ถังเจิ้นหวาแน่ใจว่าหลินหรูคือลูกสาวท่านแน่ๆ จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อลูก แต่หลินหรูยืนยันที่จะตรวจ เธอกลัวว่าทุกอย่างจะเป็นเหมือนฟองคลื่น ที่กระจายตัวหายไปทันทีที่จมลงไปในน้ำ แม้เธอจะเชื่อมั่นว่าเธอคือถังหย่า แต่เธอก็ยังต้องการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกเพื่อยืนยันตัวเอง ในขณะที่เธอไม่อาจหาเหตุผลอื่นมาระบุชัดเจนได้
ถังซีเห็นด้วยกับการตัดสินใจของหลินหรู เพราะบิดาหลินหรูนั้นไม่ใช่บุคคลธรรมดา แต่เป็นถึงท่านประธานเอ็มไพร์กรุป ต้องมีหลักฐานบางอย่างมาพิสูจน์ความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง และหลักฐานที่ดีที่สุดคือรายงานการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อลูก
ในเมื่อหลินหรูยืนยันเช่นนั้น ถังเจิ้นหวาก็พยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นทั้งสองก็เข้ารับการตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกที่โรงพยาบาลหลินอัน และในไม่ช้าผลก็ออกมา เมื่อเห็นผลลัพธ์ออกมาว่าความเป็นไปได้ที่ทั้งสองจะเป็นพ่อลูกกันนั้นสูงถึง 99.99% ทั้งถังเจิ้นหวาและหลินหรูก็น้ำตาไหลพราก
ถังเจิ้นหวาและหลินหรูโผเข้ากอดกันด้วยความตื้นตัน เมื่อเห็นภาพนี้ถังซีก็ยิ้ม… ตอนนี้คุณแม่ หรือถ้าจะให้ถูกต้องคือคุณป้า ก็มีชื่อว่าถังหย่า แทนที่จะเป็นหลินหรู หลินหรูเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่คู่สามีภรรยาไร้ยางอายมอบให้คุณป้า ตอนนี้คุณป้าได้ตัวตนของเธอกลับคืนมาแล้ว เธอคือถังหย่า ไม่ใช่หลินหรู
บางทีอาจเป็นเพราะทั้งสองพรากจากกันนานเกินไป จึงพูดอะไรไม่ออกหลังจากความตื่นเต้นผ่านพ้น ถังจงก็ตื่นเต้นเช่นกัน ในที่สุดนายท่านก็ได้พบลูกสาว! ถ้านายหญิงทราบเรื่องนี้บนสวรรค์ ท่านคงดีใจไปกับสองพ่อลูกด้วย…
เขาคิดว่านายท่านจะไม่แต่งงานอีกตลอดชีวิต หลังจากนายหญิงเสียและคุณหนูหายตัวไป แต่เพียงหนึ่งปีต่อมานายท่านก็ได้พบกับภรรยาคนที่สองและตกหลุมรักเธอ เขารู้สึกเศร้าใจไปกับนายหญิงในตอนแรก แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจ ตอนนั้นนายท่านยังหนุ่มแน่น ท่านยังต้องการมีภรรยาสักคน
ตอนนี้นายท่านได้พบคุณหนูแล้ว นายหญิงคงดีใจที่ได้รับรู้เรื่องนี้บนสวรรค์
เมื่อนึกเช่นนี้ถังจงก็อดร้องไห้ไม่ได้ ภาพตรงหน้าซาบซึ้งจนเขาทนไม่ไหว
เมื่อถึงตอนนี้ถังซีก็กวาดตามองคนอื่นๆ และส่งสัญญาณให้ทุกคนออกจากห้องไปกับเธอ ทุกคนจึงออกจากห้องคนไข้ ปล่อยถังหย่าและถังเจิ้นหวาไว้ตามลำพัง
หลังจากเดินออกจากห้องคนไข้ เซียวหงอี้ก็หายใจเข้าลึกๆ เขายังคงรู้สึกราวกับอยู่ในความฝัน เขามองหน้าถังซีและบ่นพึมพำว่า “โหรวโหรว สุภาพบุรุษสูงวัยที่อยู่ในห้องคือท่านประธานเอ็มไพร์กรุปจริงๆ หรือ”
ถังจงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกโกรธขึ้นมาเมื่อได้ยินแบบนี้ ผู้ชายคนนี้กล้าสงสัยตัวตนของนายท่านได้อย่างไร เขาไอกระแอมอย่างแรง “ท่านคือท่านประธานแห่งเอ็มไพร์กรุปอย่างแน่นอน!”
เซียวหงอี้ยิ้มอย่างเคอะเขินให้ถังจง หันไปมองเซียวเจี่ยน แล้วเลื่อนไปที่ก็ถังซี จากนั้นก็กล่าวว่า “ตอนนี้ไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะภูมิหลังของครอบครัวคุณแม่ของลูกแล้ว ถ้ายังมีใครกล้า พ่อจะส่งมันไปลงนรกให้หมด!”
บรรดาคนที่เคยหัวเราะเยาะเขาคงต้องผิดหวังอย่างมาก หลายสิบปีที่ผ่านมาเขาถูกคนเหล่านั้นหัวเราะเยาะ เมื่อเขาแต่งงานกับหญิงสาวจากครอบครัวที่ยากจน! ตอนนี้เขาเองอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ!
ถังซีรู้สึกขำท่าทางเซียวหงอี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทำไมคุณพ่อไม่เห็นคิดเลยว่าบริษัทของเขาจะได้รับประโยชน์มากมายขนาดไหน
สิ่งที่เป็นตราประทับในใจเธอก็คือ เซียวหงอี้ให้ความสำคัญมากที่สุดกับบริษัทของเขา เมื่อไหร่กันที่เขาเปลี่ยนไป
เซียวเจี้ยนสยงซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ยิ้มเช่นกัน ท่านมองหน้าเซียวหงอี้และกล่าวอย่างจริงจัง “จำสิ่งที่เธอพูดไว้นะ รักษาอาหรูไว้ให้ดี”
“พ่อครับ!” เซียวหงอี้หน้าแดง “ผมปฏิบัติต่ออาหรูดีมาตลอดไม่ใช่หรือ ผมไม่เคยขัดใจเธอเลยนะครับ”
เซียวเจี้ยนสยงเลิกคิ้ว ท่านต้องยอมรับว่าที่เซียวหงอี้พูดนั้นเป็นความจริง
ลูกชายคนโตของท่านเป็นสามีที่กลัวภรรยา ถ้าเขาไม่เชื่อฟังหลินหรูมากอย่างนี้ บางทีเรื่องของโหรวโหรวก็อาจจะ…
ทว่าอย่างไรก็ตาม พระเจ้าได้เตรียมการอย่างที่ดีที่สุดไว้ให้พวกเขาแล้ว
เมื่อถึงตอนนี้เซียวเหยาก็ส่งสัญญาณให้ถังซีไปที่มุมหนึ่งกับเขา ถังซีมองเขาด้วยท่าทางสงสัย ถามว่า “มีอะไรเหรอคะ”
“มีคนอยากพบเธอ” เซียวเหยามองหน้าถังซี เม้มริมฝีปาก แล้วกล่าวว่า “คนตระกูลฉินยังพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อให้ปล่อยเถาเยี่ยนและครอบครัว ถึงคุณพ่อจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาทำอะไรได้ แต่พี่คิดว่าคนพวกนั้นไม่หยุดหรอก พวกเขากำลังรอเธออยู่ที่เซียวกรุป เธอต้องไปพบพวกเขาที่บริษัท!”
ถังซีขมวดคิ้ว ยิ้มอย่างเย็นชา “ฮ่า ฮ่า ฉันยังไม่ได้ก้าวเข้าไปหาพวกเขา พวกเขาก็มาหาฉันเสียแล้ว”
ถังซีกล่าว หยิบโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งออกมา เธอใช้โทรศัพท์เครื่องนี้ในการติดต่อกับเลขานุการของเธอที่เอ็มไพร์กรุป เซียวเหยามองดูเธอ เข้ามายืนบังเธอไว้ทางด้านหลัง ด้วยเกรงว่าคนอื่นจะสังเกตเห็นการกระทำของเธอ
ถังซีรู้สึกอบอุ่นกับความละเอียดใส่ใจของเขา เธอยิ้มให้เขา แต่ทันทีที่หันกลับไปเธอก็ทำหน้าบึ้ง เมื่ออีกฝ่ายรับสายถังซีก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “กดดันตำรวจให้ตั้งข้อหาแก่อาชญากรสามคนนั้น ด้วยข้อหาจงใจทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บโดยเจตนา อย่าให้อาชญากรทั้งสามได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำโดยเด็ดขาด และอีกอย่างหนึ่ง นัดหมายผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลของเมือง A ให้ฉันด้วย”
เธอไม่มีวันปล่อยให้เถาเยี่ยนหนีรอดจากกรรมที่นางก่อไว้ เธออยากเห็นว่าท้ายที่สุดใครจะเป็นผู้ชนะ ฉินกรุป หรือ เอ็มไพร์กรุป!
ตระกูลฉินและเอ็มไพร์กรุปถูกกำหนดให้ต่อสู้ซึ่งกันและกัน เธอจะไม่ยอมถอยไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม คนพวกนั้นกดดันตำรวจได้ เธอก็ทำได้เช่นกัน เธอกำลังรอดูว่าฉินเย่ว์คนนี้จะมีปัญญาทำอะไรได้บ้าง
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอเซียวเหยาก็เม้มริมฝีปาก ลดเสียงลงถามว่า “ต้องการให้พี่ช่วยอะไรไหม”
ถังซีส่ายศีรษะ “ไม่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ฉันจะจัดการด้วยตัวเอง แต่ฉันจะขอความช่วยเหลือจากพี่ ถ้ามีอะไรที่ฉันจัดการไม่ได้” ถังซีหยุดไปอึดใจหนึ่งก่อนจะกล่าวต่อว่า “แล้วอีกอย่าง ไม่ดีสำหรับพี่ที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เดี๋ยวคุณปู่ก็ช่วยฉันเองค่ะ”
คุณปู่น่าจะอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อคุณป้า
เซียวเหยาพยักหน้า “ตกลง พี่จะให้เจี่ยนไปกับเราด้วย”
เพียงครู่เดียวเซียวเหยาก็กลับมาพร้อมกับเซียวเจี่ยน ถังซียิ้มให้เซียวเจี่ยน แต่เซียวเจี่ยนมองเธอและกล่าวด้วยท่าทางหน้านิ่วคิ้วขมวด “เธอควรอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ที่นี่จะดีกว่า พี่กับเหยาจะไปพบพวกเขาเอง”
ถังซีส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “คนที่พวกเขาอยากเจอคือฉัน พวกเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้เจอฉัน”
นอกจากนี้ เธอเองก็แทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นว่าคนพวกนั้นโกรธมากแค่ไหน สีหน้าท่าทางของคนพวกนั้นต้องเป็นภาพที่น่าขันแน่ๆ