจ้องเธอเรียบร้อย
“คุณหนู ท่านเล่ยซูนั้นอยากจะมาต้อนรับท่านเเต่เขาบังเอิญทีธุระด่วนเข้ามาก่อน จึงได้มาต้อนรับท่านล่าช้า ส่วนคุณชายเล่ยมินนั้น…อ่า คือ” ชายร่างกำยำพยายามปั้นน้ำเป็นตัวสรรหาคำอธิบายเพื่อให้นางสบายใจขึ้น เเต่ยังไม่ทันพูดจบจีเฟิงเยียนก็หัวเราะขัดคอเสียก่อน
“ไม่เป็นไรหรอก ให้พวกเขาสองคนนำทางพวกเราไปก็ได้” จีเฟิงกล่าวเเล้วเเสยะยิ้มด้วยท่าทางน่าเอ็นดู
เธอเดาได้ไม่ยาก ต่อให้เธอรอที่นี่จนร่างกายสลายกลายเป็นฝุ่น เล่ยมินก็คงไม่มาต้อนรับขับสู้ใดๆทั้งนั้น
ชายร่างกำยำกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยากจะบอกอะไรคุณหนูสักอย่างเเต่พอเห็นใบหน้านางยิ้มเเย้มก็กล่าวอะไรไม่ออกสืบไป
เมื่อยามเห็นบรรดาเเขกไร้มารยาททำตัวดีขึ้นเลิกโวยวาย เขาจึงนำทางไปยังกลางเมืองด้วยความเงียบสงบจนบรรยากาศรอบๆอึมครึมขึ้นมาทันควัน
เนื่องจากเมืองจีนั้นเป็นเพียงเมืองเล็กๆในบ้านนอกดังนั้นพวกเธอจึงมาถึงกลางเมืองในเวลาไม่นานนัก ทันทีที่จีเฟิงเยี่ยนเเละพรรคพวกได้เห็นเรือนรับรองที่เล่ยซูเตรียมไว้ให้ ก็เปลี่ยนสีหน้าจนดำคล้ำด้วยความไม่พอใจทันที
“เหอะ ก็อย่างที่พวกเเกรู้ ท่านเจ้าเมืองเรากำลังต้อนรับเเขกสำคัญ ดังนั้นเรือนรับหรูๆย่อมต้องให้เเขกที่”ทรงเกียรติ”กว่าได้เข้าพัก เมืองนี้มันเล็กๆจะคาดหวังให้มีเรือนหรูๆไว้รับรองเเขกทุกคนได้หมดเหรอไง คงต้องรบกวนท่านเจ้าเมืองคนใหม่ลำบากซักพักเเล้วล่ะขอรับ พวกข้าขอตัว”ยามอธิบายให้จีเฟิงเยี่ยนด้วยวาจาสุภาพ? ใช่เเล้ว สุภาพมากกว่าหน้าประตูเมืองนิดนึง
หลังจากที่ยามทั้งสองออกไปจนพ้นสายตาเเล้ว เหล่าผู้ติดตามของจีเฟิงเยี่ยนก็ระเบิดอารมณ์โกรธจนดวงตาเเทบจะกลายเป็นสีเเดงเหมือนอสูรกาย
“พอเเล้ว เข้าบ้านเถอะ ดูสิ ท่านเล่ยซูจัดที่พักให้พวกเราอย่างไร?” จีเฟิงเยี่ยนเอ่ยเเล้วยิ้มอย่างร่าเริง
เหล่าชายทั้งสามเมื่อมองไปยังใบหน้าของนายหญิงตัวเอง พวกเขารู้สึกเหมือนได้กินน้ำส้มสายชูทั้งไหก็ไม่ปาน
นี่เป็นครั้งเเรกที่สีหน้าของพวกเขาไม่รู้จะเเสดงอารมณ์ใดๆดี ทันทีที่เหล่าชายร่างกำยำเปิดประตูเพื่อเข้าไปในเรือนรับรอง ประตูเเสนเก่าเเก่ได้ส่งเสียงดังลั่นจนเเสบหู สิ่งเเรกที่พวกเขาได้เห็นคือ ฝุ่น ฝุ่นเเละฝุ่นที่หนายิ่งกว่าหมอกในหน้าหนาวอีก
สภาพภายในบ้านนั้นเเย่เสียยิ่งกว่าการมีกองทัพฝุ่นอีก สีบนเสาลอกเเล้วลอกอีกจนเเทบไม่รู้ว่าเคยทาสีใดลงไป วัชพืชมากขึ้นเเทรกซอนในตัวบ้าน ทั่วทั้งบ้านเก่ายิ่งกว่าบ้านผีสิง หนึ่งในผู้คุ้มกันร้องเสียงหลงเพราะบังเอิญเซไปชนเสาจนเเมงมุมตกใส่หน้า
“ฟู่ว ฟู่ว คุณหนูขอรับ ท่านหาที่พักผ่อนข้างนอกสักครู่หนึ่งให้หายเหนื่อยก่อนเถอะขอรับ ทางนี้พวกเราจะทำความสะอาดให้เอง” ชายร่างกำยำระงับอารมณ์โมโหของตนเเล้วยิ้มเมตตาให้กับเด็กหญิง
ทว่าจีเฟิงเยี่ยนไม่ได้ทำตามที่เขาบอก นางนั่งบนบันไดหินเเล้วพูดกับเขา “ไม่ต้องกังวลเรื่องฉันหรอก ว่าเเต่นายชื่ออะไร ไม่สิๆ อยู่กันมาตั้งพักใหญ่ ข้ายังไม่รู้จักเจ้าเลย เจ้าชื่ออะไร?”
ชายร่ากำยำเกาเหาเเกร่กๆด้วยตกตะลึง จากนั้นเขาก็เเนะนำตัว “คุณหนู ข้าน้อยชื่อ หลิงเหอ”
“งั้นหลังจากนี้ข้าจากเรียกท่านว่าพี่ชายเหอ ฉันว่าดีหรือไม่?” จีเฟิงกล่าวเเล้วยิ้ม
“พี่ชายเหอ…อา เขาชอบคำเรียกนี้มาก” หลิงเหอหน้าเเดงเเล้วพยักหน้ารัวๆเเบบเงียบๆ
“ดี พี่ชายเหอ พวกเรามีเงินมั้ย?” จีเฟิงเยี่ยนนึกขึ้นได้ เธอเป็นเจ้าเมือง บิดาเป็นนักรบจุติสูงศักดิ์ เธอก็น่าจะมีกินพอประมาณ ใช่มั้ย
หลิงเหอที่กำลังยืนยิ้มก็พลันสีหน้าเเดงกล่ำจนความความสุขเมื่อครู่หายไปหมด
หลังจากที่บิดาของจีเฟิงเยี่ยนล่วงลับ ฮ่องเต้ก็ตัดปัญหาด้วยการส่งมอบตำเเหน่งเจ้าเมืองพร้อมชุดเกราะเเละทองคำอีกมากมายชดเชยให้ อย่างไรก็ดีตระกูลจีได้ยึดของพวกนั้นไปเกลี้ยงตอดเเล้ว
ค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง พวกของหลิงเหอได้รวบรวมเเล้วจ่ายกันเอง กว่าจะมาถึงที่นี่ได้เรียกได้มาเงินเก็บชั่วชีวิตได้หมดสิ้นลงไปเเล้ว
ใบหน้าของหลิงเหอเเดงคล้ำเหมือนตับหมูด้วยความโกรธ
*************************************
ตอนเเรกกะเเปลเเล้วให้ตัวเองมาอ่านคนเดียว เเล้วมโนว่ามีนิยายใหม่ให้อ่านเพิ่ม มีสต็อกไว้เเล้ว 45 ตอนนะคะ จะทยอยลงอาทิตย์ละ 3 ตอนนะ ถ้ามีคนอ่านเยอะอาจจะเพิ่มจำนวนตอนค่ะ นิยายเรื่องนี้สนุกนะ นางเอกเทพ เทพจริง เดี๋ยวจะมีพนันหิน ปรุงยา เเละอื่นๆอีก อุ๊บ!! หลุดสปอยไปเเล้วหนีก่อนนะคะ