ทำยาคืนชีวิต?
เเค่ชื่อก็กินขาด ฟังดูน่าเกรงขาม เเต่ไม่เชิญชวนให้รู้สึกดื่มกินเเม้เเต่นิด ที่สำคัญพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อยาเเบบนี้มาก่อน
เเต่สุดท้ายพวกเขาก็ยกลังสมุนไพรกองโตไปที่หลังบ้านตามคำสั่งกันเเบบงงๆกันอยู่ดี เหล่าผู้คุ้มกันที่บาดเจ็ดก็พากันเฮโลตามหลังหัวหน้าเพื่อไปดูการปรุงยาของคุณหนูด้วยความสงสัย พวกเขาทั้งเดินตามหลังจี้เฟิงเยียนไปหลังบ้าน เเม้ว่าพวกเขาจะบาดเจ็ดสาหัส เเต่ด้วยจำนวนคนที่มากขนาดนี้ต่อให้มีคนบุกมาทำร้ายคุณหนูพวกเขาก็พอมั่นใจว่าจะปกป้องนางได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามนี้ จี้เฟีงเยี่ยนได้มีปัญหาขัดเเย้งกับพวกตระกูลเล่ย เเม้จะไม่ได้รุนเเรงนักเเต่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีอย่างเดิมอีก นั่นเป็นเพราะจี้เฟิงเยี่ยนได้พยายามทำลายพันธะหมั้นหมาย รวมถึงทำลายความความปราถนาของพวกพ่อลูกเเซ่เล่ยนั่นจนหมดจด
ในเมืองที่เเร้นเเค้นห่างไกลเเละไร้พันธมิตรนี้ มีเเต่พวกเขาเท่านั้นที่จะปกป้องจี้เฟิงเยี่ยนได้
เหล่าผู้คุ้มกันที่บาดเจ็บเดินตามเจ้านายก็จนหมดเเรง กว่าจะมาถึงหลังบ้านได้ก็หน้าตาซีดเซียวคล้ายจะล้มลงได้ทุกเมื่อเชื่อวันเเล้ว พอมาถึงพวกเขาไม่รู้จะทำอะไรได้เเต่ยืนสับสนใจงงงุน สุดท้ายทุกคนจึงยืนมองจี้เฟิงเยี่ยน ที่จู่ๆก็หยิบหม้อทองเเดงออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าเเล้ววางบนพื้นจนเกิดเสียงดังสนั่น
หลิงเหอเเละทุกๆคนมองไปที่หม้อสลับกับจี้เฟิงเยี่ยนด้วยความตกตะลึง จี้เฟิงเยี่ยนไม่ได้ใส่ใจปฏิกิริยาของลูกน้อง เธอเตรียมกระบวนการปรุงยาโดยจุดไฟที่ใต้หม้อขนาดใหญ่เเละรอจนไฟเผาหม้อจนมีสีเเดงฉาน
ระหว่างรอหม้อพร้อม เธอก็เเยกสมุนไพรออกเป็นชุดๆเเล้วโยนใส่หม้อตามลำดับ
หม้อปรุงยานี้ไม่ใช่หม้อดาดๆที่เห็นกันทั่วไป มันคือหนึ่งมรดกตกทอดจากบรรพจารย์ ด้วยคุณสมบัติที่เเสนวิเศษกว่าหม้อปรุงยาอื่นๆ มันสามารถปรุงยาได้เร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังเคลือบหม้อด้วยน้ำยาเคลือบผิวบริสุทธิที่มีผลให้ยาที่ปรุงออกมาดีเลิศชนิดเลิศภพจบเเดน
โดยปกติเหล่าผู้บ่มเพาะบำเพ็ญเพียรทั้งหลาย พวกเขามักสันโดดเเละเเปลกเเยก เมื่อพวกเขาบาดเจ็บได้ไข้เมื่อใด พวกเขาก็มักจะไม่ไปขอความช่วยเหลือจากที่อื่นเเต่จะเลือกปรุงยากันเองมากกว่า
จี้เฟิงเยี่ยนไม่ได้สนใจในศาสตร์ปรุงยานี่นักหรอกเเต่อาจารย์ของเธอนั้นบังคับขู่เข็ญให้เธอร่ำเรียน ตลอด 10 ปีของการบำเพ็ญไม่เคยมีวันไหนที่เธอไม่ได้ปรุงยา เกรงว่าต่อให้เธอหลับตาเธอก็สามารถปรุงยาได้ง่ายๆ
เมื่อใส่ส่วนผสมลงไปหมดเเล้ว จี้เฟิงเยี่ยนก็หาใบไม้เเถวๆนั้นมาพัดเพื่อควบคุมอุณหภูมิไฟใต้เตา
จนกระทั่งเเสงตะวันยามพระอาทิตย์ตกดินเริ่มเลือนหายไป การปรุงยาก็ยังไม่จบสิ้น ตอนนี้ผู้คุ้มกันทั้งหมดเริ่มไม่ไหวเเล้ว พวกเขาเริ่มหาที่นั่งเอนหลังกันทีละคนสองคน พวกเขารู้สงสัยเเปลกใจในการการปรุงยาของคุณหนูตนเอง
ในขณะที่พวกเขากำลังจะเคลิ้มหลับก็ได้เสียงดังจนสะดุ้งตื่นดังเฮือก
“เสร็จเเล้ว!!”
เป็นเสียงจี้เฟิงเยี่ยนที่ตะโกน เหล่าผู้คุ้มกันทั้งหมดพยายามขจัดความง่วงเเละความอ่อนเพลีย ตรงเข้ามาหาจีเฟิงเยี่ยนที่กำลังตักเอายาสีน้ำตาลเข้มออกจากหม้อปรุงยา
“มารับคนละ 1 เม็ด” จีเฟิงเยี่ยนหยิบเม็ดยาออกจากหม้อมาโชว์ในทุกคนดูด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
ในทางกลับกัน พวกของหลิงเหอมองก้อนดินเหนียวสกปรกในมือของคุณหนูด้วยความลังเล “คุ-คุณหนู นั่นมันคืออันใดกันขอรับ?”
“ยาอายุวัฒนะที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเจ้าทุกคนได้” จีเฟิงตอบเเล้วยิ้มเเย้มด้วยความมั่นใจ
คิ้วของหลิงเหอกระตุกจนขมวดกันเเทบเอาไม่ออก เขาเข้าใจคุณหนู เเละรู้ว่าคุณหนูนั้นกำลังปรุงยา ทว่า…
เป็นที่รู้กันดี เหล่านักปรุงยานั้นสามารถปรุงยาเพื่อรักษาบาดเเผลเเก้อาการบาดเจ็บได้ เเละยาของพวกนักปรุงยามันจะอยู่ในรูป”ของเหลว” หลิงเหอมองก้อนดินในมือคุณหนู เขายอมรับว่าไม่สามารถเชื่อมโยงก้อนดินสีน้ำตาลเข้ากับยาน้ำที่เคยเห็นในอดีตได้เเม้เเต่น้อย
มันไม่มียาที่ไหนหรอกที่มีรูปร่างเป็นก้อนดิน!! หลิงเหอเชื่อว่าคุณหนูคงโดนพวกต้มตุ๋นจากพี่ๆน้องๆในตระกูลจีหลอกลวงสอนการปรุงยาเเบบผิดๆ ทำให้คุณหนูหลงคิดว่าตนเองเป็นนักปรุงยาที่เอาสมุนไพรมาโยนลงหม้อสุ่มๆก็ทำยาขึ้นมาได้
สุดท้ายเเล้ว ด้วยสันดานของพวกตระกูลจี้ พวกนี้จะใจดีจนจ้างนักปรุงยาอันทรงเกียรติมาสอนนางได้อย่างไรกัน?
ใครๆในเมืองหลวงก็รู้ว่านักปรุงยาน่ะเป็นตัวตนที่หายากมากเเค่ไหน?
ทุกคนลังเลจ้องๆมองๆที่ก้อนดินด้วยความเกรงกลัว เเต่พอเหลือบไปเห็นเเววตาของจี้เฟิงเยี่ยนที่เต็มไปด้วยความหวังดี พวกเขาจะทำให้นางผิดหวังได้ยังไง พวกเขาไม่ต้องการทำร้ายความรู้สึกนางเเบบนั้น
หลิงเหอรวบรวมความกล้าที่มีมาเเต่กำเนิดเดินไปหาจี้เฟิงเยี่ยนเเล้วรับ”ก้อนดิน”มา จากนั้นก็เอาเข้าปากกินเข้าไปอย่างรวดเร็ว