จี้เฟิงเยี่ยนมองตรงไปที่ดวงตาของซูหลิงเฉิงซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชัง จี้เฟิงเยี่ยนยิ้มให้ซูหลิงเฉิงเเบบขอไปที
รอยยิ้มของจี้เฟิงเยี่ยนทำให้ซู่หลิงเฉิงรู้สึกอึดอัด เมื่อเร็ว ๆ นี้ การประชุมเรื่องหมั้นหมายของจี้เฟิงเยี่ยนเเละเล่ยมินนั้นไม่น่าพอใจ…ไม่สิ เลวร้ายเลยต่างหาก นางเองรึก็อุตส่าห์ใจกว้างเเละมีคุณธรรมเท่าที่จะมากได้เเล้ว คนรักหรือก็ยินยอมเเบ่งให้ เเต่นังจี้เฟิงเยี่ยนกลับมองข้ามหมางเมินใส่ เเถมยังคบชู้สู่ชายเเบบซึ่งๆหน้าให้คู่หมั้นตัวเองเห็นเเบบไม่เกรงใจใคร เจตนาชัดเจนว่าต้องการยั่วโมโหไม่ก็ประชดเล่ยมิน นี่คงกะให้เล่ยมินกลับไปหาล่ะสิ ซูหลิงเฉิงมองจี้เฟิงเยี่ยนด้วยสายตาเหยียดหยัน นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมนังเด็กอัปลักษณ์น่าเกลียดนี่ถึงได้หน้าด้านน่าไม่อายทำเรื่องบัดซบไม่สนใจสายตาคนเเบบนี้ไปได้
ทั้งคู่มองหน้ากัน เพ่งกระเเสจิตใส่กันเเบบไม่ใส่ใจใคร เเน่นอนว่าคนนอกไม่มีใครรู้ว่าสองคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
เจ้าของร้านมองไปที่ซูหลิงเฉิงที่จู่ๆก็เงียบไปกะทันหันเเบบไม่ทราบสาเหตุ อีกทั้งยังเห็นซูหลิงเฉิงจ้องมองไปยังขอทานน้อยน่าเกลียดที่ทำตัวอวดรู้เมื่อครู่นี้อีก เขารู้สึกหนาวสั่นอย่างบอกไม่ถูก เเต่เมื่อซูหลิงเฉิงกำลังเงียบเขาจึงถือโอกาสขายของโฆษณาทันที “คุณหนูซู…วันนี้มีหินส่งมาใหม่ รอบนี้หินมีขนาดใหญ่และมีคุณภาพที่ดีกว่ารอบที่แล้วมากมายขอรับ เมื่อครู่นี้มีผู้โชคดีสามารถเปิดได้อัญมณีสูงค่ามากด้วยคนหนึ่งแม้ว่าจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ด้วยความสามารถฟ้าประทานของคุณหนู ข้าน้อยคิดว่าคุณหนูจะสามารถเลือกหินหยกที่ดีอย่างแน่นอนขอรับ”
จากนั้นซูหลิงเฉิงก็หันมามองที่จี้เฟิงเยี่ยน
คำพูดของเจ้าของร้านดูเหมือนยกยอปอปั้นแต่จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้ผิดไปจากความจริงสักเท่าไหร่ คุณหนูซูหลิงเฉิงเดินทางถึงเมืองจี 1 เดือนกว่าๆเเล้ว และพาคุณชายเล่ยมิน ผู้เป็นคู่หมั้นของตัวเองมาที่ร้านนี้ 2-3 ครั้ง
ไม่รู้ว่าด้วยโชคหรือด้วยอะไร หินแร่ที่มีราคาแพงและหินเเร่หายากได้ถูกค้นพบโดยดวงที่มหัศจรรย์ของนาง นั่นทำให้ขากรรไกรของคนจำนวนมากต้องอ้าปากค้าง ถ้าไม่ใช่เพราะสถานะที่แสนพิเศษของนาง คนจำนวนมากคงจะไปเชิญนางเพื่อให้มาช่วยพวกเขาเลือกหินไปแล้วล่ะ
ถึงอย่างนั้น ทุกครั้งที่คุณหนูซูมาที่ร้าน ต่อให้พวกเขาไม่ได้ประโยชน์อะไรก็ยังคงมารวมตัวกันเพื่อจะดูนางเรื่องหิน เพราะยังไงการมองคนโชคดี เป็นเรื่องที่ตื่นเต้น และถ้าหากเขาสามารถเกาะความโชคดีของนางได้บ้างก็คงจะเป็นเรื่องที่วิเศษ
คนที่มาดูคุณหนูซูเลือกหินนั้นจะสังเกตุ เมื่อคุณหนูซูจ้องไปที่หินก้อนใด นานๆ อาจจะนานสักครู่หนึ่งเเต่ไม่ซื้อ คนที่เหลือที่มามุงดูนั้นก็จะต่อสู้กันเพื่อซื้อหินก้อนนั้นอย่างแน่นอน เพราะตราบใดที่คุณหนูซูมองหินก้อนนั้นนานขึ้นนั่นหมายถึง หินก้อนนั้นจะมีแร่หายากปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน
ผลจากการมาถึงของซูหลิงเฉิง ร้านค้าที่มีคนไม่กี่คนก็พลันแออัดดั่งรถรถไฟด่วนยามเช้าขึ้นมาทันตาเห็น
คนมารวมตัวเเน่นหนาจนแทบจะขี่คอกันเพื่อดูซูหลิงเฉิงเลือกหิน
ทุกคนมองมาที่นางด้วยความเคารพ ซูหลิงเฉิงเองไม่ได้สนใจ นางมองไปทางที่จี้เฟิงเยี่ยนยืนอยู่ เเล้วมองแบบผ่านๆ หางตาของเธอเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
ดูนี่ซะ…และเจ้าจะได้เข้าใจถึงความสามารถของข้า..จากนั้นก็จงสำนึกที่บังอาจหยิ่งยโสต่อหน้าข้า…ช่องว่างของเจ้าเเละข้ามันห่างกันเกินกว่าเจ้าจะมองเห็น
ซูหลิงเฉิงตัดสินใจแสดงความสามารถของนาง แล้วหันไปมองกองก้อนหินในร้านทันที
จี้เฟิงเยี่ยนอยู่ด้านข้าง นางนิ่งเฉยและไม่ค่อยสนใจอะไรแต่ก็มองไปยังซูหลิงเฉิงที่กำลังเลือกหินบนชั้นวางของ ทันใดนั้นประกายรอยยิ้มก็พลันปรากฏขึ้นบนใบหน้า
รอยยิ้มของนางทำให้ซูหลิงเฉิงรู้สึกไม่ค่อยพอใจ
“เจ้ามาที่นี่เผื่อเลือกซื้อหินหรือ?”
ซูหลิงเฉิงถามจี้เฟิงเยี่ยนด้วยใบหน้าที่เเข็งเกร็งราวกับถูกบังคับให้หันมาจ้องมูลสัตว์
ไม่มีใครคิดว่าคุณหนูซูผู้สูงศักดิ์จะเอ่ยปากพูดคุยกับเด็กผู้หญิงผอมแห้ง ที่ไร้ตัวตนจนไม่มีใครสังเกตเห็นมาก่อน พวกเขาทั้งหมดจากที่ไม่เคยสนใจก็หันไปมองหันไปมองที่จี้เฟิงเยี่ยนทันที
เอาเถอะตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม….
จี้เฟิงเยี่ยนตอบไปเล็กน้อยอย่างขอไปที “ก็ได้…ถูกแล้ว ข้ามาเพื่อซื้อหิน”
ซูหลิงเฉิงลูบก้อนหินกลมๆ อย่างทะนุถนอม ทว่าดวงตาของนางกลับจ้องไปที่จี้เฟิงเยี่ยนแล้วพูดแบบติดหยอกล้อปนเย้ยหยันว่า…
“ที่นี่มีหินมากมายและมีโชคมากหลายให้เก็บสะสม ไหนๆเจ้าก็สนใจในแบบเดียวกัน มาลองเดิมพันกันสักรอบดีไหม??”