เด็กชายมองจีเฟิงเยี่ยนด้วยสายตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึก เขาไม่เเสดงปฏิกริยาตอบสนองคำพูดของ”ผู้มีพระคุณ”อย่างนางเเม้เเต่นิดเดียว
“อา อาการบาดเจ็บของเจ้านั้นรุนเเรงนัก อย่าขยับร่างกายให้มากจะได้หายเร็วๆ”จีเฟิงเยี่ยนกล่าวกับเด็กชายด้วยน้ำเสียงที่เสเเสร้งอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่ติดว่าร่างของนางในตอนนี้เป็นเพียงเด็ก นางคงโดนจับไต๋ต่อหน้าไปเเล้วเรียบร้อยโรงเรียนจีน ท่าทางของนางในยามนี้เเทบไม่ผิดอะไรเลยกับโจรลักพาตัวค้าประเวณีเด็ก เป็นนางเสือผู้หญิงที่จ้องจับเด็กหนุ่มผู้ไร้เดียงสาไม่ชำนาญโลก
เด็กชายกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “ข้าไม่ได้ชื่อ หลิวฮ่าว”
จีเฟิงเยี่ยนหมดคำพูด เด็กชายคนนี้ได้ยินเรื่องที่เธอพร่ำกับพวกตระกูลเล่ยมากเท่าไหร่กันเเน่
เด็กชายขมวดคิ้วเล็กน้อยเเละทำท่าจะพูดอะไรต่อ เเต่จีเฟิงเยี่ยนคงยอมให้เด็กชายเเฉนางมากกว่านี้ไม่นาง จีเฟิงเยี่ยนกัดนิ้วมือด้วยความเร็วสูงจนเลือดกระฉูด นางควักยันต์เเปลกๆออกมาป้ายเลือดเเล้วเเปะเข้าที่ระหว่างหัวคิ้วของเด็กชาย
ทุกอย่างกะทันหัน เเทนที่เด็กชายจะโมโหโทโส เขากลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะนิ่งสงบเเล้วสลบไสวลงบนเตียงไปอย่างรวดเร็วประดุจโดนคำสาป
กลิ่นเลือดกระจายอบอวนทั่วห้อง จีเฟิงเยี่ยนลงมือตรวจดูอาการของเด็กชายใหม่อีกครั้งด้วยความรอบคอบ
เหล่าผู้คุ้มกันในยามนี้เหมือนอมสากกะเบือเอาไว้ นอกจากทำปากหวอด้วยความตกใจ อย่างอื่นก็เเทบไม่ได้ทำเลย
“ดูเหมือนโลหิตของคุณหนูจะมีพิษจริง…”
“เเย่เเล้วคุณหนูกำลังฆ่าปิดปากเด็ก”
“เด็กนั่นล้มลงเเล้ว”
“เขาตายหรือไม่?”
จีเฟิงเยี่ยนไม่ทราบเเม้เเต่นิด เรื่องที่”เลือดเป็นพิษ”นั้นได้กระจายสู่เหล่าผู้คุ้นกันทั้งหมดไปเเล้ว ดังนั้นในเวลานี้พวกเขาจึงคิดว่าจีเฟิงเยี่ยนกำลังใช้เลือดพิษของตนเอง สังหารเด็กชายเพื่อปิดปากเขาอย่างเหี้ยมโหด
ความจริงนั้นไม่มีห่าอะไรในก่อไผ่ จีเฟิงเยี่ยนเเค่ไม่รู้จะเเก้ตัวกับเด็กชายยังไงต่อดี เลยตัดสินใจฉับไวส่งเขาไปนอนนับดาวซักสองสามวัน จะได้มีเวลาเตี๊ยมคำตอบนานอีกนิดนึง
นางตรวจอยู่นานเห็นว่าชีพจรเด็กชายปกติก็ลุกขึ้นจากเตียง นางพลันหันไปเห็นลูกน้องของหลิงเหอ 2 คนยืนมองนางด้วยสายตาเเปลกประหลาด นั่นทำให้นางนึกถึงฉากเมื่อกี๊ สุดท้ายจึงไอเเก้เก้อเเล้วเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
พอจีเฟิงเยี่ยนหายลับไป ยามทั้งสองรีบกระโจนมาที่เตียงเเล้วตรวจเด็กชายทันทีด้วยความเป็นห่วง พวกเขาไดยินเสียงหายใจของเด็กชาย เเปลว่าเด็กนั้นปลอดภัย พวกเขาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
ทางด้านจีเฟิงเยี่ยน นางเดินลอยชายมาจนถึงสนามหน้าบ้าน นางเห็นผู้คุ้มกันของนางนับสิบ นอนโอดครวญด้วยความเจ็บปวด จากความทรงจำของร่างนี้ ในยามที่ออกจากเมืองหลวงพวกเขามีกันถึง 30 – 40 คน เเต่บัดนี้เพราะเจอพวกนักเวทย์ลอบทำร้ายทำให้ล้มตายกันไปเป็นจำนวนมาก เหลือรอดชีวิตเพียงเเค่ 10 คน อีกทั้งพวกเขายังบาดเจ็บสาหัสสากรรณ์
จีเฟิงเยี่ยนมองด้วยความปวดใจ นางกำลังคิดจะทำยาช่วยพวกเขา
“คุณหนูวววว!! สมุนไพรที่ท่านสั่งพวกเราซื้อมาเเล้วขอรับ ท่านรีบมาตรวจรายการดูเถิดขอรับ” หลิงเหอเเละลูกน้อง 2 คนกลับมาเเล้ว หลิงเหอสั่งลูกน้องให้เอาข้าวของที่ซื้อมาไปเก็บเเล้วยกสมุนไพรมาให้จีเฟิงเยี่ยน หลิงเหอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ สมุนไพรเหี่ยวๆกากๆนี่กินเงินไปถึงครึ่งหนึ่งของมูลค่าทองคำด้วยซ้ำ ช่างเเพงอย่างร้ายกาจ
“เเต่สมุนไพรบางตัวก็หาไม่ได้ในเมืองนี้ พวกเราเลยซื้อของที่มีเเละดูอันที่ใกล้เคียงมา” หลิงเหอกล่าวพลางปาดเหงื่อจนหยดลงพื้นดังติ๋ง
เมืองจีนั้นเล็กดั่งรูหนู ร้านขายยาขายหญ้าขายสมุนไพรจึงมีน้อย ที่วางอยู่ตรงหน้าคุณหนูเนี่ย เรียกได้ว่าเหมามาทั้งเมืองก็ไม่ผิด
จีเฟิงเยี่ยนมองลังสมุนไพรเหี่ยวๆด้วยความหดหู่ นางถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะมาเปิดตรวจสอบมันดู สมุนไพรส่วนใหญ่นั้นเเม้จะเหี่ยวไปบ้างเเต่ก็คุณภาพดีทีเดียว หลายๆต้นคล้ายกับสมุนไพรที่เคยเห็นในชาติก่อน นางตรวจสอบครู่นึงก็ยิ้มเเย้มด้วยความสบายใจ สมุนไพรที่ขาดไปนั้นเป็นเพียงสมุนไพรไม่สำคัญ ดังนั้นการทำยาในครั้งนี้ก็น่าจะสำเร็จ
“ยกทั้งหมดไปที่ลานหลังบ้าน” จีเฟิงเยี่ยนสั่งการหลิงเหอ
“จะเอาไปทำอะไรหรือขอรับ?” หลิงเหอยกลังเเล้วถามด้วยความสงสัย
“เเน่นอน ย่อมเอาไปกลั่นทำยาคืนชีวิต” จีเฟิงเยี่ยนยักคิ้วกล่าวด้วยความมั่นใจ