เมื่อไฟสว่างขึ้น เตชินมองไปยังผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรู้ดีว่าเจ้านายตัวเองต้องการจะพูดอะไร
เขาจึงเข้ามากระซิบว่า
” เธอคือแม่บ้านของคุณชายครับ ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เตชินก็อึ้งไป ไม่คิดว่าแม่บ้านของตัวเองจะหน้าตาดีและดูเด็กขนาดนี้
เมื่อนึกภาพอาหารในตู้เย็น เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อยที่ทิ้งของกินเธอไปจนหมด
เขารู้สึกตะลึงในความงามตรงหน้าจนต้องกลบเกลื่อนโดยการหันไปเอ่ยกับเธอว่า
” ยืนนิ่งอยู่ทำไม ตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงานสิ ”
” ค่ะ ”
พิมเอ่ยตอบแล้วลงมือตักเค้กเสิร์ฟให้ทุกคนในงาน
เธอเดินไปเสิร์ฟเค้กให้เพื่อนของเตชินที่นั่งดื่มเหล้า
วางเค้กลงบนโต๊ะแล้วหมุนตัวเดินออกมา
แต่เพื่อนของเตชินที่กำลังเมากลับคว้าข้อมือเธอไว้แล้วเอ่ย
” สาวน้อย มานั่งคุยกับพี่ก่อนสิ มาบริการพี่รับรองพี่ไม่ทำให้น้องเหนื่อยฟรี มีแต่คุ้มกับคุ้ม ”
เธอพยายามแกะมือเขาออก แต่เขากลับจับมือเธอแน่นขึ้น แล้วดึงเธอลงมานั่งบนตัก
เธอดีดตัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ย
” ขอโทษนะคะ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่มาทำหน้าที่บริการแบบที่คุณเข้าใจ ฉันเป็นแม่บ้านค่ะ ”
ไตรภพยิ้มขึ้นมาอย่างชอบใจแล้วเอ่ย
” ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมขอคุณให้มาบริการผมแล้วกัน ”
พิมพยายามอดทนและปฏิเสธอย่างสุภาพว่า
” ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ ”
เอ่ยจบเธอก็แกะมือเขาออกแล้วดึงมือกลับมา
แต่เขากลับลุกขึ้นมาโอบเอวเธออย่างดื้อรั้น
การกระทำทั้งหมดนี้ ตกอยู่ในสายตาของทุกคน แต่ทุกคนกลับรู้สึกเฉยๆ ราวกับดูละครฉากหนึ่งเท่านั้น
มีเพียงป๊อบที่ไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป
เขาจึงเดินเข้าไปหาไตรภพ แล้วดึงพิมมาอยู่ข้างหลังเขา แล้วเอ่ยอย่างให้เกียรติคนตรงหน้าว่า
” คุณไตรภพเมามากแล้ว ผมว่าคุณปล่อยเธอไปทำหน้าที่ของเธอจะดีกว่านะครับ
ข้างกายคุณยังมีสาวๆคนอื่นอีกเยอะที่ยินดีจะบริการคุณ
คุณคงไม่ยืดติดกับแค่แม่บ้านตัวเล็กๆคนเดียวหรอก ใช่มั้ยครับ ”
ไม่ใช่ว่าไตรภพอยากจะยอมปล่อยพิมไป แต่เพราะเขาเกรงใจป๊อบต่างหาก
เตชินมองดูสถานการณ์ตรงหน้า เขาหรี่ตาลงด้วยความสนใจแล้วเอ่ย
” น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ ”
จากนั้นเขากับนาวินก็เดินเข้าไปหาป๊อบกับพิมพร้อมกัน
เตชินจึงเอ่ยถามขึ้น
” คุณป๊อบรู้จักกับแม่บ้านของผมมาก่อนเหรอครับ ”
ป๊อบกำลังจะตอบเขาไปว่า ” ใช่ ” แต่พิมกลับรีบชิงเอ่ยขึ้นก่อนว่า
” พวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนค่ะ ”
จากนั้นเธอก็หันไปเอ่ยขอบคุณอาจารย์ป๊อบของเธอด้วยความซาบซึ้งใจ
แต่กลับก้มหน้าด้วยความรู้สึกที่ต่ำต้อยและอับอายอย่างมาก
ที่มาเจอคนที่ตัวเองแอบชอบ ในขณะที่สถานะตัวเองต่ำต้อยไม่คู่ควรกับเขาแบบนี้
” ขอบคุณ คุณมากค่ะที่ที่ช่วย ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ ”
ทำเอาอาจารย์ป๊อบถึงกับอึ้งพูดไม่ออก ได้แต่เผยอปากเล็กน้อย มองพิมด้วยความไม่เข้าใจ
แล้วพิมก็เดินออกไปเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟอาหารต่อไป
เธอไม่อยากให้ใครรู้ตัวตนและประวัติของเธอ และยิ่งไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอจบอะไรมา
ไม่งั้นมันจะทำให้เธอทำงานแบบนี้อย่างไม่มีความสุข
สวมบทบาทของแม่บ้าน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เชื่อฟัง รับใช้เจ้านาย โดยไม่หลงเหลือเกียรติใดๆ
เพราะเธอรู้สึกว่า หากคนรู้สถานะของเธอ
ก็เหมือนกับเธอเอาวิชาชีพมาทำให้มันไม่มีคุณค่าและทำให้มันไม่มีเกียรติ
ดังนั้นเมื่อเธอเลือกที่จะถอนหัวโขนออก
เธอก็ต้องเป็นคนธรรมดาทั่วไปอย่างคนอื่นให้ได้
ทุกคนสามารถกดขี่ หรือดูถูกเธอได้ โดยที่ไม่กระทบใดๆกับหัวโขนที่เธอถอดออกแล้ว
และในตอนนี้เธอรู้สึกได้ ว่าเธอกับอาจารย์อยู่คนละชั้นกัน ไม่มีทางที่จะมาบรรจบกันได้
ต่อให้เธอพยายามเขย่งเท้า พยายามเอื้อมมือคว้า ก็ไม่สามารถคว้าเขาได้ ไม่มีทางเอื้อมถึง
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกเศร้า เธอจึงตัดสินใจเดินไปเข้าห้องน้ำ
แล้วมองตัวเองในกระจกพึมพำออกมาในใจเบาๆ
[ พิมอย่าเพิ่งคิดอะไรให้ช้ำใจในตอนนี้ ทำงานๆ คิดซะว่า เขาไม่ใช่อาจารย์เธอ เขาคือคนแปลกหน้าคนหนึ่ง เข้าใจมั้ย ]
ในงานเตชินนั่งบนเก้าอี้ มองดูป๊อบกับนาวินนั่งคุยกันอย่างเงียบๆ
ในมือถือแก้วไวท์ขยับข้อมือไปมาเบาๆ
เขาสามารถจับพิรุธของสาวใช้ของเขาได้
ดูก็รู้ว่าเธอพยายามจะปกปิดบางอย่าง
เขายังสังเกตเห็นว่าป๊อบดูให้ความสนใจกับสาวใช้ของเขามากเป็นพิเศษ
เพราะกับสาวๆสวยๆเซ็กซี่ ที่เขาจัดหามา ป๊อบกลับไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะชายตามองเลย
” สองคนนี้ น่าสนใจจริงๆ ”
เมื่องานเลี้ยงเลิกรา อาจารย์ป๊อบเดินมาหาพิม
ที่ตอนนี้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว
แต่พิมกลับหลบหลีก ทำเป็นไม่เห็นและไม่สนใจ
เขา เขาจึงเอ่ยว่า
” ผมจะกลับแล้ว ดูแลตัวเองด้วย ”
เขาคิดว่าการที่เธอปฏิเสธที่จะให้คนรู้ว่าพวกเขารู้จักกันมาก่อนนั้น
เธอต้องมีเหตุผลของเธอ เขาเข้าใจ
แต่ที่เขาไม่เข้าใจคือ เธอเป็นคนเรียนเก่ง ทำไมต้องมาทำอาชีพแบบนี้
ส่วนพิมเธอไม่ตอบ เธอยังคงก้มหน้าก้มตาเช็ดโต๊ะ เก็บเศษอาหารและภาชนะต่างๆต่อไป
เมื่อแขกทุกคนกลับออกไปจนหมด เธอก็เข้าไปล้างถ้วยจานในครัว จนเลยเที่ยงคืน ตีหนึ่ง
แต่งานที่กองอยู่ตรงหน้าก็ยังไม่เสร็จสักที
เธอรู้สึกเหนื่อยล้ามาก แต่ก็ไม่ปริปากบ่นออกมาแม้แต่น้อย
เตชินที่เมาเล็กน้อย เดินออกมาจากห้อง ด้วยความกระหายน้ำ จึงลงมาเอาน้ำดื่ม
ก็เห็นเธอยังคงยืนล้างถ้วยล้างจานอยู่ เขาจึงเอ่ยขึ้น
” ทำไมยังอยู่ตรงนี้ ไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาทำก็ได้ ”
เธอจึงเอ่ยตอบไปว่า
” ค่ะ แต่งานในหน้าที่ฉันมีให้ทำทุกวัน หากกองไว้ตรงนี้ งานอื่นก็จะล่าช้าออกไปด้วย ”
เตชินไม่เข้าใจหรอกว่าในแต่ละวันเฟิร์นทำงานเยอะและเหนื่อยมากแค่ไหน
ดูเหมือนไม่มีอะไรเยอะ แต่งานหลักและงานจุกจิกกลับมีให้เธอทำไม่ขาดมือ
” งั้นก็ตามใจ พรุ่งนี้วันหยุดคุณ ผมมีธุระต้องออกไปข้างนอก
คุณไปกับผมนะ ผมจะพาคุณไปซื้อของกินมาตุนไว้ในบ้าน ”
ได้ยินดังนั้น เธอจึงเอ่ยตอบเพียง
” ได้ค่ะ ”
แล้วเตชินก็หยิบน้ำดื่มขึ้นไปชั้นบนทันที
ในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาพาเธอมาซื้อของในบิ๊กซี
เธอเกรงใจเขามากและรู้สึกเกรงๆที่มากับเขา
เธอจึงเอ่ยว่า
” เอ่อ คุณชายไปทำธุระของคุณชายก่อนก็ได้นะคะ ฉันจะเดินซื้อของรอคุณชายในนี้ไปก่อน ”
เขาที่มีสีหน้านิ่ง เคร่งขรึม เย็นชาตลอดเวลา
ก็เอ่ยออกมาอย่างนิ่งเฉยว่า
” อืม งั้นคุณก็เลือกซื้ออะไรไปก่อน อยากกินอะไรซื้อเอาเลยไม่ต้องเกรงใจ
ในแต่ละวันคุณต้องใช้พลังงานเยอะ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรล่ะ
ไม่งั้นคงไม่มีใครคอยทำงานบ้านให้ผม ถ้าคุณป่วยขึ้นมาคงไม่มีใครทำแทนได้ ”
ประโยคหลังทำเอาพิมถึงกับพูดไม่ออก เธอมองเขาอย่างคาดไม่ถึง
ว่าคนคนหนึ่งจะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองได้มากถึงเพียงนี้
เธอถึงกับแอบพึมพำในใจว่า
[ นี่ถ้าเราไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เขาจะปฏิบัติกับเรายังไงเนี่ย
พวกคนรวยนี่คงเป็นแบบนี้ทุกคนเลยสินะ เห็นคุณค่าของคน แค่ตอนที่เขายังมีประโยชน์อยู่
เฮ้อ โลกของคนรวยนี่ช่างอยู่ยากจริงๆ ]
เอ่ยจบเตชินก็ยื่นบัตรใบหนึ่งมาให้เธอแล้วเอ่ยต่อว่า
” รูดได้ตามสบาย ”
เธอรับมาแล้วเอ่ย
” ขอบคุณค่ะ ”
ทั้งสองคน ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไป
พิมเดินซื้อของอย่างเพลิดเพลินโดยที่สมองไม่คิดอะไร
ไม่นานของที่เธอหยิบใส่ๆก็เต็มรถเข็น เธอเลยเดินไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ทันที
แล้วเตชินก็กลับมารับเธอ เมื่อคิดเงินเสร็จทั้งสองก็กลับไปที่รถ
เธอหยิบของใส่รถ เสร็จแล้ว ก็เดินมาเปิดประตูขึ้นมานั่งในรถ
แล้วเตชินก็ขับรถออกไป ตลอดทางกลับบ้านทั้งสองนั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
เธอเองก็อึดอัดมาก คิดว่าต่อไป คงจะไม่ได้ออกไปไหนสองต่อสองกับเจ้านายแบบนี้
เพราะเธอไม่คุ้นชินกับการนั่งรถส่วนตัว
สองต่อสองกับคนแปลกหน้าเช่นนี้