SPH:บทที่ 4 เรียกฉันว่า คิง
เขาเดินออกจากห้อง เย่หยูรู้สึกว่าโลกทั้งใบเปลี่ยนแปลงไป หูของเขาได้ยินชัดเจนขึ้นและดวงตาของเขาก็ชัดเจนขึ้น
เย่หยูเงยหัวและมองไปที่ที่ห่างไกล
“หญิงกลางคน สูง1.6 เมตร หนักประมาณ 206 จิน รูปคิ้วที่ยกขึ้น 80% ที่มีโอกาสที่จะตายในฤดูใบไม้ผลิ หน้าผากดำคล้ำซึ่งเขาคิดว่าเกี่ยวกับเลือด! “
นี้คือเพื่อนบ้านของเย่หยู ป้าหลิว อย่างไรก็ตาม เธอดูถูกเย่หยูเสมอและมักจะมีข้อกังขาเกี่ยวกับเขามากมายที่เขาได้ไปโรงเรียนที่มีชื่อเสียง
ป้าหลิวมองที่เย่หยูและนึกถึงลูกของเธอที่เรียนโรงเรียนมัธยมของบ้านเธอ เธอจึงเริ่มจะอิจฉา
“โอ!” นั่นเสี่ยวหยูใช่ไหม! เขาได้ไปโรงเรียนที่มีชื่อทั้งที่ไม่มีเงิน ใจของเขาสูงกว่าสวรรค์แต่ชีวิตของเขาเบาบางยิ่งกว่ากระดาษ แล้วยังไงละถ้าเขาได้ไปโรงเรียนที่มีชื่อเสียง?”
“เขาไม่ได้ตกต่ำตลอดไปใช่ไหม!”
ถ้ามันเป็นอย่างนั้น เย่หยูอาจจะเงียบและเดินไปพร้อมกับก้มหัวอยู่ตลอดเวลา
แต่ตอนนี้!
เย่หยูเงยหัวของเขาและเหลียวมองป้าหลิว “มันคืออิสระของฉันที่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนไหนก็ได้!” ใจของป้ากำลังคิดเกี่ยวกับเงินและไม่อยากให้ลูกของคุณเข้าเรียนโรงเรียนที่ดี นั่นก็เป็นเรื่องของคุณ อย่าพูดถึงคนอื่นไม่ดีแบบนี้อีก! “
ป้าหลิว ตะลึงในชั่วครู่ เธอไม่คิดว่าเย่หยูจะพูดกับเธอตรงๆเช่นนี้
“แก!” แก, แกไอ้คนไร้การศึกษา! แกพูดแบบนั้นได้อย่างไร!” ป้าหลิวโกรธจนตัวสั่น
“ใครคือคนที่ไร้มารยาท? ใครกันแน่ที่พูดถึงตัวเขาทั้งแง่ที่ถูกและที่ผิด? ป้าหลิว หรือคุณยังไม่กระจ่างอีกหรือ? “หลังจากเย่หยูพูดเช่นนั้น
เขาไม่สนใจป้าหลิวหันหลังกลับและจากไป
ป้าหลิวตกตะลึงในคำถามของเย่หยู และรู้สึกตัวในเวลาไม่นาน
“เด็กยากไร้ที่ชายชรา เย่ ไม่สั่งสอน!” หืมม ! เขาอาจถูกสั่งสอนในสักวันนึง ฉันบอกแล้วว่าเราไม่ควรพามันมา ไร้การศึกษาหรอ! แถมมันยังได้ไปโรงเรียนที่ดี แกไม่กลัวมันจะเนรคุณแกหรอ! “
ป้าหลิวโกรธมาก แต่เย่หยูเดินจากไปแล้วและทำได้เพียงแค่พูดพึมพำภายใต้ลมหายใจของเธอ อย่างไรก็ตามเธอไม่รู้ว่าเย่หยูได้ยินเสียงเธอได้จากระยะไกล
“ป้าหลิว” เย่หยูหมุนกลับมาและตะโกนใส่ป้าหลิว
“อ๊ะ!” แกต้องการอะไร? ฉันไม่ได้พูดอะไรนะ”
ป้าหลิวไม่กล้าสบตา แต่เธอแน่ใจว่าเย่หยูไม่ได้ยินแน่ๆ ดังนั้นเขายังดูใจเย็นอยู่มาก
เมื่อมองที่ป้าหลิว มุมปากของเย่หยูมีรอยยิ้มที่เย็นชา “คืนก่อน ฉันเห็นลุงหวังและผู้หญิงคนหนึ่งไปที่โรงแรม”
“เป็นไปไม่ได้!” อาการของป้าหลิวเปลี่ยน ปากของเธอดูเหมือนพูดช้าๆซ้ำๆ แต่ในใจเธอคิด “สามีของฉันไปทำงานอาทิตย์นี้นี่? ทำไมเย่หยูถึงเห็นเขาได้?
เห็นอาการของป้าหลิวโกรธ รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่หยูก็กว้างขึ้น
“ป้าหลิว อย่ากังวล บางทีลุงหวังไปทำงานเกี่ยวกับงานเล็กๆในโรงแรมก็ได้”
ใบหน้าของป้าหลิวได้เข้มขึ้น เธอทำผมทรงประหลาดอยู่แล้ว !ตอนนี้ยังดดนสวมหมวกเขียวอีก!
“โอ๊ะ ใช่ “ เย่หยูมองที่ป้าหลิวและพูดต่อว่า “ป้าหลิว มันจะดีถ้าคุณไม่ออกไปข้างนอกวันนี้ ถ้าคุณลงจากรถให้ระวังเลือดตกยางออก ”
“ไอ้เด็กเวร! แกพูดมาได้อย่างไร เรียนรู้แต่สิ่งไม่ดี เรียนรู้เป็นผู้วิศษ แกนั้นแหละคือคนที่กำลังทุกทรมานจากเหตุนองเลือด! ” เมื่อได้ยินป้าหลิวลุกขึ้นจากที่นั่นทันทีและด่าเขา เย่หยู เยาะเย้น “ฮ่า ฮ่า หากคุณเดินไม่ระวัง คุณอาจจะล้มและหัวแตกก็ได้นะครับ”
ป้าหลิวโกรธมาก เธอหันหลังและออกไป แต่เธอบังเอิญเธอเดินไปเหยียบเปลือกกล้วย
โป๊ก ! “อ๊าส์!” ช่วยด้วย เลือด!
เย่หยู ผิวปากในขณะที่เขาเดินตามถนนไปโรงเรียน รู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ หัวใจของป้าหลิวแคบเกินไป และปากของเธอก็ไม่ดี และเธอทนไม่ได้ที่จะเห็นใครดีกว่า เธอไม่เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากและเคยแอบเยาะเย้ยเย่หยูแค่เปลือกนอก
ในตอนแรก เย่หยูแอบคิดในใจของเขา แต่ตั้งแต่เขาได้ระบบมา เย่หยูรู้สึกว่าเขาได้ปลดปล่อยตัวเองได้บ้างแล้ว
นอกจากนี้ การคำนวณที่แม่นยำมีความสามารถในการคำนวณเรื่องต่างๆด้วย
“สวบ สวบ สวบ….”
เขาเดินไปบนถนน เสียงร้องไห้ของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั้นทำให้เย่หยูสนใจ
เด็กผู้หญิงตัวเล็กอายุประมาณ เจ็ดถึงแปดขวบสวมชุดกระโปรงสีขาวกำลังนั่งอยู่ข้างถนน หัวของเธอก้มจนชิดหน้าอกขณะที่ร้องไห้
เย่หยูไม่เห็นผู้ปกครองอยู่ข้างๆเด็กหญิง บางทีเธออาจจะหลงทาง?
เย่หยูก้มลงข้างๆเด็กผู้หญิงและถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เด็กน้อย เป็นอะไรไป? หาพ่อแม่ไม่เจอหรือ?
ได้ยินคำถามของเย่หยูเช่นนั้น เด็กผู้หญิงหยุดร้องไห้และยกหัวของเธอขึ้น อาการสะอึกสะอื่น ใบหน้าของหล่อนขาวอมแดง และตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ปากอมแดงอยู่ใต้จมูกน้อยๆ ช่างเป็นเด็กตัวน้อยที่น่ารัก
“ฮือ มันคือสุนัข มันกำลอยขึ้นไป”
สุนัขกำลังลอยขึ้นไปงั้นหรือ? เย่หยูอยากถามเด็กตัวเล็ก คุณไม่ได้ใช่ใบพัดใช่ไหม?
“ใช่ มันกำลังลอยขึ้น! ” เด็กหญิงตัวน้อยยืดแขนของเธอและชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ข้างถนน
เย่หยูมองตามนิ้วของเด็กหญิงและหัวเราะในทันที
ข้างๆต้นไม่ใหญ่ มีลูกโป่งไฮโดรเจนสามหรือสี่ใบโดยลูกสัตว์ตัวเล็กๆลอยอยู่ สุนัขสีขาวขนาดเท่าฝ่ามือถูกผูกติดกับด้านล่างของลูกโป่ง
สุนัขตัวเล็กสีขาวซึ่งเกิดได้ไม่นานดูเหมือนจะกลัวความสูง ดวงตาสีดำสนิทดูไร้เดียงสาทั้งสองข้าง ขณะที่มันอยู่ปะปนกับลูกโป่ง
‘อวู้’
“ถังถังกลัวที่จะทำสุนัขหาย ดังนั้นหนูจึงผูกมันไว้กับลูกโป่งและทำให้สุนัขลอยจากไป” ขณะที่เธอบอก เด็กผู้หญิงตัวเล็กก็ร้องไห้อีกครั้ง
เห็นถังถังที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เย่หยูมีสติดีแต่สุนัขอยู่สูงถึง สี่ถึงห้าเมตร เขาไม่อาจจะเอื้อมถึงได้
ฮืม? จริงสิ ตาของเย่หยูเป็นประกาย คงต้องใช้เทคนิคไพ่บิน?
“เด็กน้อย หนูดูพี่ใช้ไพ่โป๊กเกอร์เล่นมายากลให้หนูดูนะ? เย่หยูหยิบไพ่โป๊กเกอร์ออกมาจากกระเป๋า แกว่งไปมาต่อหน้าถังถัง
“ตราบเท่าที่ถังถังปิดตาและนับหนึ่งถึงห้า พี่จะเปลี่ยนไพ่โป๊กเกอร์นี้เป็นสุนัข!”
“อืม!” เด็กหญิงพยักหน้า ปิดตาของเธออย่างเชื่อฟังและเริ่มนับ
เย่หยูยืนขึ้น ไพ่โป๊กเกอร์อยู่ระหว่างนิ้วของเขาขณะที่เขามองไปยังลูกโป่งไฮโดรเจนที่ลอยอยู่
กระแสข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาในใจของเขา
“ความสูง 4.21 เมตร กำลังลม 2.3 เมตรต่อวินาที ค่าความชื้น70% ทำมุม 30 °…”
ในเสี้ยววินาทีนั้นด้วยการคำนวณที่ยอดเยี่ยมของเขา เย่หยูจึงเข้าใจในทุกสถานกาณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันที
แค่สะบัดด้วยข้อมือเบาๆ นิ้วมือของเขาได้ส่งไพ่โป๊กเกอร์ออกไปและได้กลายเป็น ภาพที่น่าติดตาขณะที่มันปลิวออกไป
เฟี้ยว!
ไพ่โป๊กเกอร์ปลิวออกและตัดเชือกที่พันตัวสุนัขตัวเล็กสีขาวไว้ หลังจากนั้น วัตถุนั้นเสียศูนย์ในขณะที่กำลังลอยอยู่และทำให้สุนัขตัวเล็กสีขาวหล่นลงมา
เย่หยูอุ้มสุนัขตัวเล็กที่ตกลงมาด้วยไพ่โป๊กเกอร์ เสียงตะโกนดังกึกก้องในใจว่า “สำเร็จ!” ความแม่นยำและความแข็งแกร่งนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง! “
“สี่สิบ ห้าสิบ ถังถังเปิดตาขึ้น และเห็นสุนัขตัวเล็กสีขาวอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ถังถังมาดูเร็วนี่ลูกสุนัขของเธออยู่ตรงนี้!” เย่หยู่ยื่นสุนัขตัวเล็กสีขาวให้กับถังถัง
ถังถังที่ตอนแรกเห็นสุนัขตัวเล็กสีขาวด้วยความงุนงน และจ้องมองไปที่ลูกโป่งที่ลอยอยู่,ตบมือด้วยความดีใจและกระโดดโลดเต้น “ว๊า พี่ใหญ่เยี่ยมจริงๆ ! จากไพ่โป๊กเกอร์กลายเป็นกลายเป็นสุนัขได้
เย่หยูมองเด็กหญิงที่มีความสุข ลูบผมสีดำของเธอ “ไพ่โป๊กเกอร์นี้เป็นของหนูนะ ถังถังและพาสุนัขนี้กลับไปหาครอบครัวของหนูเร็วเข้า!”
“ตายหล่ะ !” แย่แน่ๆ!” ถังถังพูดตะกุกตะกัก “ถังถังหลงกับคุณป้า!”
“ถังถังหนูอยู่ที่ไหน?” มีเสียงร้องไห้ด้วยความกังวลดังมาจากสี่แยก
“คุณป้า !” หนูอยู่นี่!” ถังถังทักหญิงสาวที่สวมกระโปรงยาวเรียบง่ายและมีรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสวยงาม
“ถังถัง ป้ากลัวจะแย่อยู่แล้ว !” สตรีคนนั้นรีบเข้ามาสวมกอดถังถัง “
“ป้าคะ พี่ชายช่วยถังถังหา เจ้าขาวน้อย !” ถังถังเดินย่อเข้าไปในอ้อมแขนของผู้หญิงขณะที่เธอพูดกับเธอ
แม้ว่าเด็กหญิงตัวเล็กจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอบอกได้เลยว่า ถังถังชอบเย่หยูมาและรู้ว่าเขาไม่ใช่คนเลว
“ขอบคุณมากนะจ๊ะ ฉันทำให้เธอลำบาก !” ผู้หญิงคนนั้นโค้งคำนับเล็กน้อย ด้วยเสียงที่นุ่มและใบหน้าที่สง่างาม หล่อนดูเหมือนคนที่อยู่ในภาพวาด
“ไม่เป็นไรครับ ผมชอบถังถังมากเช่นกัน” เย่หยูมือขึ้นดูเวลา คิดในใจว่า แย่แล้ว
“สายมากแล้ว มันใกล้ถึงเวลาเริ่มเรียนแล้วนะ ถังถัง พี่จะต้องรีบไปแล้ว” หลังจากกล่าวเช่นนั้น เย่หยูหมุนตัวและวิ่งไปยังทิศทางของโรงเรียน
“พี่ชาย พี่ชื่ออะไร?” ถังถังตะโกนถามตามหลังเย่หยู
“เรียกพี่กว่า คิง ” เย่หยูชี้ทีไพ่โป๊กเกอร์ที่อยู่ในมือของถังถัง
ถังถังหยิบไพ่โป๊กเกอร์ มันเป็นพยัญชนะ เค พอดี เธอโบกมือให้หลังเย่หยู เก็บไพ่โป๊กเกอร์ไว้ด้วยความหวงแหน
“ถังถัง ต่อไปหนูจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนด้วยตัวเองอีก มีสัตว์ประหลาดคอยจะจับเด็กหญิงตัวเล็กๆ เข้าใจไหม?
เห็นเย่หยูเดินออกไปไกล ผู้หญิงที่อ่อนโยนและสง่างามนั่งอยู่ตรงหน้าถังถัง และพูดว่า
“อืม ! เข้าใจแล้วคะคุณป้า”