เจ้าของร้านเลิกคิ้วสูงและหันไปส่งยิ้มพร้อมขยิบตาไปทางซูหลิงเฉิง จากนั้นก็หันมาจริงจังต่อหน้าจี้เฟิงเยี่ยน “ใช่เเล้ว หินเเห่งความฝันบางเฉียบมันก็มีราคาได้เเค่นั้นล่ะ”
“อ้อ เช่นนั้นเองอ่ะหรออออออ?” จีเฟิงเยี่ยนตอบด้วยสีหน้าสบาย ๆ เเต่เน้นหนักพยางค์สุดท้ายอย่างจงใจจนดูคล้ายกับเด็กไร้เดียงสา…นี่พวกเอ็งคิดว่าข้าดูโง่ขนาดนั้นเชียว???
ใบหน้าของซูหลิงเฉิงค่อยๆผ่อนคลายลง และหันไปมองทางจี้เฟิงเยี่ยน สายตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างที่อธิบายไม่ได้
ผู้คนในร้านต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ ณ จุดๆนี้ไม่มีใครยอมยืนหยัดเพื่อจี้เฟิงเยี่ยนหรอก ไม่มีใครโง่พอที่จะทำให้หญิงรับใช้คนสนิทขององค์หญิงใหญ่ขุ่นเคืองเพื่อเด็กสาวที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ยิ่งกว่านั้นซูหลิงเฉิงและ ‘ว่าที่เจ้าเมืองจี’ของพวกเขา คาดว่าจะแต่งงานกันในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึง ‘ฉลาด’ พร้อมเพรียงกันโดยธรรมชาติ
ความตื่นเต้น ตกตะลึงที่มีต่อหินแห่งความฝันค่อยๆลดลง และร้านค้าก็กลับสู่ความเงียบสงบดังเดิม
ไม่มีใครคาดคิดว่าจี้เฟิงเยี่ยนจะเสมอกับซูหลิงเฉิง ทุกคนในที่นี้รวมถึงซูหลิงเฉิง เชื่อว่า จี้เฟิงเยี่ยนชนะเพราะโชคที่มาเเบบไม่คาดคิดก็เท่านั้นเอง
“เอ๋ เเบบนี้ถ้าเสมอกันมันก็เเย่น่ะสิ!?” จี้เฟิงเยี่ยนเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มเล็กน้อยของซูหลิงเฉิง ราวกับว่าเธอกำลังล้อเลียนซูหลิงเฉิง และเย้ยหยันความเจ้าเล่ห์มากเหลี่ยมของเจ้าของร้าน
ซุหลิงเฉิงเกิดมาสูงส่ง จึงไม่เคยเห็นใครเยาะเย้ยนางเช่นนี้มาก่อน และความไม่พอใจของนางก็พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก นางเลิกคิ้วและพูดกับจี้เฟิงเยี่ยนว่า“ รอบนี้เสมอกัน งั้นถือว่าไม่นับ เจ้าว่าไงสนใจอยากจะต่ออีกสักรอบไหม?”
นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าเด็กนี่จะโชคดีถึงขนาดนี้!
“อ๋อ ได้สิ” จี้เฟิงเยี่ยนยักไหล่ ในมุมมองของนาง กลเม็ดกลโกงทั้งหมดของซูหลิงเฉิงก็เป็นเพียงของเล่นเด็ก มันราวกับว่านางกำลังเเข่งขันเพื่อเล่นเกมส์กับเด็กน้อย เเละเด็กน้อยที่ชั่วร้ายนั่นก็ต้องการเหยียบหัวนาง
“เนื่องจากเราเพิ่มการเดิมพันอีกรอบ ดังนั้นการเดิมพันของเราก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย! เจ้าเห็นด้วยไหมล่ะ?”
“เพิ่มก็เพิ่มสิ” จี้เฟิงเยี่ยนยิ้มหวาน..ขณะที่นางพูด ซูหลิงเฉิงก็เย้ยหยัน ดูซินังเด็กโง่ คนอย่างเเกยังจะมีโชคดีเหลืออยู่อีกไหม?
“ดี ถ้าเจ้าแพ้ในรอบนี้ ข้าไม่เพียงเเค่ต้องการให้เจ้าคลานไปรอบ ๆ เมือง ข้ายังต้องการให้เจ้าเเก้ผ้าและเห่าหอนเหมือนสุนัขในขณะที่คลานด้วย!” ซูหลิงเฉิงกล่าวเงื่อนไขที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ความประสงค์ร้ายของนางนั้นทำให้ทุกคนที่มุงดูอยู่ตกตะลึงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาคิดว่าที่จี้เฟิงเยี่ยนเสมอเป็นเพราะโชคที่ดีของนาง เเต่ถ้าเเข่งอีกครั้งล่ะ? โชคจะยังดีเหมือนเเดิมอยู่อีกเหรอ?
ถ้านางเดิมพันอีกรอบเเล้วโชคของนางหมดลงล่ะก็….เเละของเดิมพันก็ยังสูงขึ้นอีกด้วย เเบบนี้นางก็ต้องเเพ้ เเล้วทำตามที่เดิมพัน ชีวิตนับจากนี้ของเด็กสาวผู้โชคร้ายคงจะผ่านไปอย่างยากลำบาก
การเดิมพันโหดร้ายเช่นนี้เหมือนเป็นการบังคับให้เด็กสาวให้ไปสู่ทางตัน!
ภายในไม่กี่วินาทีทุกคนก็เริ่มกระซิบกระซาบ และหลายคนก็แอบมองไปที่จี้เฟิงเยี่ยนด้วยสายตาสงสัย นี่นางไม่รู้จริงๆเหรอว่าการเดิมพันเเบบนี้มันจะนำผลอะไรมาสู่ตัวเอง คิดจริงๆหรือว่าคุณหนูจะยอมให้ชนะน่ะ
“เด็กน้อย อย่าห่วงเลย ข้านั้นเป็นคนใจดี ถ้าเจ้าอยากยอมเเพ้ ข้าจะไม่ถือสา เจ้าเเค่คุกเข่าเเล้วคำนับข้าพร้อมคำขอโทษสัก 3 ครั้ง ข้าจะถือว่าทุกอย่างให้เเล้วๆไป” ซูหลิงเฉิงกล่าวขณะที่นางยกคางขึ้น
ใบหน้าของจี้เฟิงเยี่ยนมีรอยยิ้มจาง ๆ และมองไปที่ซูหลิงเฉิงด้วยความสังสัย
“ทำไมล่ะ อะไรที่ทำให้เจ้าคิดว่าข้าต้องยอมเเพ้? ทำไมข้าต้องยอมเเพ้เเละปล่อยมันไป เป็นเกมที่น่าสนใจ ไม่เล่นข้าคงเสียดายเเย่” ไม่มีใครสังเกตเห็นรอยยิ้มเเละดวงตาของจี้เฟิงเยี่ยนที่ครู่หนึ่ง ที่จู่ๆมันก็เปลี่ยนเป็นการจ้องที่เย็นชา….
“เเต่เมื่อครู่นี้เจ้าได้เพิ่มของเดิมพัน ถึงเเม้ใจจริงข้าจะไม่ได้อยากจะเพิ่มของเดิมพันอะไรก็ตามทีเถอะ เพราะข้านั้นสนใจเพียงเเค่หยกชิ้นเล็กอันนั้นอย่างเดียว เเต่!! มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะไหนๆเจ้าก็เพิ่มเเล้ว ดังนั้นข้าเพิ่มบ้างคงไม่ผิดอะไรใช่ไหม?” ดวงตายิ้มของจี้เฟิงเยี่ยนกระพริบ ความไร้เดียงสาเเละท่าทางใสซื่อของนางเริ่มจางหาย กลายเป็นความเย็นชาเข้าเเทนที่
“ข้านั้นใจดี ไม่เพิ่มอะไรมากหรอก ขอเเค่เจ้า..คุกเข่าคำนับข้าสามครั้งเเล้วมอบหยกให้ข้าก็พอ” จี้เฟิงเยี่ยนกล่าวเเล้วยิ้มด้วยท่าทีไร้เดียงสา ท่าทีเย็นเมื่อครู่หายวับไปดั่งโกหก
“ตกลง!” ซู่หลิงเฉิงไม่ลังเลเลยก่อนที่จะตอบ เพราะนางเชื่อว่านางจะไม่มีวันเเพ้
จี้เฟิงเยี่ยนไม่ได้มองไปที่ซูหลิงเฉิงอีกต่อไป แต่นางหันไปมองที่เจ้าของร้านที่กำลังทำสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจและพูดว่า
“ถ้าอย่างนั้น ครั้งนี้ข้าจะเลือกก่อน?”