งานรับปริญญาถูกจัดขึ้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย
บรรยากาศดีมากอากาศหนาวเย็น ให้ความรู้สึกสดชื่น
ผู้คนเดินไปมาอย่างครึกครื้น เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตจบใหม่
หลังจากที่เข้ารับประกาศนียบัตรเสร็จเหล่าบัณฑิตก็ทยอยเดินออกมาจากหอประชุม
แล้วมาถ่ายรูปร่วมเฟรมเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกกับกลุ่มเพื่อนและญาติพี่น้อง
รถหรูค่อยๆขับเข้ามาจอด จากนั้นคนในรถก็ยื่นเท้าลงมาเหยียบบนพื้น
ปรากฏรูปร่างสูงใหญ่ราวๆ185 ใบหน้าเรียคมสัน ดั้งจมูกโด่ง ริมฝีปากได้รูป ดูหล่อเหลาไร้ที่ติ
มาในชุดสูทสีขาว แล้วเดินเข้าไปหากลุ่มแก๊งของบัณฑิตสาวหน้าใสที่กำลังถ่ายรูปกันอยู่
ในมือเขา ถือช่อดอกไม้ราคาแพงกับตุ๊กตาหมี
สีขาวหูชมพูอุ้งเท้าชมพู
เดินตรงไปยังบัณฑิตสาวหน้าใสคนหนึ่ง
แล้วยื่นช่อดอกไม้กับตุ๊กตาหมีไปให้เธอ พร้อมกับเอ่ย
” ยินดีด้วยนะพิม เรียนจบแล้วขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนะ “
คนได้รับช่อดอกไม้ถึงกับตะลึง อึ้งไป หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว
เพราะคนตรงหน้าของเธอคือ อาจารย์หนุ่มสุดหล่อ ที่เพิ่งจบปริญญาโทมาหมาดๆ
เป็นคนที่เพื่อนร่วมห้องไม่ว่าจะสาวแท้สาวเทียมหรือเก้งกวาง
ต่างพากันกรี๊ดกร๊าดในความหล่อ และมีบุคลิกสุขุม สุภาพ
รูปร่างสูงสง่าผ่าเผย อาจารย์ประจำวิชา คอมพิวเตอร์เพื่อการทำงานและธุรกิจ
นักศึกษาแฮปปี้ทุกครั้งที่เข้าเรียนวิชานี้
ทุกคนจะกรี๊ดกร๊าด
และแซวอาจารย์กันตลอดโดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนสาวของพิม
” อาจารย์ข๋า คือหนูมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ “
อาจารย์หนุ่มจึงเอ่ยว่า
” ว่ามาสิ “
” หนูจะต้องทำยังไงคะถึงจะมี แฟนหล่อๆแบบอาจารย์ “
เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนในห้องก็พากันโห่เขาเสียงดังพร้อมกัน
นัศึกษาสาวสองอีกคนไม่ยอม ก็เอ่ยขึ้นบ้าง
” อาจารย์ข๋า หนูถูกผู้ทิ้งขอซบไหล่อาจารย์หน่อยนะคะ “
เอ่ยจบก็ทำท่าจะลุกเข้าไปซบไหล่อาจารย์ พิมจึงรั้งเพื่อนสาวไว้ให้กลับมานั่งแล้วเอ่ย
” ไม่ต้องเลยๆ อย่าเว่อร์ “
เพื่อนสาวหันกลับมามองเธอพร้อมกับทำท่าเบะปากใส่แล้วเอ่ย
” อีชะนี ไม่ต้องมาทำเป็นห้ามเลย อย่ามาตอแหลทำเป็นใสซื่อ ฉันเห็นไส้เห็นพุงเธอหมดแล้วย่ะ “
เธอไม่เถียง ได้แต่ทำท่าไม่ใส่ใจพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้อะไร
แล้วเพื่อนสาวอีกคนก็ยกมือขึ้นแล้วเอ่ย
” อาจารย์ข๋า วิชาของอาจารย์หนูไม่เอา A ก็ได้ค่ะ หนูขอติด F จะได้เรียนกับอาจารย์ทั้งปี “
เหมือนทุกคนจะเห็นด้วยจึงพากันส่งเสียง
” ฮิ้ววว ” พร้อมกันอย่างครึกคื้น
พิมและเพื่อนสาวสองอีกสองคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เพื่อเรียกสติเพื่อนสาว
” อีกะเทย!!! “
ทำเอาเพื่อนสาวถึงกับสะดุ้ง ยิ้มยิงฟันแหยๆให้พวกเขาทันที
อาจารย์ได้แต่ยิ้มแบบไม่ถือสาอะไร เพื่อให้นักเรียนเรียนอย่างแฮปปี้ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น
” พิม แล้วฟ้าใส ไปไหนล่ะ “
ปกติสองคนนี้จะนั่งใกล้กันตลอด อาจารย์จึงสงสัย เธอจึงเอ่ยตอบไปว่า
” วันนี้ฟ้าใสลาค่ะ เธอบอกว่ามีธุระต้องไปทำค่ะ “
คำถามของอาจารย์ทำให้ทุกคนต่างเข้าใจในทางเดียวกันว่า
อาจารย์ป๊อบของพวกเขาคงจะชอบฟ้าใสเข้าแล้ว
ทำเอาพิมและเหล่าเพื่อนสาวฝันสลายกันเป็นแถว
พิมมองอาจารย์ที่ยื่นช่อดอกไม้ให้อยู่อย่างนั้นด้วยความเหม่อลอย
แล้วเพื่อนสาวปากไวของเธอที่ชื่อ มีมี่ ก็เอ่ยขึ้นอย่างอิจฉาว่า
” อีพิม ถ้าเธอไม่อยากได้ช่อดอกไม้กับตุ๊กตาของอาจารย์ เอามาให้ฉันก็ได้นะ ฉันอยากได้ “
เอ่ยจบหล่อนก็ส่งยิ้มหวานให้อาจารย์ทันที
เพื่อนสาวอีกคนที่ชื่อ มิกเกล ก็ยื่นมือไปหยิกมีมี่เบาๆใช้สายตาเตือนให้มีมี่เงียบปาก
จากนั้นเพื่อนสาวที่ดูจะเป็นผู้นำหน่อยและไม่แต่งหญิง อย่าง เทเท่ ก็เอ่ยขึ้น
” เอ่อ อาจารย์ป๊อบมาถ่ายรูปกับพวกเราหน่อยนะคะ “
อาจารย์ยิ้มหล่อแล้วเอ่ย
” ได้สิ “
มิกเกลจึงสะกิดพิมให้รีบรับช่อดอกไม้ พิมรับช่อดอกไม้มาแล้วเอ่ย
” ขอบคุณค่ะ “
จากนั้นพวกเพื่อนสาวก็เบียดเธอให้เขยิบเข้าไปใกล้และตัวเธอแนบชิดกับอาจารย์
ทำเอาเธอถึงกับเขินอายทำอะไรไม่ถูก
ใจเต้นกระหน่ำจนแทบจะเด้งออกมาข้างนอก
แก้มเธอแดงระเรื่อไปหมด
แล้วช่างภาพก็กดถ่ายรัวๆ แชะ! แชะ! แชะ!
จากนั้นฟ้าใสที่ไม่ยอมมารับปริญญากับเพื่อน
ก็ลงจากรถแล้วเข้ามาหากลุ่มเพื่อนพร้อมกับเอ่ย
” นี่พวกเธอลืมไปแล้วเหรอว่ายังมีฉันอีกคน “
เมื่อเห็นเธอ พิมจึงเอ่ยด้วยความดีใจพร้อมกับดึงเธอเข้ามาถ่ายรูป
” ฟ้าใส มาสิ เรามาถ่ายรูปกัน “
แล้วพวกเขาก็โพสท่าถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
พิมปลีกตัวออกมานั่งพัก อาจารย์ป๊อปจึงเดินมาหาเธอแล้วเอ่ยขึ้น
” พิม อาจารย์ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยได้มั้ย “
เธอหันมามองเขาแล้วพยักหน้าเอ่ยตอบว่า
” ได้ค่ะ “
จากนั้นอาจารย์ป๊อบก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทันที
ฟ้าใสจึงเดินเข้ามาแล้วเอ่ย
” ทุกคนฉันมีอะไรจะบอก “
ทุกคนรอฟังอย่างตั้งใจ แล้วฟ้าใสก็เอ่ยขึ้น
” ฉันกับพี่ป๊อปเราจะไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยกัน วันนี้ฉันจึงมาลาพวกเธอ “
พิมได้แต่ฝืนยิ้มแสดงความยินดีกับพวกเขา
” ดีใจด้วยนะ มีโอกาสก็ทำให้ดีที่สุดนะ พวกเราจะรอวันที่เธอกลับมานะ “
แต่ในใจกลับแอบเศร้า ที่เห็นเพื่อนเรียกอาจารย์อย่างสนิทสนม
อาจารย์ป๊อบมองยังพิม เมื่อไม่เห็นความผิดปกติใดเขานิ่งเฉยไป
ฟ้าใสยิ้มร่าพร้อมกับไปควงแขนอาจารย์ป๊อบแล้วเอ่ย
” งั้นพวกเราไปก่อนนะ จะเดินทางวันนี้แล้ว ไว้มีเวลาค่อยเจอกันใหม่นะ “
ทุกคนจึงพยักหน้าเอ่ยตอบอย่างมึนงง ยิ้มไม่เต็มหน้า พร้อมกับยกมือขึ้นมาโบกลากันแบบงงๆ
” อื้ม ไว้ค่อยพบกันใหม่ “
ในเช้าวันต่อมา พิมตื่นขึ้นมาแล้วเธอก็นั่งคุยกับตุ๊กหมีราวกับมันเป็นสิ่งมีชีวิต
” เจ้าหมี นายรู้มั้ย เจ้านายของนายทำให้ฉันสับสนมากแค่ไหน
สรุปแล้ว มันยังไงกันแน่ เขาชอบฉันมั้ย หรือว่าฉันคิดไปเองฝ่ายเดียว “
จากนั้นเธอก็หน้าจ่อย คอตกไปแล้วจับไปที่หูของมันแล้วเอ่ยต่อว่า
” เฮ้อ ฉันรู้ว่าฉันคิดไปเองคนเดียว ฉันรู้ว่าอาจารย์คบอยู่กับฟ้าใส
พวกเขารวยเหมือนกัน ดูเหมาะสมกันมาก แต่ยังไงฉันก็ยังชอบอาจารย์มากๆอยู่ดี
และจะแอบชอบแบบนี้ตลอดไป จากนี้ไปคงไม่มีโอกาสได้เจอกับอาจารย์แล้ว
อย่างน้อยก็มีนายที่เปรียบเสมือนตัวแทนของอาจารย์เน้อ “
แล้วเธอก็ไปหยิบเข็มกับด้ายมา เพื่อปักชื่อของอาจารย์ลงตรงป้ายแบรนด์ ที่เป็นผ้าเล็กๆอยู่หลังตุ๊กตา
เธอจึงปักเป็นชื่อภาษาอังกฤษว่า POP ดูเด่นชัดทีเดียว
เธอมองดูชื่ออาจารย์ที่เธอปักลงบนตัวตุ๊กตาแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจในฝีมือตนเอง
พร้อมกับกอดตุ๊กตาไว้อย่างอบอุ่นหัวใจแล้วเอ่ย
” ต่อไปนายคือ อาจารย์ป๊อบ ไปไหนฉันจะพานายไปทุกที่เลย โอเคมั้ย “
แล้วเธอก็เอาตุ๊กตาวางไว้ที่หัวเตียง จากนั้นเธอก็เดินไปเปิดโน๊ตบุ๊ค
แล้วหางานในกลุ่มหางานแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็ก เธอไปเห็นโพสที่น่าสนใจโพสหนึ่ง
ซึ่งในโพสระบุไว้ว่า
( นายจ้างหาเอง รับสมัครแม่บ้าน
อายุยี่สิบ ไม่เกินสามสิบ เป็นคนสะอาดสะอ้าน รักความสะอาด ทำหน้าที่กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า
ดูแลความเป็นอยู่ของนายจ้าง มีความซื่อสัตย์
ไม่พูดมาก ทุ่มเทกับงานที่ได้รับ
เงินเดือนสองหมื่นบาท
หยุดทุกวันอาทิตย์ ขอคนที่รับแรงกดดันไหว มีความเข้มแข็ง อดทน สู้คน ไม่กลัวใคร เข้าสังคมได้
หากใครคิดว่ามีคุณสมบัติตรงตามที่เราต้องการ
เชิญส่งประวัติ สมัครกันเข้ามาได้
ทางแชทส่วนตัวของเจ้าของโพสนี้เลยครับ )
หลังจากอ่านจบเธอก็บ่นพึมพำออกมาว่า
” ชิ! รับสมัครแม่บ้าน บ้าอะไร ยังกับรับสมัครนักรบ
ถ้าไม่ระบุว่า รับสมัครแม่บ้าน ฉันคงคิดว่ารับสมัครบอดี้การ์ด ไม่ก็รับสมัครคู่ต่อสู้แล้ว “
จากนั้นเธอก็ไม่สนใจอีกแล้วเลื่อนผ่านไป แต่ละโพสไม่น่าสนใจเลย เงินเดือนก็น้อย
แค่หมื่นถึงหมื่นสอง เธอคำนวณวันเวลาและงานที่ต้องทำในแต่ละวัน
เธอถึงกับส่ายหัวอย่างหงุดหงิดแล้วเอ่ยตัดพ้อออกมาอย่างยาวเหยียด
” มันจะเอาเปรียบกันมากเกินไปแล้ว ใจดี ลูกจ้างให้สักหมื่นสี่ก็แทบจะไม่มีเลย
งานข้าราชงานหลวงก็ด้วย ระหว่างรอสอบบรรจุได้เงินเดือนแค่เก้าพัน
แล้วแบบนี้คนจนๆอย่างเราจะเอาอะไรกิน
เมื่อไหร่ฉันจะรวย เมื่อไหร่ฉันจะมีเงินเก็บ ฮือๆๆ
ทำไมโชคชะตาต้องใจร้ายกับสาวน้อยตัวเล็กๆอย่างเราด้วยนะ ให้ถูกรางวัลที่หนึ่งสักครั้งก็ไม่ได้
ทำไมเราไม่รวยเหมือนฟ้าใสนะ แล้วแบบนี้เราจะกล้าไปหวังกับอาจารย์ได้อย่างไร ฮือๆๆ “
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นเดินไปที่เตียง ทิ้งตัวนอนลงอย่างหมดหวัง กับอนาคตที่วาดไว้