SPH:บทที่ 9 ท่ากายกรรม 36 ท่า
โอวหยางหยูมีความสุขมากเมื่อเขาเห็นเย่หยูโกรธชายรอยสักงูเพราะเขารู้ว่าชายรอยสักงูนั้นมาจากไหน เขาไม่ใช่คนทั่วไป เขาเป็นหนึ่งในลูกน้องของเฉียนฮู และ เฉียนฮู คือนายที่ไม่เปิดเผยตัวของเมืองหมิงซู
“แกลองดูได้!” เย่หยูมองที่ชายรอยสักงูอย่างใจเย็น ไม่แสดงความกลัวแม้แต่น้อย
ชายรอยสักงูรู้สึกประหลาดใจที่เย่หยูยังใจเย็นอยู่ มีแค่สองเหตุผลทำไมนักเรียนทั่วไปจะใจเย็นได้เช่นนี้ คือหนึ่งเขาอาจเป็นคนใจร้อน สองเขามีบางอย่างที่สามารถพึ่งได้
และชายรอยสักงูในฐานะนักวางแผนเก่าแก่ของเมืองที่แสนวุ่นวาย จะสืบสาวราวเรื่องแน่นอนก่อนหากเขาไม่มั่นใจ
“แกทุกคน ไป!” ตามคำสั่งของชายรอยสักงู ลูกน้องสามคนที่เขานำมาวิ่งตรงไปยังเย่หยูที่ตั้งหมัดโยกไปมา
ปึง!ปึง!ปึง!
ในเสี้ยววินาที นักเลงทั้งสามได้ลอยออกมาขณะที่พวกเขากุมท้องและตกลงยังพื้นจนเกือบจะอาเจียน
เทียบกับร่างกายที่เปลี่ยนแปลงของเย่หยู ความแข็งแกร่งและความเร็วของเขานั้นสูงกว่ามนุษย์โดยเฉลี่ยถึงสามเท่า
ในสายตาของเย่หยู การเคลื่อนไหวของอันธพาลทั้งสามนี้ไม่แตกต่างจากการเคลื่อนไหวเชื่องช้า
ด้วยความพร้อมของร่างกาย เย่หยูไม่ต้องอุ่นเครื่องเพื่อที่จะจัดการกับทั้งสามคน
“โอวหยางหยู นี้คือคนที่แกเชิญมาหรอ? ฉันต้องบอกว่า อ่อนมาก! “
เย่หยูไม่แม้แต่จะมองอันธพาลซึ่งยังไม่ฟื้น และเดินตรงไปยังโอวหยางหยู
โอวหยางหยูตอนแรกก็ภูมิใจในตัวเอง แต่เมื่อเขาเห็นนักเลงสามคนนอนที่พื้น เขาตกตะลึง
ณ ตอนนี้เย่หยูอยู่ใกล้เขามากพอ อาการของโอวหยางหยูเปลี่ยนทันที เขาถอยหลังอย่างเร็ว “เย่ เย่ เย่ ฉันไม่คิดว่าเรามีความเข้าใจผิดกันใช่ไหม?”
เย่หยูมองที่ใบหน้าของโอวหยางหยูที่แสดงความกลัวออกมาและหัวเราะเบาะๆว่า “เข้าใจผิดหรอ? แกไม่ได้บอกว่าฉันแย่งแฟนแกหรอ?”
“จะเป็นได้อย่างไรหล่ะ? นายกับฮันเสวี่ยเหมือนคู่สร้างจากสวรรค์ ฉันปรารถนาดีกับคุณทั้งสอง”
โอวหยางหยูเกือบคุกเข่าลงด้วยความตกใจเมื่อเขาเห็น เย่หยูก้าวเข้ามาทีละก้าวด้วยรัศมีของแสงที่คมชัดรอบๆตัวเขา นักเลงทั้งสามยังคงนอนอยู่ที่พื้น กำท้องแน่นและร้องโหยหวย โอวหยางหยูไม่อยากนอนติดเตียงนานๆ
“ฉันอยากพูดว่านายน้อยโอวหยางหยู ทำไมคุณพูดว่าเมืองหมิงซูนี้เป็นสถานที่ๆยิ่งใหญ่ล่ะ? ทำไมช่างน่าอายเช่นนี้?” น้ำเสียงเหลาะแหละของชายรอยสักงูดั่งขึ้นในหูของเย่หยู
ชายรอยสักงูหรอ? โอวหยางหยูเริ่มมีหวัง “พี่สามารถจัดการกับเย่หยูได้หรอ?”
“เฮเฮ ฉันต้องพูดว่า ร่างกายแกดีอย่างไม่น่าเชื่อ ดีกว่าคนทั่วไป แต่แกไม่เคยฝึกศิลปะป้องกันตัวมาก่อนนี่!” ชายรอยสักงูพูดกับโอวหยางหยูขณะหรี่ตาและมองที่เย่หยู
“พี่สามารถเอาชนะมันได้ไหม?” โอวหยางหยูที่ยื่นข้างชายรอยสักงูถามด้วยน้ำเสียงยินดี
“เฮเฮ! คนธรรมดาที่มีรูปร่างดีเช่นนี้จะแข็งแกร่งกว่าฉันได้อย่างไร ไม่มีว่าอะไรก็ตาม ฉันเป็นนักรบในสังเวียน! “
ชายรอยสักงูเงยหัวขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและเขาดูภูมิใจมาก
“ฮ่าฮ่า ! พี่ดูทรงพลัง! ด้วยคำของพี่ ฉันก็โล่งใจ! “
โอวหยางหยูเงยหัวขึ้นอีกครั้งและมองที่เย่หยูด้วยความดูถูก “เย่หยู เห็นแกว่าอยู่ในระดับเดียวกัน ตราบใดที่แกคุกเข่าและขอให้ฉันให้อภัย อยู่ห่างจากฮันเสวี่ย มิฉะนั้นฉันจะทำให้แกนอนอยู่บนเตียงเป็นเดือนๆ แกเตรียมนอนไปตลอดชีวิตได้เลย!”
เย่หยูมองที่รูปร่างหน้าตาน่าสมเพชและน่ารังเกียวของโอวหยางหยูและพูดว่า “โอ้ โอวหยางหยู แกเอาอีกแล้วนะ แกไม่ได้อวยพรให้ฉันกะฮันเสวี่ยอีกหรือ?”
“ถุย! แก ไอ้คางคกอยากกินเนื้อหงส์หรอ? พี่ชายยังอยู่ที่นี่ แกลืมการเดินออกออกป่าเล็กแห่งนี้ได้เลย”
โอวหยางหยูยืนขึ้นข้างชายรอยสักงูด้วยยิ้มเย็นบนใบหน้า เขาดูเหมือนจะได้เห็นความพ่ายแพ้ของเย่หยู
เย่หยูเมินโอวหยางหยูและถามที่ชายสักลายรูปงูแทนว่า “ฉันมีคำถามจะถามคุณ นักสู้ของระดับนี้คือเท่าไหร่?”
“ฮ่าฮ่า ความสามารถแกไม่ได้แย่ ฉันจะบอกแกให้!”
ชายรอยสักงูมองที่เย่หยูด้วยความอิจฉาเล็กน้อยในดวงตาของเขา เย่หยูจะมีความสามารถที่ดีได้อย่างไร?
จากความเร็วของหมัดของเย่หยูและการเตะเมื่อกี้นี้ สมรรถภาพทางกายของเขาเป็นอย่างน้อยสองเท่าของคนธรรมดา!
มันเทียบเท่ากับการแข่งขัน 100 เมตร คนอื่นยังอยู่ในจุดเริ่มต้นขณะที่เย่หยูเกือบจะถึงเส้นชัย เขาจะชนะได้เลยในจุดเริ่มต้น!
“นักสู้หรอ! ศิลปะการต่อสู้ที่ฆ่าศัตรูนั้นเรียกว่า นักรบ!”
เสียงที่น่ากลัวของชายรอยสักงูนั้นดังขึ้น ทำให้โอวหยางหยูที่ยืนอยู่ข้างเขา กอดแขนด้วยตัวสั่นเทาขณะก้าวถอยหลัง
“อันดับแรกคือ ผลัดผิว (หนังเหนียว),อับดับ 2 คือกลั่นโลหิต, อันดับ3 คือสร้างกล้ามเนื้อเส้นเอ็น ,อันดับ4 คือ สร้างกระดูก,อันดับ 5 คือชำระไขกระดูก , อันดับหก คือเข้าสู่แก่นแท้ นี้คือสิ่งที่นักสู้ต้องมีหกอันดับ!”
เห็นสีหน้าของเย่หยูที่ค่อนข้างประหลาดใจ ชายรอยสักงูเยาะเย้ยเหยียดหยัน
“เด็กน้อย” ฉันจะแนะนำแกให้คุกเข่าแล้วขอความเมตตา หรือแกอยากจะเสียขาของแก! “
นักสู้หรอ? เยี่ยมมาก! ดังนั้นโลกที่ใหญ่โตนี้ช่างน่าสนใจอย่างมาก!
ได้ยินคำของชายรอยสักงูเย่หยูกำหมัดแน่น ใจของเขาเริ่มตื่นเต้น นี้คือสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดหรอ?
“นักสู้!”
เย่หยูมองที่ชายรอยสักงูที่พอใจเล็กและพูดขึ้นว่า “มีนักสู้ที่ระดับต่ำมากเหมือนคุณใช่หรือไม่?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นชายรอยสักงูเหลือบตามองอย่างเย็นเหยียบคล้ายกับงู “ฮึฮึฮึ ระดับต่ำอย่างนั้นหรอ? แกคิดว่าการเป็นนักสู้นั้นง่ายหรอ? ฉันติดตาม พี่ใหญ่ฮูและฝึกมาตลอดแปดปี ก่อนที่ฉันจะถึงระดับนี้ได้ เด็กน้อย! ฉันเกรงว่าแกจะไม่รู้จักคำว่า ตายซะแล้ว! ”
ฟ่อ ฟ่อ~
ชายรอยสักงูโบกมือและทำเสียงฟู่ในอากาศ มันเหมือนเป็นลิ้นของงูพิษ
การก้าวของเขาช่างลื่นไหลเหมือนดั่งงูเลื้อยบนสนามหญ้า เขาม้วนตัวและ ปรากฏตัวต่อหน้าเย่หยูในพริบตา
ด้วยการแกว่งแขนของเขา เขาเป็นเหมือนงูพิษที่ออกจากที่ซ่อนตรงเข้าหาหน้าอกของเย่หยู
ปัง!
เย่หยูยกแขนกั้นการจู่โจมของชายรอยสักงูอย่างไรก็ตาม ภายใต้การจู่โจมของชายรอยสักงูเขาได้ถอยร่นไปเจ็ดถึงแปดก้าว
ความแข็งแกร่งอย่างมหาศาลกระแทกที่แขนของเขา เย่หยูรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่แขน ทำให้เขารู้สึกถึงสัญชาตญาณของศิลปะการต่อสู้
“เด็กน้อย ฉันต้องพูดว่า ฉันอิจฉาแกที่มีร่างกายที่แข็งแรง”ชายรอยสักงูหยุดยืน มองที่รูปร่างของเย่หยู เขาไม่ได้อยากอิจฉา แต่อดอิจฉาไม่ได้!
เขาอิจฉาที่เย่หยูที่มีร่างกายที่โดดเด่นเช่นนี้ ตัวเขาเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งเปรียบได้กับการฝึกฝนด้วยตัวของเขาเองเจ็ดถึงแปดปี
ลองคิดถึงความพยายามทั้งหมดที่เขาทำไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และความจริงที่เย่หยูเกิดมาพร้อมกับมัน
ชายรอยสักงูรู้สึกสับสนอย่างมากในจิตใจ
อย่างไรก็ตาม ชายรอยสักงูได้รู้ว่า เย่หยูได้รับพลังงานนี้ภายในวันเดียว เขาจะต้องรู้สึกช๊อคอย่างแน่นอน
ตาของชายรอยสักงูเป็นประกายแสงเย็นอย่างน่ากลัว “ฉันจะหักกระดูกแก ทำลายแกให้สิ้นซาก!”
ความคิดที่จะทำลายนี้คือพรสวรรค์ของชายรอยสักงูที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา
“ตายซะ!”
ชายรอยสักงูปล่อยเสียงคำรามดังและกระโจนเข้าหาเย่หยูเหมือนเสือดุร้ายที่กำลังไล่ต้อนลูกแกะที่กำลังรอการสังหารอยู่
ปัง!ปัง!ปัง!
แม้ว่าเย่หยูไม่เคยฝึกศิลปะป้องกันตัว และไม่รู้วิธีป้องกันตัว ความเร็วและปฏิกิริยาที่ไม่ธรรมดาของเขา เขายังสามารถบล็อกการโจมตีของ ชายรอยสักงูได้ในระยะเวลาอันสั้น
หมัดของชายรอยสักงูคนนี้เหมือนกับหัวของงู ขาเป็นเหมือนแส้ การเคลื่อนไหวของเขานั้นมั่นคง แค่เหมือนงูที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี การโจมตีของเขาเหมือนดั่งพายุรุนแรงขณะโจมตีร่างกายของเย่หยู
ใต้การโจมตีของชายรอยสักงู เย่หยูถอยห่างออกไปเรื่อยๆ และแขนทั้งสองของเขาก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเริ่มที่จะไม่สามารถป้องกันกันโจมตีของชายรอยสักงูได้ ดูการต่อสูของทั้งสองจากระยะห่างๆ โอวหยางหยูรู้สึกตื่นเต้นมาก แม้ว่าเขาเห็นการต่อสูไม่ชัดจากระยะที่ไกล จากการถอยร่นของเย่หยู จะเห็นได้ว่าชายรอยสักงูมีความเหนือกว่า
“พี่! จัดการมัน! หักขามันซะ! ฉันอยากให้มันกลายเป็นคนพิการ” โอวหยางหยูตะโกนอย่างตื่นเต้นจากด้านข้าง
ชายรอยสักงูอ้าปากและหัวเราะ เผยให้เห็นฟันขาวเหมือนหิมะของเขา จองมองเย่หยูด้วยสายตาแดงกร่ำ
เร็วเข้า !เร็วเข้า !
ชายรอยสักงูเริ่มทิ้งระเบิด เขารู้สึกว่าเขามาถึงจุดสูงสุดแล้ว การโจมตีของเขาไม่เคยไร้ความกังวลมาก่อน!
ชายรอยสักงูรู้สึกตื่นเต้นมากเห็นได้จากใบหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างที่สุด “ไม่ใช่แค่ฉันจะหักขาแกเท่านั้น ฉันจะทำให้แกพิการอีกด้วย!
ฟ่อ !
มือชายรอยสักงูกลายเป็นกรงเล็บเหมือนงูพิษที่เผยเขี้ยวให้เห็น ทำให้เห็นถึงสิ่งชั่วร้ายขณะที่เขากำลังจะกัดคอของเย่หยู
จัดการมันซะ !
ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ?
เย่หยูรู้สึกกังวล หากเขามีทักษะ เขาคงไม่กลัวชายรอยสักงูคนนี้ !
การเคลื่อนที่? ในใจของเย่หยูนึกถึงท่ากายกรรม 36 ท่าอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
มองมือของชายรอยสักงูที่กำลังจะถึงลำคอของเขา เย่หยูไม่มีเวลาที่จะคิด เขากระทืบเท้าและใช้ท่ากายกรรม ทันที
ขณะที่ชายรอยสักงูกำลังจะคว้าคอของเขา เสียงเบา ๆ เปล่งออกมาจากปากของ เย่หยู ว่า “เคลื่อนไหวโดยการกระโดด!”
เฟี้ยว !
เมื่อชายรอยสักงูคว้าอาการที่ว่างเปล่า เขารู้สึกตกใจสุดขีด มันเกิดอะไรขึ้น เย่หยูหายไปได้อย่างไร?
ความสูงเจ็ดถึงแปดเมตรที่อยู่สูงกว่า ชายรอยสักงู เย่หยูรู้สึกตกใจเช่นกัน การกระโดดเจ็ดหรือแปดเมตร! นี้คือท่ากายกรรมที่เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ
“หืม!” นี่มันเป็นท่าไม้ตายของเขา
ชายรอยสักงูไม่เชื่อว่า เย่หยูสามารถหลบการโจมตีของเขาเองได้ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น!
เขาหดร่างและพุ่งออกไป ชายรอยสักงูที่เคลื่อนไหวเหมือนงูเห่าได้เปิดการโจมตีทันที พุ่งไปข้างหน้าและกางสองกรงเล็บของเขาเพื่อเอื้อมไปคว้าอีกครั้ง