ในหัวสมองของพิม มีแต่เรื่องของเงินๆๆแล้วก็เงิน เธอกำลังคิดว่า
ถ้าเธอทำงานได้หนึ่งปี เธอก็จะมีเงินเก็บถึงสองแสน สี่หมื่นบาท
เมื่อกินอยู่กับเขาหมด หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวไป
ก็จะเหลือเก็บ สองแสน
เธออายุยี่สิบสาม เธอจะต้องมีรถก่อนจากนั้นค่อยเก็บเงินซื้อที่ดิน แล้วก็เก็บเงินซื้อบ้าน
คิดได้ดังนั้นเธอก็ลุกมานั่งอีกครั้งแล้วพึมพำกับตัวเอง
” อันดับแรกต้องเก็บเงินซื้อรถก่อน รถคันละแป็ดแสน เป็นแม่บ้านสักสี่ปี พอได้รถแล้ว
ค่อยกลับมาทำอาชีพที่เรียนมา ก็ไม่สาย
ทำไงได้ ก็เกิดมาจนทำไมล่ะ
ในเมื่อเลือกเกิดไม่ได้ ก็เลือกที่จะเดิน เลือกที่จะเก็บหอมรอมริบได้หนิเน้อ “
แล้วเธอก็เดินไปนั่งหน้าโน๊ตบุ๊คอีกครั้ง พ่นลมหายใจออกมาทางปาก
แล้ววางมือลงบนแป้นพิมพ์ ตัดสินใจสมัครเป็น
แม่บ้าน
คลิกไปยังเจ้าของโพส ทักเข้าไปในแชทของผู้โพสโดยพิมพ์ว่า
( สวัสดีค่ะ ดิฉันสนใจงานแม่บ้านที่คุณประกาศรับสมัครค่ะ
ฉันมีคุณสมบัติครบตามที่คุณต้องการเลย
เป็นคนไทยแท้ ไม่มีประวัติอาชญากรรม
เรียนจบมัธยมปลาย
ถนัดทำงานบ้านและเคยทำงานบ้านมาแล้ว
อายุยี่สิบสามปี หากคุณยังไม่ได้คน โปรดรับดิฉันไว้พิจารณาด้วยคนนะคะ
แต่ขอบอกไว้ก่อนเลย ถ้าคุณมองข้ามฉันไป
คุณจะเสียใจ
เพราะมีแต่คนชมว่าฉันทำงานเก่ง ไม่ได้โอ้อวดนะคะ
ฉันมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอให้ดูด้วยค่ะ
หากคุณรับฉันเข้าทำงาน
สามารถติดต่อสัมภาษณ์งานได้ตามหมายเลขนี้เลยนะคะ 09326×××
ชื่อ พิม พิมผกา หิรัญทรัพย์เจริญ ส่วนสูง 160 น้ำหนัก 40 ถึงจะผอมไปหน่อย
แต่บอกเลยว่าแข็งแรงสุดๆ วิ่งเร็วมากด้วยค่ะ
ฉันคาดหวังกับงานนี้มากๆ
หวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันได้ทดลองงานนะคะ )
เธอโม้ได้ลื่นปรื๊ดมากๆ ภาษทั่วไปเรียก โกหก สร้างเครดิตให้ตัวเอง เพื่อให้ได้งานที่ต้องการ
เมื่อพิมพ์เสร็จ เธอก็เลือกคลิปวีดีโอตอนไปช่วยงานมหาลัยไป
แล้วก็คลิปจับเวลาวิ่งขึ้นตึกสิบเอ็ดชั้นภายในเวลาสิบนาที
เมื่อมานึกถึงวันที่วิ่งขึ้นไปชั้นที่สิบเอ็ด นั่นเป็นเพราะวันนั้นเธอไปเรียนสาย
ห้องกำลังจะปิด นักศึกษาใช้ลิฟท์เยอะต้องต่อคิวยาว
เธอเลยตัดสินใจวิ่งขึ้นไปทางบันได พร้อมกับถ่ายวีดีโอจับเวลา
นึกถึงวันที่ผ่านมาเธอก็เผลอยิ้มออกมา จากนั้นเธอก็ กดส่งออกไปทันที แล้วเอ่ย
” คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งคลิปวิ่งขึ้นตึกจะมีประโยชน์ สามารถใช้ในการสมัครงานได้ด้วย ฮ่าๆๆ
ถ้าหมอนี่รับเราเข้าทำงานก็คงจะเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ “
คฤหาสน์ ตระกูล อัศววัฒน์สกุล
ผู้ใหญ่กำลังนั่งเกลี้ยกล่อมให้ เตชิน
ประธานบริษัท อสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทย
หมั้นหมายกับคุณหนูณัชชา บุตรสาวคนโตของ ตระกูล ธัญธราทรัพย์
ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งปนะเทศไทย
เธอคือผู้ถือหุ้น15%ของบริษัทเตชิน
เธอกับเตชินโตมาด้วยกัน เธออายุน้อยกว่าเตชิน สามปี เตชิน อายุ 30 ปี ส่วนเธอ อายุ 27
และเธอก็แอบชอบเตชินมานาน แต่ไม่สามารถแสดงออกได้
เนื่องจากเตชินได้ตั้งกฏไว้ว่า ห้ามผู้บริหารและพนักงานมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว
หากจับได้ว่าผู้ใดฝ่าฝืนกฏ หรือมีความรู้สึกพิเศษต่อเพื่อนร่วมงานให้ไล่ออกทันที
ดังนั้นเธอจึงต้องซ่อนความรู้สึกไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ
ตั้งใจทำหน้าที่เป็นรองประธานบริษัท และทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากเตชินอย่างสุดความสามารถ
ทั้งสองตระกูลผูกมิตร เกี่ยวดองกันทุกรุ่นทุกสมัย
จึงเป็นที่เคารพ ยำเกรงของผู้คนในแวดวงไฮโซและในแวดวงธุรกิจ
คุณหญิงจารวี คุณผู้ชายทวีศักดิ์และเตชิน
พวกเขาทั้งสามคนนั่งในห้องทำงาน คุณหญิงจารวีได้เอ่ยกับลูกชายว่า
” เตชิน การหมั้นหมายครั้งนี้ลูกจะปฏิเสธไม่ได้นะ ลูกโตแล้วคิดทบทวนให้ดีๆ “
เตชินนิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดออกมาแต่เอ่ยเพียงว่า
” คุณแม่ก็รู้ว่าผมไม่ได้รัก ณัชชา การที่จะให้เธอมาแต่งงานกับผม เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ทางธุรกิจ มันไม่แฟร์กับเธอเลย “
คุณหญิงจารวีจึงเอ่ยต่อว่า
” แต่ทางหนูณัชชาเธอยอมที่จะหมั้นหมายและแต่งงานกับลูกนะ
เธอเต็มใจที่จะทำตามความต้องการผู้ใหญ่ ยึดประโยชน์ส่วนรวม
เธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังพ่อแม่ และทำเพื่อบริษัทมาตลอด
เธอเป็นผู้หญิงที่คู่ควรและเหมาะสมกับลูกที่สุด คนอื่นแม่ไม่ยอมรับเป็นสะใภ้เด็ดขาด “
เมื่อเตชินได้ยิน คำว่า ว่านอนสอนง่าย ออกจากปากผู้เป็นแม่
เขาถึงกับส่งเสียง ” เหอะ ” ออกมาแล้วเอ่ย
” เหอะ ว่านอนสอนง่ายเหรอ “
เขาไม่ใช่คนโง่ ที่จะมองคนไม่ออก ไม่งั้นบริษัทคงไม่สามารถบริหารบริษัท ให้ประสบความสำเร็จ
จนติดอันดับหนึ่งของประเทศหรอก เขารู้จักณัชชาดีกว่าใคร
แม้เธอจะขยันทำงานแต่เธอมีความทะเยอทะยานสูง
เพื่อให้ประสบความสำเร็จได้ในสิ่งที่ต้องการ
เธอไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง โดยไม่สนว่าจะได้มาโดยวิธีใด
สำหรับเตชินแล้ว ณัชชามีประโยชน์ในการทำงาน
แต่จะเอามาเป็นคู่ครองของเขาไม่ใช่ความคิดที่ดีเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ร้ายใช่ย่อย
หากมีพันธะมาผูกมัดกันแล้วยากที่จะสลัดเธอให้หลุดออกไปจากชีวิตได้
ดังนั้นเขาจึงเอ่ยต่อว่า
” คุณแม่อย่าเพิ่งด่วนตัดสินคนแค่ภายนอกครับ แม้เธอจะโตมากับผม
แต่คุณแม่ไม่รู้จักเธอดีเท่าผม ดังนั้นอย่าบังคับผมเลย
ยังไงผมก็ไม่หมั้นและไม่แต่งงานกับเธอเด็ดขาด
อย่าให้เธอมาเสียเวลากับผมเลย เธออายุยังน้อยให้เธอได้เจอคนที่คู่ควรและรักเธอจะดีกว่าครับ “
เขารู้ว่าณัชชามีความรู้สึกให้เขาแต่เขาไม่ได้ชอบเธอ
เมื่อต้องทำงานร่วมกัน เขาจึงตั้งกฏเหล็กของบริษัทขึ้น
เพื่อให้เธอระวังความคิดและระวังความรู้สึกที่มีต่อเขา
ได้ยินลูกชายยืนกรานที่จะไม่แต่งงานกับคนที่ตัวเองชื่นชอบ
คุณหญิงจารวีจึงวางเอกสารลงบนโต๊ะแล้วเอ่ย
” ลูกกลับไปอ่านเอกสารมาดีๆ แล้วค่อยมาให้คำตอบแม่
หากลูกยินดีที่จะเสียหุ้น 30% ไปฟรีๆ ก็แล้วแต่ลูกเลย แม่ขี้เกียจที่จะคุยกับลูกแล้ว “
พูดจบก็หันไปเอ่ยกับสามีด้วยสีหน้าโกรธเคือง
” นิสัยเหมือนคุณไม่มีผิด “
จากนั้น ก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงานไป แล้วทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นพ่อของเตชิน
ก็เดินเข้ามาตบบ่าลูกชายเบาๆแล้วเอ่ย
” ลูกตัดสินใจเอาเอง สำหรับพ่อแล้ว ลูกเลือกใครชอบใครพ่อก็แล้วแต่ลูก “
เตชินมองผู้เป็นพ่อแล้วเอ่ยเพียง
” ครับ “
จากนั้นทวีศักดิ์ก็เดินออกไป เตชินเปิดอ่านเอกสารสัญญา ในสัญญาระบุว่า
( ตระกูล อัศววัฒน์สกุล และตระกูล ธัญธราทรัพย์
ได้ลงนามในสัญญา พันธมิตรทางธุรกิจ โดยตระกูลธัญธราทรัพย์
จะได้รับสิทธิ์ถือหุ้น 15% ของบริษัท อสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยหุ้น 15% นี้จะสิ้นสุดสัญญาลงนาม ก็ต่อเมื่อ
ทายาทของตระกูล อัศววัฒน์สกุล และทายาทของตระกูล ธัญธราทรัพย์
ได้ทำการสมรสกัน หลังการสมรส หุ้น15% จะกลับมาเป็นของตระกูล อัศววัฒน์สกุล ตามเดิม
หากตระกูลของใฝ่ใดใฝ่หนึ่งได้กระทำการขัดต่อสัญญาฉบับนี้
จะต้องชดเชยเป็น 30% ของหุ้นทั้งหมด ในกรณีที่ทายาททั้งสองตระกูลได้ทำการสมรสกันแล้ว
และหย่ากันในภายหลัง ทุกอย่างจะถูกดำเนินการ
ไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตามสมควร
และเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย )
เตชินมองเอกสารสัญญาระหว่างตระกูลก็เอ่ยออกมาเสียงเย็น
” นี่มันสัญญาทางธุรกิจบ้าบออะไร มันสัญญาผูกมัดบังคับให้เกี่ยวดองกันชัดๆ “
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินออกไปจากห้องทำงาน
แล้วเดินออกจากประตูบ้านไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
โดยมีคุณหญิงจารวีแอบมองลูกชายจากข้างบนใบหน้ายิ้มอย่างพอใจแล้วพึมพำออกมาว่า
” ในประเทศนี้ ทั้งฐานะ การศึกษา ชาติกำเนิด ไม่มีใครที่คู่ควรกับลูกเลย
นอกจากหนูณัชชา เธอทั้งสุขุม เรียบร้อย มีมารยาท ชาติตระกูลดี
เพรียบพร้อมไปด้วยความสามารถ และยังช่วยแบ่งเบาภาระงานของลูกได้
จัดการเรื่องในบริษัทได้ดี ผู้หญิงแบบนี้จะปล่อยให้หลุดมือไปก็น่าเสียดาย แม่ไม่ยอมเด็ดขาด “
เมื่อกลับถึงบ้านพัก เขาเข้ามาในห้อง เห็นกองเสื้อผ้าในตะกร้า
เขาจึงหันมาเอ่ยถามกับผู้ช่วยส่วนตัวว่า
” แม่บ้านที่ให้หา คุณหาได้หรือยัง “
ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบไปว่า
” ผมคัดมาให้เรียบร้อยแล้วครับ ส่งประวัติของผู้สมัคร เข้าอีเมลของคุณชายแล้ว
เหลือแต่รอให้คุณชายเลือกแล้วนัดสัมภาษณ์งานครับ “
เตชินถอดกระดุมที่แขนเสื้อแล้วถอดเนคไทออกพร้อมกับเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า
” ก็แค่แม่บ้านคนเดียว คุณเลือกมาเถอะ ไม่จำเป็นต้องให้ผมเลือกเองหรอก
ทำงานไม่ถูกใจก็แค่ไล่ออก แล้วเอาคนใหม่มาก็จบ รีบเลือกด่วนเลย “
ตั้งแต่แม่เขามาคุยเรื่องที่จะให้เขาหมั้นกับณัชชาทุกวันๆ
เขารู้สึกรำคาญจึงย้ายออกมาอยู่บ้านพักคนเดียว
จึงจำเป็นต้องมีแม่บ้านคอยทำความสะอาดบ้านดูแลงานในบ้านให้เขาทั้งหมด