ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา ตอนที่ 51 ถ้าข้าพอใจข้าจะทําอะไรก็ได้
เล่ยซูมองไปที่อี้เฟิงเยี่ยนด้วยสายตาเดียวกับที่มองลูกแกะโง่ๆเขาเห็นจี้เฟิงเยี่ยนอุ้มกวางสีขาว ริมฝีปากของของก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นไม่ว่าเจ้าจะเลือกอาหารของสัตว์รบตัวไหน สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับเขาอยู่ดีว่าจะมอบโอกาสให้นางเท่าไหร่? ในที่สุดก็ถึงวันนี้ เสียที…ได้เวลาประกาศให้นางรู้แล้วว่าใครน่ะคือนายตัวจริงแห่งเมืองจีแห่งนี้
“เฟิงเยี่ยน..หลานเลือกได้แล้วสินะ!?” เล่ยซูยิ้มอ่อนโยนเขาซ่อนแววตาอันชั่วร้ายไว้ภายใต้รอยยิ้มอันเป็นมิตรแล้วเดินเข้าไปหาจี้เฟิงเยี่ยน
จี้เฟิงเยี่ยนพยักหน้าโดยไม่เหลือบมองไปที่เล่ยซูเลยด้วยซ้ํา นางมองเพียงกวางตัวน้อยที่บาดเจ็บ เมื่อเห็นกวางน้ําตาคลอนางก็เต็มไปด้วยความสงสาร นางจึงปลอบกวางตัวเล็กที่ยังคงสั่นสะท้านด้วยความกลัว ดูสิว่ามันกลัวแค่ไหน!? เห็นไหมขนของมันกําลังจะหลุดร่วงแล้ว!!
“อืม กวางตัวนี้มันคืออาหารของสัตว์รบสายพันธ์ [เชียนโชว] ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีสายตาที่ดีไม่น้อย ไม่เลวเลยจริงๆ เอาล่ะไว้วันไหน..ถ้าลุงว่างจะให้เจ้าไปดูแล้วกัน” เลยซุกล่าวด้วยความจริงใจก็ไม่ผิดจากที่เขาพูด เขียนโชว” นั้นไม่เลวจริงๆ ความสามารถในการต่อสู้ของมันนั้นสูงมาก เรียกได้ว่ายืนหนึ่งในสัตว์รบสายพันธ์มา เลยทีเดียวทว่า….นิสัยของมันนั้นทั้งโหดร้ายและป่าเถื่อน ว่ากันว่า ขนาดเจ้าของอบรมเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กใกล้ชิดสนิทกันแต่พอมันโตบางทีแม้แต่เจ้าของยังโดนแว้งกัด!ไม่มีว่าที่นักรบจุติหน้าโง่คนไหนหรอกที่จะเลือกมันเพื่อรอวันถูกสัตว์รบของตัวเองแว้งกัดกลางสนามรบให้ขายหน้าเล่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น…แผนของเล่ยซูถูกเปิดเผย ผ่านประโยคนี้แล้ว เขาตั้งใจกักขังสัตว์รบของจี้เฟิงเยี่ยน!!ไม่ให้นางได้ใกล้ชิดมันและถ้าเป็นไปตามแผน คนที่ลําบากคือจี้เฟิงเยี่ยนนอกจากนางจะต้องเข้าร่วมรบกับปีศาจแล้ว บางที่นางอาจจะได้รบกับสัตว์รบของตนเองก่อนก็เป็นไปได้!!
หลิงเหอแม้จะโง่เขลา แต่เขาก็เข้าใจแผนการณ์ของเล่ยซูเป็นอย่างดี เขาไม่มีทางปล่อยให้คุณหนู..ทายาทคนเดียวของนายท่านได้รับบาดเจ็บแม้เพียงนิด เขาถือดาบเดินไปข้างหน้าเตรียมพร้อมที่จะเปิดศึกกับเล่ยซู ทว่า…
“ เชียนโชวคืออะไร?” ทันใดนั้นเอง จี้เฟิงเยี่ยนที่เอาแต่ลูบหัวกวางก็เอ่ยปากถามขึ้น
เล่ยซูมองจี้เฟิงเยี่ยนด้วยสายตาแบบเดียวกับที่ใช้มองคนปัญญาอ่อน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงอธิบาย “เชียนโชว คือสัตว์ร้ายสายพันธ์มาที่นิยมนํามาเป็นสัตว์รบ เพราะมันมีสามารถในการต่อสู้ที่ท รงพลังมากว่ากันว่าหลังจากมันฆ่าปีศาจเสร็จ..ร่างกายของมันจะปรากฎเปลวเพลิงแห่งความเร่าร้อน ทําให้มันดูทรงพลังมากยามเข้าโรมรันกับศัตรู…”
“ ทีม เช่นนั้นหรือ? งั้นเจ้าก็เข้าใจผิดแล้วล่ะ?” ก่อนที่เล่ยซูจะพูดจบจี้เฟิงเยี่ยนก็พูดตัดบทเขาดังฉับทันที เลยซูที่กําลังร่ายบรรยายยาวถึงกับสะอึกไปไม่เป็น!
เล่ยซูมองไปที่จี้เฟิงเยี่ยนเขาไม่เข้าใจว่าที่นั่งเด็กนี่พูดหมายอะไรกันแน่!?
ริมฝีปากของจี้เฟิงเยี่ยนโค้งขึ้นจนเกิดเป็นรอยยิ้ม นางมองกวางตัวเล็กสีขาวในอ้อมแขนของนางและพูดด้วยรอยยิ้มน้อยๆว่า “ข้าไม่ต้องการเขียนโชวอะไรที่เจ้าพูดถึง! สัตว์ของข้า..เอาเป็นเจ้านี่แล้วกัน!”
“ ห้าาาาา!” ประโยคนี้!แม้แต่สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างเลยซูได้ฟังเขาถึงกับตกตะลึงในความคิดประหลาดของจี้เฟิงเยี่ยน
เดิมที่เขาตั้งใจที่จะกักขังสัตว์รบเพื่อที่จะทําให้จี้เฟิงเยี่ยนยอมโอนอ่อนผ่อนตามเขา แต่ร้อยพันหมื่นความคิด! เขาก็ไม่นึกว่าจี้เฟิงเยี่ยนจะตอบโต้เขาด้วยการเอากวางบาดเจ็บที่มีค่าเพียงแค่เป็นอาหารเย็นมาทําเป็นสัตว์รบ.เจ้ากวางนั่นพวกเขาแค่ซื้อมันมาจากนักล่าเพื่อเอามาตันเย็นนี้นะ!!
เด็กแพศยานี่บ้าไปแล้วหรือ!? นางโง่จริงหรือแกล้งโง่?
“ข้าบอกว่าจะเอาเจ้ากวางน้อยมาเป็นสัตว์รบ.ทําไมเจ้าถึงทําหน้าแบบนั้นล่ะ กวางสีขาวตัวน้อยนี่น่ารักดีไม่ใช่เหรอ?” จี้เฟิงเยี่ยนลูบหัวเจ้ากวางน้อยด้วยความรู้สึกพึงพอใจแม้ว่าขนของ มันจะทั้งแข็งและแห้งเล็กน้อยก็ตาม…อาผิดหวังจังทั้งๆที่นางอ ยากกอดกวางขนนุ่มแท้ๆ
“นี่ไม่ใช่สัตว์รบ เจ้าดูดีๆ มันคือเพียงอาหาร!! อาหารเท่านั้นจะนําสิ่งนี้มาเข้าร่วมสงครามกับนักรบจุติได้อย่างไร!”เล่ยซูกําลังหัวเสียอย่างสมบูรณ์นอกจากจะไม่เป็นไปตามแผนแล้วยังอ่า เขาไม่รู้เลยว่านั่งเด็กนี่คิดอะไรอยู่ในหัวของมันกันแน่!
สัตว์รบของนักรบจุตินั้นมันไม่ใช่แค่พาหนะที่เอาไว้ขี่…แต่มันคือคู่หูที่จะต่อสู้ร่วมกัน ดังนั้นคงไม่เกินไปถ้าจะบอกว่าสัตว์รบคือแขนขาของนักรบจุติ! โดยปกติแล้วถ้ามีสัตว์รบที่ยิ่งแข็งแกร่งจะมีประโยชน์มากกว่าไม่ใช่หรือ?เพราะจะทําให้ภาพรวมของความ แข็งแกร่งนั้นสูงขึ้นอย่างมาก
แต่!! นังเด็กจี้เฟิงเยี่ยนกลับเลือกกวางเล็กๆที่บาดเจ็บหนักราวกับตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง!!
นี่ไม่ใช่ความโง่เขลาระดับธรรมดาแล้ว!!
“สัตว์รบของข้ามันก็ควรเป็นข้าที่มีสิทธิ์เลือก ข้าขอบใจที่พวกเจ้าพ่อลูกอุตส่าห์ลําบากเลือกหาสัตว์รบที่ร้ายกาจเช่นนี้มา ข้าสุดแสนจะพอใจมากเอาล่ะคงจะหมดธุระแล้วใช่ไหม? พี่ชายหลิงส่ง แขก!!”จี้เฟิงเยี่ยนอุ้มกวางตัวเล็กและหันกลับไปที่ห้องของนางทัน
ในขณะนี้นางไม่มีความตั้งใจจะหายใจทิ้งร่วมกับพ่อลูกตระกูลเลยอีกต่อไป
คนทั้งหมด ณ ที่นั่นต่างพากันตกตะลึง แม้แต่หลิงเหอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่จะรีบปฏิบัติตามคําสั่งของจี้เฟิงเยี่ยนด้วยการ “ส่ง”พ่อลูกตระกูลเล่ยออกจากบ้านไป
กรงทั้งหมดที่พ่อลูกตระกูลเล่ยเอามา ถูกโยนออกจากประตูตามหลังพวกเขาทันที่ที่พวกเขากําลังจะจากไป พ่อลูกตระกูลมองไปยังประตูที่ถูกปิดใส่หน้าด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก
อ่านี่เกินกว่าที่พวกเขาคาดเดาไปมากจริงๆ!