หยางจิ้งเสียนเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นถังซีพาหลินหรูไปที่ห้องของเธอ “มีเรื่องอะไรกันเหรอ”
เซียวเหยามองตามหลังผู้หญิงทั้งสองคน แล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “หนิงเหยี่ยนเล่าว่ามีข่าวเกี่ยวกับเถาเยี่ยนและครอบครัวเมื่อคืนนี้ อาจเป็นเรื่องนี้ก็ได้ครับ”
คุณปู่เซียวขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเขาพูดถึงเถาเยี่ยน ท่านทนผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เอาเสียเลย ท่านจึงไม่มาดูด้วยซ้ำตอนที่นางเกือบจะฆ่าหลินหรู นับว่ายังโชคดีที่เหตุการณ์คราวนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดีในที่สุด ท่านวางหนังสือพิมพ์ในมือลง หันไปมองเซียวเหยา “ข่าวอะไร”
“โหรวโหรวขอให้ผมช่วยย้ายเถาเยี่ยนและครอบครัวไปไว้ที่เรือนจำอีกแห่งหนึ่ง ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วครับ” เซียวเหยาตอบ
ถึงแม้เขาจะไม่ควรใช้อำนาจในหน้าที่การงานมาจัดการกับเรื่องส่วนตัว แต่คนพวกนั้นชั่วร้ายจริงๆ เขาจึงไม่มีความเห็นอกเห็นใจใดๆ ให้
หยางจิ้งเสียนมองหน้าเซียวเหยา “ย้ายไปไว้เรือนจำอีกที่หนึ่งเหรอ ทำไมล่ะ”
“มีคนพูดกันว่าเถาเยี่ยนมีผู้ทรงอิทธิพลบางคนคอยสนับสนุน และคนคนนั้นกำลังพยายามช่วยให้พวกเธอได้ออกจากคุก ผมคิดว่าโหรวโหรวทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเธอได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก”
หยางจิ้งเสียนส่ายศีรษะ “แม่รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะธรรมดาขนาดนั้น ถ้าโหรวโหรวไม่ต้องการให้พวกเธอได้รับการปล่อยตัว น้องก็แค่มาขอคุณปู่หรือคุณพ่อให้ช่วยก็ได้นี่ ไม่จำเป็นต้องขอให้ลูกทำแบบนั้น นอกเสียจากว่า…” หยางจิ้งเสียนหันไปมองคุณปู่เซียว แล้วกล่าวว่า “นอกเสียจากว่าคนคนนั้นจะมีอิทธิพลเทียบเท่ากับเรา”
ถังซีพาหลินหรูเข้าไปในห้อง ขอให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ไม้แดง แล้วนิ่งมองเธออยู่เงียบๆ เมื่อสังเกตเห็นสายตาถังซี หลินหรูก็จับมือเธอขึ้นมา เอ่ยถามอย่างอ่อนโยนว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูถึงดูเป็นกังวลอย่างนี้ เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่บริษัทหรือเปล่า อยากให้แม่ช่วยอะไรไหม”
ถังซีส่ายศีรษะ หลินหรูยิ้มให้ “ไม่ต้องอายที่จะเล่าให้แม่ฟังนะ แม่เป็นแม่ของหนู หนูยังใหม่กับการบริหารงาน และบริษัทของหนูก็เพิ่งก่อตั้ง ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่หนูจะขอคำแนะนำจากแม่”
ถังซีรู้สึกอบอุ่นใจกับคำพูดของหลินหรู แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาแสดงความซาบซึ้งกัน เธอกล่าวกับหลินหรูด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งว่า “คุณแม่คะ ถ้าเถาเยี่ยนขโมยตัวคุณแม่มา เพราะคุณแม่เป็นลูกของผู้ชายที่นางรัก แต่เขาไม่รักนาง แม่จะเกลียดผู้ชายคนนั้นไหมคะ”
หลินหรูจ้องหน้าถังซีอย่างตกตะลึง แต่แล้วก็ยิ้มออกมา “เรื่องมันผ่านมาหลายปีมากแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ คนที่แม่ควรเกลียดคือเถาเยี่ยน ไม่ใช่ใครอื่น”
ถังซีมองหน้ามารดาแล้วเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็หยิบหนังสือพิมพ์เก่าปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเดินทาง ส่งให้หลินหรู “นี่คือหลักฐานยืนยันว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณแม่พยายามตามหาตัวคุณแม่ค่ะ ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา พวกท่านพยายามสืบหาคุณแม่ทุกๆ นาที แต่หาไม่พบ”
หลินหรูมองดูหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระดาษเก่าเหลืองแล้วนิ่วหน้า เธอมองหน้าถังซี ถามว่า “หนูไปเอาหนังสือพิมพ์พวกนี้มาจากไหน”
“คุณแม่คะ นั่นไม่สำคัญเลยค่ะ สิ่งสำคัญก็คือ คุณแม่อาจเป็นลูกสาวของถังเจิ้นหวา ประธานเอ็มไพร์กรุป และอาจเป็นไปได้ว่าเถาเยี่ยนคือฉินหลัว น้องสาวฉินเย่ว์ที่หนีออกจากบ้าน” ถังซีคว้ามือหลินหรูมากุมไว้ ค่อยๆ กล่าวเน้นทีละคำว่า “ถ้าคุณแม่ยอมรับการตรวจดีเอ็นเอพร้อมกับท่านประธานถัง เราก็จะได้รู้แน่ว่า คุณแม่เป็นลูกสาวของท่านจริงหรือเปล่าค่ะ”
หลินหรูยังคงนิ่งเงียบไม่แสดงความรู้สึกใดๆ แต่มือทั้งสองข้างสั่นระริก เธอจ้องมองถังซีด้วยดวงตาว่างเปล่า น้ำตาไหลอาบแก้ม “โหรวโหรว แม่จะหาพ่อแม่ของแม่พบจริงๆ เหรอ”
ถังซีมองเข้าไปในดวงตาเธอ พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น “วันนี้หนูเจอฉินซินหยิ่ง หลานย่าของฉินหลัว เธอกับปู่ของเธอไปเยี่ยมเถาเยี่ยนที่เรือนจำ หนูถึงแน่ใจว่าเถาเยี่ยนก็คือฉินหลัว ถ้าคุณแม่โดนฉินหลัวลักพาตัวไป เด็กผู้หญิงที่ถังเจิ้นหวากับภรรยาเฝ้าตามหามาตลอด ก็ต้องเป็นคุณแม่อย่างแน่นอน”
หลินหรูส่ายศีรษะไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ “แม่… จะเป็นไปได้ยังไง…”
ถังซีบอกเธออย่างอ่อนโยนว่า “คุณแม่คะ หนูเองยังโดนพวกเขาสลับตัว เขาก็อาจจะทำสิ่งเลวร้ายอย่างเดียวกันกับแม่ก็ได้…” ถังซีคลายมือที่กุมไว้ ลุกขึ้นยืน กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หนูมั่นใจว่าคุณแม่คือถังหย่า ลูกสาวถังเจิ้นหวาที่โดนฉินหลัวลักพาตัวไปค่ะ”
คนชั่วมักเกิดมาชั่ว แต่ก็มีอยู่บ้างที่จะกลายพันธุ์ลดความชั่วร้ายลงเมื่ออายุมากขึ้น ในขณะที่ส่วนใหญ่แล้วจะยิ่งชั่วร้ายขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลาที่ผ่านไป อย่างไรก็ตามฉินหลัวคนนี้ถือเป็นกรณียกเว้น ชั่วร้ายมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเปลี่ยนแปลง!
หลินหรูยังคงไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “แต่แม่ยังไม่อยากเชื่อ…”
ถังซีสูดลมหายใจเข้า เธอเองก็ไม่แน่ใจในตอนแรก เพราะดูจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินไป เธอกลายเป็นเซียวโหรว คุณปู่ได้พบเธอจากการชักนำของเฉียวเหลียง และจำได้ว่าแท้จริงเธอคือหลานสาวของท่าน แล้วเธอก็สวมหน้ากากผิวหนังปลอมตัวเป็นถังซี กลับไปที่เมืองหลวง ทุกวันนี้เธอต้องเดินทางไปมาระหว่างเมือง A กับเมืองหลวง และใช้ชีวิตสลับร่างไปมาระหว่างหญิงสาวสองคน
และแล้วก็มาได้ยินเรื่องราวของคุณปู่กับคุณย่า และเรื่องนี้อีก…
ดูเหมือนทุกอย่างจะเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ แต่ก็เหมือนถูกลิขิตไว้แล้วเช่นกัน…
ถ้าคุณย่าไม่ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งในร่างของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง คุณปู่ก็คงไม่ยอมเชื่อว่าเหตุการณ์อย่างเดียวกันนั้นได้เกิดขึ้นกับเธอ ถ้าคุณปู่ไม่ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างท่านกับคุณย่าให้เธอฟัง เธอก็คงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับฉินหลัว ถ้าเธอไม่ได้เจอฉินซินหยิ่งที่เรือนจำในวันนี้ เธอก็คงไม่ได้คิดปะติดปะต่อว่าเถาเยี่ยนกับฉินหลัวมีความเกี่ยวข้องกัน
และเธอคงไม่สามารถเดาได้ว่าคุณแม่คนปัจจุบันของเธอก็คือป้าแท้ๆ ของเธอ ที่เธอพยายามตามหา
หากการคาดเดานี้ถูกต้อง ต่อไปในอนาคตเธอจะยอมทำตามข้อปฏิบัติที่ 008 สั่งทุกขั้นตอน และจะฝึกตัวเองให้กลายเป็นคนแบบที่ 008 ต้องการให้เธอเป็น
เพราะเธอรู้สึกสำนึกในบุญคุณ 008 เป็นอย่างยิ่ง
“แม่ไม่รู้ว่าจะติดต่อคุณถังและพูดกับท่านเรื่องนี้ยังไง บางทีท่านอาจเลิกตามหาลูกสาวไปแล้วก็ได้ ตอนนี้ท่านก็แก่มากแล้ว ถ้าจู่ๆ แม่โผล่ไปหา อาจสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายขึ้นมาโดยไม่จำเป็นก็ได้ แม่ไม่ควรไปรบกวนท่านหรอก จริงๆ นะ แม่ไม่ไปจะดีกว่า”
Related