ตอนที่ 119 กลับบ้าน
ถังซีเล่าให้ทุกคนฟังเรื่องความสามารถที่เธอได้รับมาอย่างฉับพลัน ขณะฟังเธอเล่าเซียวจิ่งกับเซียวส่าถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว แล้วจู่ๆ เซียวเหยาก็เงยหน้าขึ้นมองถังซี น้ำเสียงเขาแหบห้าวอย่างมากขณะถามว่า “เธอหมายความว่า เธอคือถังซีอย่างนั้นหรือ”
ถังซีนิ่งขึงไปทันที เธอหันมามองเซียวเหยาซึ่งดูน่ากลัวภายใต้ไฟถนน ราวกับว่าเขาเพิ่งได้รับการช่วยชีวิตขึ้นมาจากการตกน้ำ แต่เธอก็ยอมรับกับเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอต้องบอกความจริงอันโหดร้ายนี้แก่เซียวเหยา เธอจึงพยักหน้าตอบว่า “ใช่ค่ะ พี่ใหญ่ จริงๆ แล้วฉันคือถังซี ฉันขอโทษที่โกหกพี่ๆ ทุกคนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา”
เมื่อได้ยินเธอเรียกเขาว่า ‘พี่ใหญ่’ เซียวเหยาก็แทบอดกลั้นความเจ็บปวดในหัวใจไม่ไหว เขานิ่งขึงไปทันทีและจ้องมองถังซี ใช่ ถึงแม้ว่าเธอคือถังซี แต่ตอนนี้เธอเป็นเซียวโหรวน้องสาวเขา ในชีวิตนี้เขาเป็นได้แค่พี่ชายเธอ หัวใจเขาเจ็บปวด แต่ไม่นานเขาก็บอกกับตัวเองว่า โชคดีแล้วที่เธอยังมีชีวิตอยู่ แม้เธอจะต้องมีชีวิตอยู่ในฐานะเซียวโหรวก็ตาม
ส่วนปฏิกิริยาของเซียวจิ่งนั้นเป็นอยู่ค่อนข้างนาน ใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะชี้หน้าถังซีด้วยความประหลาดใจและอุทานออกมา “ถ้าอย่างนั้นที่เธอมีความสามารถพิเศษมากมาย ก็ไม่ใช่เพราะเธอฉลาดหรือเป็นอัจฉริยะน่ะสิ แต่เป็นเพราะเธอคือถังซี!”
ถังซีตอบด้วยการยักไหล่ “พี่จิ่งคะ ถึงฉันจะเป็นถังซี แต่ฉันก็ยังคงเป็นอัจฉริยะนะ” จากนั้นเธอก็ยิ้มกว้าง กล่าวต่อไปจนจบ “ฉันฉลาดกว่าพี่ก็แล้วกัน เรื่องนี้พี่ปฏิเสธไม่ได้หรอก”
อ๊าก… เซียวจิ่งแทบกระอักเลือด นี่เขามีน้องสาวแบบไหนกัน แล้วทำไมเขาถึงต้องมีน้องสาวแบบนี้!
เซียวส่าเม้มริมฝีปากมองหน้าถังซี จากนั้นก็เลื่อนไปที่เฉียวเหลียง และในที่สุดก็เปลี่ยนมาที่พี่น้องทั้งสองของเขาแล้วถามว่า “แล้วอย่างนี้ เธอจะทำยังไงต่อไป”
ในที่สุดเซียวส่าก็รู้แล้วว่า ทำไมเซียวโหรวจึงพูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องแคล่วในร้านอาหารฝรั่งเศสวันนั้น และทำไมเธอจึงมั่นใจว่าจะสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งเมือง A ได้ภายในหนึ่งปี เท่าที่เขารู้ ถังซีคือความภาคภูมิใจสูงสุดของเอ็มไพร์กรุป เธอได้รับปริญญาโทบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมๆ กับสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง และมีความเชี่ยวชาญภาษาต่างๆ นับสิบภาษา…
เฉียวเหลียงถามอย่างเย็นชา “พวกคุณอยากให้ซีซีกลับบ้านกับผมตอนนี้เลยไหม”
แม้เขาจะปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะอยู่กับเธอ แต่เขารู้ว่าถังซีจะไม่เห็นด้วย เธอเข้ากันได้ดีกับคนตระกูลเซียว และเขาบอกได้เลยว่าเธอรักครอบครัวนี้ของเธอมาก แต่ถ้าคนเหล่านี้เปลี่ยนไปเป็นห่างเหินกับเธอ เพราะตัวตนที่แท้จริงของเธอคือถังซี เขาจะ…
“ไม่อย่างแน่นอน!” พี่น้องตระกูลเซียวร้องออกมาเป็นเสียงเดียว เซียวจิ่งจ้องหน้าเฉียวเหลียงขณะกล่าวตามตรงว่า “โหรวโหรวเป็นน้องสาวเรา ทำไมเธอต้องกลับไปกับนายด้วย”
ถังซียิ้ม ด้วยปฏิกิริยานี้ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในหัวใจเซียวเหยา เธอซาบซึ้งจริงๆ ที่เซียวเหยาไม่ได้พูดอะไรที่แสดงว่ายอมรับไม่ได้ออกมาเลยในเรื่องนี้ และรู้สึกขอบคุณมากยิ่งขึ้นที่พวกเขาทุกคนยังเชื่อถือเธอย่างมาก แม้จะรู้ความจริงแล้วก็ตาม
ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำสองชั่วโมง ซึ่งหลังจากนั้นทุกคนก็หายมึนเมาแล้ว เฉียวเหลียงมองดูนาฬิกาแล้วไปส่งพวกเขากลับบ้าน เซียวจิ่งหัวเราะไปตลอดทาง และกล่าวว่า “โอย เฉียวเหลียง ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะมาถึงจุดที่นายต้องเรียกฉันว่าพี่สาม นี่เป็นกรรมของนายอย่างแท้จริง!”
เซียวจิ่งแสดงท่าทางพึงพอใจไม่หยุด ตั้งแต่ได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของถังซี เขาอยากหัวเราะออกมาดังๆ ด้วยความคิดที่ว่า เฉียวเหลียงจะต้องได้รับความยินยอมจากพวกเขาก่อน จึงจะแต่งงานกับถังซีได้
เฉียวเหลียงหน้าบึ้ง จ้องมองถังซีซึ่งยักไหล่ด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้แทนคำตอบ เธอถามว่า “คุณอยากให้ฉันตายมากกว่าเหรอ” เธอคิดว่าเธออาจต้องเลือก ระหว่างความตายกับการเกิดใหม่ในร่างเซียวโหรว
เฉียวเหลียงนิ่งเงียบ หากเขาต้องเลือกระหว่างการประจบประแจงเซียวจิ่ง กับให้ถังซีตาย เขาเลือกอย่างแรกแน่นอน เขามองเซียวจิ่งจากกระจกมองหลัง กัดฟันแน่น และเตือนว่า “นายระวังตัวให้ดี! คอยดูก็แล้วกัน”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…” เซียวจิ่งส่ายศีรษะพร้อมกับหัวเราะ “ได้เลย ฉันจะคอยดู!”
เขานั่งอยู่ระหว่างเซียวเหยากับเซียวส่า เมื่อเห็นรอยยิ้มอย่างสบายอกสบายใจของเขาจากกระจกมองหลัง เฉียวเหลียงก็ส่งเสียงคำรามพร้อมกับเหยียบคันเร่งและหมุนพวงมาลัยทันที เซียวเหยารีบจับราวจับทันทีเช่นเดียวกับเซียวส่า ถังซีก็คว้าราวจับเช่นกัน พร้อมกับส่งสายตาดุดันให้เฉียวเหลียง เมื่อไม่ทันระวังตัวและไม่มีราวจับเพราะเขานั่งตรงกลาง เซียวจิ่งก็ล้มไปทับเซียวส่า เมื่อเฉียวเหลียงหักพวงมาลัยอีกครั้งเขาก็ถูกเหวี่ยงกลับไปทางเซียวเหยา เขาสบถออกมา เฉียวเหลียงหัวเราะเยาะ และหักพวงมาลัยหนักขึ้น หลังจากหักกลับไปกลับมานับครั้งไม่ถ้วน เฉียวเหลียงก็เบรกกะทันหัน เซียวจิ่งตาเบิกโพลงจ้องไปข้างหน้า ถลาพุ่งออกจากที่นั่งตรงกลางไปด้านหน้าด้วยเสียงดังปัง และเกือบจะกระแทกเข้ากับคอนโซลรถ
เซียวจิ่งกำลังจะด่าเฉียวเหลียง แต่ทันทีนั้นเขาก็รู้สึกปั่นป่วนในท้อง เขารีบเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว และไม่สามารถรอให้เซียวเหยาลงจากรถก่อน เขากระโดดข้ามพี่ชาย ลงจากรถรีบวิ่งไปข้างถนน และเริ่มอาเจียนใต้ต้นไม้ทันที
เฉียวเหลียงเปิดประตูลงจากรถ เอนตัวพิงฝากระโปรงหน้ารถมองดูเซียวจิ่ง แล้วสบประมาทอย่างสะใจ “พอใจหรือยัง”
เซียวจิ่งกอดต้นไม้ที่เขาอาเจียนไปทั่ว ขณะเงยหน้าขึ้นมองและชี้หน้าเฉียวเหลียงด้วยความโกรธ ตะคอกว่า “เฉียวเหลียง นายรู้อะไรไหม นายจะไม่มีวันได้แต่งงานกับน้องสาวฉัน!”
เฉียวเหลียงยักไหล่อย่างเฉยเมย ตอบว่า “มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับนาย”
พวกเขาดื่มกันจนถึงเที่ยงคืน แล้วมานั่งเล่นกันในสวนสารธารณะกลางเมืองอีกสองชั่วโมง และยังเสียเวลาทำเรื่องบ้าๆ บอๆ อยู่บนถนนอีก ดังนั้นเมื่อเฉียวเหลียงมาส่งพวกเขาถึงบ้านก็เป็นเวลาหกโมงเช้า ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว เซียวหงลี่กำลังวิ่งเหยาะๆ อยู่ในสวน เมื่อเห็นพวกเขากลับมา เขาก็หยุดวิ่งและหน้านิ่วขมวดคิ้วดุพวกเขา “เซียวส่า เซียวจิ่ง ลูกสองคนไม่รู้หรือว่าพี่ชายกับน้องสาวของลูกเพิ่งออกจากโรงพยาบาล และต้องการการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ลูกพาทั้งสองคนออกไปเที่ยวตลอดทั้งคืนอย่างนี้ได้ยังไง!”
เฉียวเหลียงลงจากรถและกล่าวทักทายเซียวหงลี่ เมื่อฝ่ายหลังเห็นเฉียวเหลียงก็ชะงัก ยิ้มให้ แล้วเดินเข้าไปหาพร้อมกับกล่าวทักทาย “อ้าว เฉียวเหลียง มาที่นี่ได้ยังไง ได้ยินว่าเธอไปต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ไม่ใช่หรือ”
เฉียวเหลียงยิ้มตอบ “ผมได้รับโทรศัพท์จากเซียวจิ่งครับ เขาบอกว่าพวกเขาขับรถไม่ได้เพราะดื่มเหล้ากัน ผมก็เลยแวะไปรับมาส่งบ้าน”
เซียวจิ่งจ้องหน้าเฉียวเหลียง คิดในใจว่าทำไมเขาถึงหน้าด้านอย่างนี้! นี่เขากำลังโกหกหน้าตาเฉย! จากนั้นเขาก็จ้องมองถังซีซึ่งหลอกลวงพวกเขามาหลายเดือน เขาเม้มริมฝีปากขณะคิดว่า สองคนนี้ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน สร้างเรื่องโกหกเก่งทั้งคู่
ถังซีทักทายเซียวหงลี่พร้อมกับหาว แล้วกล่าวว่า “คุณพ่อคะ หนูขึ้นไปนอนก่อนนะคะ อย่าเพิ่งถามอะไรหนูเลย”
ขณะเธอเดินผ่านเซียวหงหลี่ก็ลูบศีรษะเธอ และกล่าวด้วยความรักว่า “ไปนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแล้ว”
ถังซียิ้มหวานให้เซียวหงลี่ โดยไม่หันกลับไปมองเฉียวเหลียง เฉียวเหลียงไม่อยากแยกจากเธอ เขาเฝ้ามองเธอเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน ผู้หญิงคนนี้จะจากไปโดยไม่บอกลาเขาอย่างนี้ได้อย่างไร
เซียวจิ่งกล่าวขึ้นอย่างผู้มีชัยว่า “ฉันก็ต้องขึ้นไปนอนด้วยเหมือนกัน”
เซียวเหยากล่าวกับเฉียวเหลียง “ขอบคุณมาก ประธานเฉียว แล้วเจอกัน”
เซียวส่าก็โบกมือลาเฉียวเหลียงด้วยเช่นกัน