ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา
ตอนที่ 53 โธ่..คุณหนู
หลิงเหอรู้สึกว่าความคลั่งไคล้ในตัวกวางตัวน้อยของคุณหนูเริ่มจะเลยเถิดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากพยายามเกลี้ยกล่อมนางอย่างหนัก จี้เฟิงเยี่ยนก็ไม่แม้แต่จะคล้อยตาม นางก็ยังคงปลอบโยนเจ้ากวางน้อยที่กําลังตกใจกลัว หลิงเหอทําได้เพียงอดทนและจากไป อย่างเงียบๆ
จี้เฟิงเยี่ยนพันแผลของไปเช่อเสร็จแล้ว อาจเป็นเพราะการจ้องมองและการกระทําที่อ่อนโยนของนาง ในที่สุดไปเช่อก็สงบลงและมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าด้วยดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยน้ําตา
จี้เฟิงเยี่ยนยิ้มในขณะที่นางลูบหัวไปเช่อ “ไปเช่อ ข้าจะเป็นเจ้า ของของเจ้านับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ต้องกลัว จะต้องมีสักวันหนึ่งที่เจ้าจะทําให้ทุกคนต้องตะลึง”
ในฐานะที่เป็นแค่กวางสีขาวพันธุ์แท้ สัตว์หน้าขนอย่างมันมีความฉลาดที่ไม่มากเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ไปเช่อจะไม่สามารถเข้าใจคําพูดของจี้เฟิงเยี่ยนได้ แต่อย่างน้อยสิ่งที่มันรู้และสัมผัสได้เพียงอย่างเดียวก็คือ ความรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่เคียงข้างเฟิงเยียน
“ มากินโอสถบํารุงก่อน” จี้เฟิงเยี่ยนหยิบขวดยาอายุวัฒนะจากมิติภายในจิตวิญญาณ แล้วหยิบโอสถออกมาเม็ดหนึ่ง จากนั้นก็วางไว้ตรงหน้าไปเชื่อ
ไปเช่อสูดดมเม็ดยาและเลียมันเพื่อลองชิม อาจเป็นเพราะรสชาติไม่ได้แย่หรืออาจจะเพราะมันหิวโหย ขณะที่กลืนยาเม็ดนั้นเข้าไปในปากแววตาของมันก็เต็มไปด้วยความสุขและซาบซึ้งในตัว จี้เฟิงเยี่ยนมากขึ้น “ เจ้ายังเด็กเกินไป ด้วยร่างกายที่อ่อนแอแบบนี้ เจ้ายังต้องค่อยๆปรับตัวอย่างช้าๆ”
ไปเช่อเอียงศีรษะเล็กน้อยอย่างงุนงง และใบหน้าของมันดูว่างเปล่า…มันเป็นกวาง ฟังนางรู้เรื่องซะที่ไหน!
หลังจากกินโอสถแล้ว ไปเช่อตัวน้อยก็หลับไหลไปอย่างรวดเร็ว จี้เฟิงเยี่ยนไม่ได้รังเกียจมัน ตรงกันข้ามนางดันชอบใบหน้าที่น่ารักยามนิทราด้วยซ้ํา นางรีบอุ้มไปเช่อตัวน้อยไปที่เตียงของนางเอง และเอามันนอนลง
จากนั้นนางก็เริ่มไปตรวจสอบสมุนไพรที่นางสั่งซื้อก่อนหน้านี้ นางตรวจไปพร้อมกับนึกถึงวิธีการบ่มเพาะบําเพ็ญเพียรอีกครั้ง ต้องขอบคุณชาติก่อนที่นางเคยบําเพ็ญเพียรจนเกือบถึงลําดับขั้น สุดท้าย.ถ้าไม่โดนฟ้าผ่าเสียก่อน นางคงได้กลายเป็นเทพเซียน ไม่ต้องมาเหนื่อยแบบนี้ แต่ก็เพราะความรู้และประสบการณ์ที่มี ทําให้นางรู้วิธีและการบําเพ็ญเพียรที่ไม่ว่าไอ้หน้าไหนในโลกใบนี้ก็สู้นางไม่ได้ นางนั้นทราบดีว่าผู้บําเพ็ญเพียรนั้น! ต่อให้ไม่ได้สําเร็จขั้นสุดท้าย ผู้บําเพ็ญเพียรก็ยังแข็งอยู่ดี เพราะมีอายุขัยที่ยาวนาน ไม่ต้องกินดื่ม พลังกําลังมหาศาลสามารถถล่มโลกให้วอดวายด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียว! ทว่า….ตอนนี้นางได้สูญเสียทั้งหมดไป หลงเหลือเพียงร่างกายที่อ่อนแอและตันเถียนที่แหลกเละ! อ่อนแอถึงขนาดที่ว่าไม่นอนคืนเดียวก็แทบเป็นลมล้มพับ
เมื่อรู้ขั้นตอนแล้ว อย่างแรกในการปรับแต่งจิตวิญญาณ นางต้องปรับแต่งร่างกายก่อน!
นางเตรียมสมุนไพรไว้จํานวนมาก ไม่เพียงเพื่อปรุงยาอายุวัฒนะที่สามารถเสริมสร้างร่างกายของนางเท่านั้น แต่นางยังช่วยให้หลิงเหอและผู้คุ้มกันที่เหลือทั้งหมดปรับปรุงร่างกายของพวกเขาด้วย ก่อนหน้านี้นางได้แอบตรวจสอบสภาพร่างกายของหลิงเหอและคนอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาก็แข็งแกร่งจนคนธรรมดาไม่อาจเทียบเคียง แต่ร่างกายของพวกเขามีสิ่งสกปรกมากเกินไป.ส่งผลให้การก้าวหน้าของการเป็นนักรบนั้นตีบตันจนแทบหมดหนทางก้าวเดิน
แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้รับโชคชะตาที่จะกลายเป็นเซียนอมตะในชีวิตนี้ และมีร่างกายที่เส้นปราณตีบตันจนไร้ทางฝึกฝน แต่เพราะพวกเขาเป็นคนของเทพปรุงยาอย่างนางไม่มีโอสถชนิดไหนใน โลกนี้ที่นางไม่สามารถปรุงมันขึ้นมาได้ ดังนั้นนางตัดสินแล้วว่าจะให้หลิงเหอและพรรคขึ้นมายืนบทเส้นทางของผู้แข็งแกร่งให้ได้!
ดังนั้นเมื่อนางตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว นางก็หยิบโอสถของหลิงเหอและพรรคพวกขึ้นมาดูแล้วเตรียมผสมใหม่ปรับปรุงอีกรอบอย่างพิถีพิถัน
ในระหว่างที่จี้เฟิงเยี่ยนกําลังปรุงยานั้น ฝั่งหลิงเหอและบรรดาลูกน้องต่างนั่งจับเข่าพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด พวกเขาถอนหายใจ ด้วยความสิ้นหวัง พวกเขานั้นล้มเหลวไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้จี้ เฟิงเยี่ยนเลือกสัตว์รบใหม่ อีกทั้งนางยังยืนกรานที่จะเอากวางน้อยมาเป็นสัตว์รบอีก!! พวกเขารู้ว่าจี้เฟิงเยี่ยนนั้นเก่งและมีทักษะปรุงยาระดับสูง ทว่าเพียงเท่านั้นนางจะเอาตัวรอดในสนามรบได้ยังไงกัน? ดังนั้นจี้เฟิงเยี่ยนที่กําลังปรุงยานี้ นางไม่รู้เลยว่าหลิงเหอและคนอื่นๆ กังวลมากจนพวกเขาเกือบจะเข้าไปในปาเพื่อจับสัตว์รบที่แข็งแกร่งมาให้นางแทนเจ้ากวางแล้ว!!
ความเร็วของจี้เฟิงเยี่ยนในการปรุงโอสถนั้นรวดเร็วมาก ยิ่งไปกว่านั้น..หลังจากตันเถียนภายในร่างกายของนางเริ่มฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจากการใช้พลังงานทางจิตวิญญาณจากแร่หิน คุณภาพโอสถก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน
หลังจากปรับแต่งโอสถให้มีคถณสมบัติตามที่ต้องการแล้ว นางก็แจกจ่ายให้หลิงเหอและพรรคพวกที่เหลือจํานวนคนละขวด และสั่งให้พวกเขากินยาทุกวัน นอกจากนี้นางยังสอนการทําสมาธิขั้นพื้นฐานให้พวกเขาและเตือนพวกเขาหลายครั้งให้ทําตามคําแนะนําของนางทุกวัน
ในขณะที่หลิงเหอและคนอื่นๆ รวมตัวกันนั่งไขว่ห้างอยู่หน้าประตูห้องของจี้เฟิงเยี่ยน พวกเขากําลังฟังคําสั่งอันยืดยาวของนางอย่างจํายอม
สมองของพวกเขาก็ราวกับว่ามีทหารนับพันและม้าหมื่นตัววิ่งผ่านไป! [แปลว่า “เอ๋อแดกนั่นเอง]
พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ขี้เฟิงเยี่ยนพูด! แค่นั่งขัดสมาธิแบบนี้…หลับตา…พักกินยาแล้วมันจะมีอะไรเปลี่ยนไปหรือ? อย่างไรก็ตาม เฟิงเยี่ยนยืนกรานให้พวกเขาทําตามอย่างเคร่งครัด ดังนั้นหลิงและคนอื่นๆ จึงได้แต่พยักหน้าและทําตามคําสั่งให้ได้ก็เท่านั้น