SPH:บทที่ 32 ดอกเดียวตัดสิน
“ฉินอูฟ่า มาทำอะไรที่นี่เนี่ย!”
ฮันเสวี่ยมองไปยังชายหนุ่มแล้วแล้วพูดด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ฉินอูฟ่าปล่อยสาวสวยที่อยู่ในอ้อมแขนแล้วหยิบธนบัตรออกมาสองสามใบ จากนั้นก็ยัดใส่หน้าอกของหญิงสาว
“เธอไปได้แล้ว!”
เขาพูดกับหล่อน
สายตาของหญิงสาวที่มีความสุขในตอนแรกแต่หลังจากนั้นหล่อนก็เข้าไปยืนใกล้ติดกับฉินอูฟ่า
แล้วบิดตัวไปมาและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มว่า
“เป็นไปไม่ได้ คุณไม่ได้พูดหรอว่าจะอยู่กับฉันคืนนี้?”
ฉินอูฟ่าผลักหล่อนไปด้านข้าง แล้วจัดเสื้อผ้าหล่อนและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสว่า
“อย่าให้ต้องพูดเป็นครั้งที่สองนะ!”
หญิงสาวคนนั้นตกตะลึง หล่อนหันไปมองฉินอูฟ่าด้วยสายตาที่เยือกเย็น ร่างบอบางของหล่อนสั่นเทาขณะหันกลับและเดินจากไป
เมื่อเห็นหญิงสาวเดินจากไป ฉินอูฟ่าก็หันกลับมามองฮันเสวี่ยหัวเราะเบาๆ
“ลุงฮันบอกว่าเธอจะออกมา เกรงว่าเธอจะไม่ปลอดภัย เขาเลยส่งฉันมาดูแลเธอโดยเฉพาะ”
“ฉันไม่ต้องการ ฉันมากับเพื่อนของฉันแล้ว”
ฮันเสวี่ยจับมือของเย่หยูแล้วพูดกับฉินอูฟ่า
ฉินอูฟ่ามองไปยังมือของเย่หยูและฮันเสวี่ยที่ประสานกัน ด้วยสายตาที่เย็นชาและมองเย่หยูอย่างรังเกียจ
“เสี่ยวเสวี่ย ฉันบอกเธอแล้วไงว่าอย่าอยู่กับคนที่ไม่มีใครสนใจแบบนี้!”
“ฉินอูฟ่า โปรดให้เกียรติด้วย เขาเป็นแฟนของฉัน!”
ฮันเสวี่ยร้องออกมาอย่างเคร่งเครียดเมื่อเธอได้ยินเขาพูดแบบนั้น
ในขณะเดียวกัน เย่หยูรู้สึกได้ว่าร่างกายอันบอบบางของฮันเสวี่ยสั่นเทาในขณะที่เธอจับมือเขา
แน่น
“เฮ้! แฟน?”
ฉินอูฟ่าหรี่ตามองเย่หยูแล้วเดาเขา
“หน้าตาอย่างกะยาจก ฉันกลัวว่าแม้กระทั่งรองเท้าสักคู่คงยังซื้อให้เธอไม่ได้เลย!”
แววตาของฉินอูฟ่าประกายขณะเขาพูดต่อ
“ยิ่งไปกว่านั้น ลุงฮันก็บอกเธอก่อนหน้านี้แล้วด้วยว่าห้ามมีความรัก!”
“นี่มันเรื่องครอบครัวของฉัน มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณ! โปรดออกไปแล้วอย่าทำให้พวกเราอารมณ์เสีย!”
ฮันเสวี่ยจับมือเย่หยูแน่น ราวกับว่าเธอกลัวเย่หยูหนีไป ถึงแม้ว่าเย่ยหูไม่รู้ว่าทำไมพ่อของฮันเสวี่ยถึงไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์นี้ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาถาม
เย่หยูจับมือฮันเสวี่ย มองไปยังฉินอูฟ่าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสงบ
“ได้โปรดหลีกทางด้วย คุณกำลังขวางทางที่จะรับรางวัล”
ความโกรธในใจของฉินอูฟ่าและด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกพูดกับเย่หยูด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ไอ้เลวเอ้ย! ปล่อยมืออกจากฮันเสวี่ยซะ! แกมีค่ามากพอที่จะเป็นแฟนฮันเสวี่ยงั้นหรอ!?”
เย่หยูจ้องไปยังฉินอูฟ่าที่กำลังโกรธจัดแต่เขากลับแสดงอาการเฉยเมยเหมือนก่อนหน้านี้
“ความรักระหว่างฮันเสวี่ยและฉันมันทำให้พวกเราได้รับอิสระ นายมี่สิทธิ์เข้ามาจุ้นจ้าน!”
“ฮ่าฮ่า…”
ฉินอูฟ่าหัวเราะเสียงดัง สายตาเขาจ้องไปยังหน้าเย่หยูที่กลายเป็นไม่แยแส
“เด็กเหลือขอ แกกล้ามากนะ! เอาหละ แกไม่อยากได้กระต่ายนั้นไปให้ฮันเสวี่ยแล้วหรอ? มาแข่งกัน ถ้าแกแพ้ ก็ใส่หัวไปซะ!”
เนื่องจากมีการทะเลาะระหว่างเย่หยูกับอีกทั้งสองคน ตอนนี้มีผู้คนรอบๆมารวมตัวกันดูพวกเขา
เมื่อเห็นเย่หยูและฉินอูฟ่ายังไม่ได้แข่งกัน พวกเขาก็เปิดทางให้
เมื่อเห็นทั้งสามคนอยู่บนเวที ผู้คยรอบๆต่างจับจ้องไปยังบทสนทนาและเดากันว่าใครจะเป็นที่รับรางวัล
เจ้าของแผงอยู่สวนสนุกมาเป็นเวลานาน มีสองสามคนที่พยายามจะทำให้สำเร็จ แต่ไม่เคยมีใครชนะจนได้กระต่ายเป็นรางวัลสักครั้ง
“เฮ้ คิดว่าเขาจะทำได้ไหม?”
บางคนในฝูงชนกระซิบ
“ฉันคิดว่าพวกเขาทั้งสองคนค่อนข้างดีทีเดียว เจ้าของแผงลอยบนถนนเป็นพวกเศษสวะ วงกลมนั้นมันเล็กเกิน ยากที่จะปาโดน!”
หนึ่งในพวกเขาส่ายหัวแล้วถอนหายใจขณะมองไปยังวงกลมเล็กๆบนกระดานไม้
“ฉันอยากพูดอะไรบางอย่าง!”
“ชายคนนั้นรวย เขาดีสำหรับฉัน!”
“ใช่แล้ว ถึงแม้เย่หยูอะไรนั้นจะหล่อมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ใช่คนดีที่เหมาะที่จะกิน ถ้าให้เลือกฉันจะเลือกฉินอูฟ่า”
หญิงสาวที่แต่งหน้าจัดมองไปยังฉินอูฟ่าราวกับว่าเธอจะไล่ตามเขา
ท่ามกลางการสนทนาของผู้คน ฉินอูฟ่าเป็นคนแรกที่มาหน้าบูธ เขาหยิบลูกดอกขึ้นมาแล้วปามัน
ไปยังกระดานไม้
“เดี๋ยว!”
เย่หยพูดออกไปเพื่อหยุดการปาลูกดอกของฉินอูฟ่า
ฉินอูฟ่าปาลูกดอกทิ้งแล้วหันกลับมามองเย่หยูอย่างเย้ยหยัน
“แกกลัว แกอยากจะกลับคำหรอ? ฉันจะให้โอกาสแกยอมแพ้! ปล่อยฮันเสวี่ยซะ!”
เย่หยูเมินเฉยต่อฉินอูฟ่า เขาชี้ไปยังกระดานไม้ข้างหลังฉินอูฟ่าแล้วพูดกับเจ้าของแผงว่า
“บอส ผมมีเรื่องลำบากให้คุณเลื่อนกระดานไม้ออกไปข้างหลังสัก 10 เมตรหน่อย ไม่อย่างนั้นมันจะง่ายเกินไป!”
เจ้าของแผงเบลอสักพัก ก่อนที่จะถามเย่หยู
“10 เมตร?”
เย่หยูพนักหน้าไปทางเขา โบกมือเพื่อบอกให้เขาย้าย
ผู้ชมที่อยู่รอบๆต่างมองไปยังเย่หยูที่แสดงอาการไม่แยแสอะไรด้วยสายตาแปลกพิกล
“ว้าว เพิ่มเป็น 10 เมตร ฉันไม่สามารถมองเห็นวงกลมนั้นชัดได้เลย แล้วจะปายังไงหละ?”
“การขู่นี้ยิ่งใหญ่มากพอ มาดูกันว่าตอนจบจะเป็นยังไง ฉันหวังว่าเขาจะไม่ล้มอยู่หลังกระดานหรอกนะ!”
“ฉันคิดว่าเขาแสร้งทำ นั้นเป็นความคิดที่อยู่ในหัวเมื่อเขาไม่สามารถเทียบกับเธอได้”
เมื่อได้ยินบทสนทนาของผู้คน มุมปากของฉินอูฟ่าก็ยกขึ้นและมองไปยังเย่หยู
“ฉันนับถือแกนิดๆวะ แกอยากจะใช้วิธีนี้เพื่อเอาชนะฉันหรอ? มันเด็กเกินไปวะ! ไม่ว่าแกจะอยู่ไกลแค่ไหนแกก็แพ้แน่ๆอยู่ดี!”
หลังจากที่เจ้าของแผงจัดเรียงไม้กระดานใหม่เสร็จ วงกลมที่อยู่บนแผ่นไม้ไกลออกไปมองเห็นได้ไม่ชัด
ยิ่งไปกว่านั้น วงกลมเล็กนั้นไม่ได้อยู่ตรงกลางบนกระดานไม้จริงๆ ดังนั้นไม่ว่าปาไปโดนหรือไม่โดนวงกลมก็คงขึ้นอยู่กับโชคแล้วหละ
“มันไกลขนาดนั้น? มันคงขึ้นอยู่กับโชคแล้วหละ วัยรุ่นอย่างพวกเธอนี้มีแต่ไอเดียดีๆ”
“ฮ่าฮ่า ลูกดอกพวกนี้ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ พวกมันเบามาก ต่อให้มีระยะไกล ฉันเกรงว่ามันจะบิน
ไปไม่ถึงนะสิ!”
“ดูสิว่าฉินอูฟ่าจะใจเย็นได้แค่ไหนกัน ฉันเกรงว่าเขาจะปาไปโดนวงกลมจริงๆ ส่วนคนที่ชื่อเย่หยูแน่นอนว่าปาไม่โดนหรอก”
ฉินอูฟ่าเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า เขาดูท่าทางมั่นใจ
เมื่อมองกระดานไม้ที่อยู่ห่างออกไป ตาของฉินอูฟ่าก็หรี่ลง ไม่นานหลังจากนั้น เขาสะบัดข้อมือ
ลูกดอกเปลี่ยนเป็นเส้นสีดำขณะพุ่งไปข้างหน้ากระดาน
เฟี้ยว!เฟี้ยว!
ลูกดอกปักอยู่ในกระดานไม้
“ว้าว พวกมันติดอยู่บนไม้นั้นแล้วหรอ?”
“ไปดูกันว่ามันปักโดนวงกลมรึเปล่า”
พวกสอดรู้สอดเห็นบางคนวิ่งเข้าไปใกล้เพื่อที่จะมองแล้วก็ตะโกนเสียงดัง
“มันทรงพลังมาก มันปาโดนจริงๆ!”
ทุกคนมองไปรอบๆและก็เห็นพวกลูกดอกปักแน่นตรงที่วงกลมที่เล็กที่สุด
ถึงแม้ว่ามันจะใกล้ออกจากวงกลมก็เถอะ ด้วยระยะที่ไกลขนาดนี้ มันสมบูรณ์แบบ!
ฉินอูฟ่ามองเย่หยูด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ
“ตาแก!”
เย่หยูเดินไปด้านข้างฉินอูฟ่า หยิบลูกดอกขึ้นมาและโยนมันลงพื้น เขามองฉินอูฟ่าแล้วหัวเราะ
“นายคิดว่านายจะชนะจริงๆหรอ?”
ฉินอูฟ่ากอดอก มองไปยังเย่หยูแล้วเยาะเย้ย
“อวดดี! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะทำได้ดีกว่าฉัน”
เย่หยูตาเป็นประกาย เพราะเหตุการณ์นี้ ดังนั้นเขาจะจับตาดูพวกมัน!
แว่นตาอันเดียวกันกับโคนัน เปิดใช้งานโหมดมองระยะไกล ตอนนี้กระดานไม้ที่อยู่ห่างออกไปดูเหมือนจะอยู่ต่อหน้าต่อหน้าเขาจังๆ
ผู้แปล: มิสเตอร์ วอลแตร์
“ลูกดอกพลาสติก 25 กรัม จุดศูนย์ถ่วงอยู่ข้างหน้า หางเอียง 5 ° ความช้นในอากาศ 30%ความเร็วลม 4 เมตรต่อวินาที… “
ข้อมูลส่วนประกอบของสิ่งของขึ้นมาในหัวของเย่หยูทันที เย่หยูรู้ว่าเขาต้องชนะ!
เฟี้ยว!
ลูกดอกนำสายตาของทุกคนขณะที่มันลอยพุงเป็นเส้นตรง ในที่สุดมันก็ปักอยู่ข้างๆลูกดอกของ
ฉินอูฟ่า
ฉับ!
ขนนกที่อยู่ที่ปลายหางลูกดอกสั่นก่อนที่มันจะปักลงไปในกระดานไม้ในที่สุด
ฉินอูฟ่าลดแขนลงและจ้องเขม็งไปยังกระดานไม้ขณะพึมพำ
“มันเป็นไปได้ยังไง?!”
ผู้คนต่างรวมตัวกันรอบๆเนื่องด้วยอยากรู้ผลลัพธ์เต็มประดา
เมื่อมองลูกดอกที่ต่างติดแน่นทั้งคู่ เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ
“โอ้พระเจ้า! มันปักอยู่กลางเป้าตรงๆเลย!”
“แม่นอะไรขนาดนี้ เขาทำมันได้ยังไง มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“แต่พวกเขาก็ปาโดนทั้งคู่นะ แล้วใครจะชนะหละ?”
“ดูสิ! ลูกดอกนี้กำลังจะหล่น!”
ท่ามกลางเสียงร้องที่ตกใจของทุกคน ลูกดอกของฉินอูฟ่าสั่นอยู่สองครั้งก่อนที่จะตกลงพื้นทันทีลูกดอกของเย่หยู ยังคงปักตรงบนกระดานไม้! มันชัดเจนแล้วว่าใครคือผู้ชนะใครคือผู้แพ้!