ปู่ของเตชินรู้ข่าวว่าหลานชายแต่งงานแล้ว
ก็รีบบินมาไทยทันที
เมื่อผู้ช่วยคังรู้ก็รีบมารายงายเตชินทันทีเช่นกัน
เตชินว่ายน้ำอยู่สระว่ายน้ำหลังบ้าน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเหนือน้ำ
เดินขึ้นมาจากสระ เตรียมจะไปอาบน้ำล้างตัว ผู้ช่วยคังก็เอ่ยขึ้น
” คุณชายครับ คืนนี้คุณหญิงให้คุณกลับบ้านครับ บอกว่าคุณท่านหลิวมาไทย อยากให้กลับไปร่วมทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครับ ”
เตชินหยุดชะงัก แววตาฉายแววแข็งกร้าวและดูร้ายกาจขึ้นมาทันที แล้วเอ่ย
” ในที่สุด พวกเขาก็ใช้คุณปู่ มาเป็นเครื่องมือบังคับให้ผมกลับบ้านจนได้ ”
ผู้ช่วยคังกลัวเจ้านายจะไม่ยอมกลับไปเขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังว่า
” คุณชายไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือนแล้ว กลับไปพบคุณท่านหลิวสักหน่อย ไม่ดีเหรอครับ ”
เตชินยิ้มเย็นแล้วเอ่ย
” อืม ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าณัชชากับคุณแม่
คิดวางแผนจะทำอะไรต่อ ”
” คุณไปเตรียมรถเถอะ ”
พูดจบเขาก็เดินเข้าไปอาบน้ำแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมากำชับกับผู้ช่วยคังว่า
” อ้อ แล้วอย่าลืมบอกแม่บ้านด้วยล่ะ ให้เธอเตรียมตัวตามผมกลับไปบ้าน
แล้วคุณช่วยเตรียมชุดดีๆให้เธอไว้สำหรับดินเนอร์ครอบครัวในค่ำคืนนี้ด้วย ”
ผู้ช่วยคังยืนมองเจ้านายตัวเองอย่าง งงงัน
ด้วยความไม่เข้าใจ
และเดาไม่ออกว่าผู้เป็นนายกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่
แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรอีกต่อไปจึงได้แต่เอ่ยตอบว่า
” ครับ ”
แล้วไปทำตามที่เจ้านายสั่ง พิมกำลังตากผ้าอยู่
เมื่อเห็นผู้ช่วยคังเดินเข้ามาหา เธอจึงหันมาถามเขาว่า
” คุณคังมาหาฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ ”
ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยว่า
” คืนนี้คุณชายจะกลับไปทานข้าวที่บ้าน คฤหาสน์ตระกูล อัศววัฒน์สกุล
คุณชายให้คุณตามไปด้วย คุณเตรียมตัวไว้ดีๆล่ะ ”
พิมถึงกับงง มองหน้าผู้ช่วยคัง แล้วเอ่ยถามขึ้น
” ทำไมฉันต้องไปด้วยคะ ไปช่วยเสิร์ฟอาหาร
เหรอ หรือต้องไปช่วยทำงานบ้าน ”
” ผมเองก็ไม่ทราบรายละเอียดครับ เอาเป็นว่าถึงเวลา เราก็จะได้รู้พร้อมกัน ”
” อ่อ ค่ะ ”
เธอเอ่ยออกมาอย่างไม่เต็มใจ เพราะเธอไม่อยากไปข้างนอก
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่งเจ้านาย
แล้วผู้ช่วยคังก็หันหลังเดินออกไป พิมก็หันมาตากผ้าต่อ
ตอนเย็น พิมแต่งตัวเรียบร้อย นั่งรอเตชินลงมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้เธอใส่ชุดสวยๆแบบนี้
จะบอกว่าไม่ชอบก็คงไม่ใช่ แต่เธอรู้สึกแปลกๆและไม่สบายใจมากกว่า
เมื่อเตชินลงมาเธอจึงลุกขึ้นแล้วมายืนรอเขาอยู่ข้างๆผู้ช่วยคัง
เมื่อเตชินเห็นเธอในลุคสาวสวยก็เผลอมองเธอตาไม่กะพริบแวบหนึ่ง
จากนั้นก็หันไปทางอื่นอย่างเย็นชา เมื่อลงมาถึง ผู้ช่วยคังก็รีบเอ่ยขอความเห็นขึ้น
” เอ่อ คุณชายชุดนี้ของคุณพิม ผ่านมั้ยครับ ”
เขาจึงเอ่ยอย่างเย็นชา น้ำเสียงเรียบเฉยราวกับขี้เกียจว่า
” ผ่านหรือไม่ผ่าน มาถามตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร ไปเถอะ ”
” ครับ ”
แล้วทั้งสามคน ก็เดินออกจากบ้าน ไปขึ้นรถทันที
ระหว่างทาง ภายในรถเงียบสนิท จนได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน
พิมอึดอัดใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เธอก็แสร้งทำตัวปกติ ราวกับไม่อึดอัดอะไร
เตชินที่หลับตาอยู่ จู่ๆก็เอ่ยถามขึ้น
” คุณชื่อ พิม ใช่มั้ย ”
เธอล่ะนับถือเขาจริงๆ อยู่บ้านเขาเป็นเดือนแล้วเพิ่งจะมาถามชื่อเธอตอนนี้ เธอจึงตอบเขาไปว่า
” ค่ะ ”
แล้วเขาก็เอ่ยต่อว่า
” คืนนี้คุณนั่งทานข้าวเป็นเพื่อนผม ร่วมกับครอบครัวผมหน่อยนะ
คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแค่นั่งทานข้าวเฉยๆอย่างเงียบๆ หากใครถามอะไรคุณ
ผมจะตอบแทนเอง แล้วก็เวลาผมพูดอะไร
แต่เอาเข้าจริงๆมันคือประโยคคำสั่ง ที่ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธเลย
เธอจึงทำได้แค่เอ่ยอย่างจำใจ ว่า
” ค่ะ ”
ผู้ช่วยคัง มองพวกเขาผ่านกระจกหลัง เขารู้สึกแปลกๆ ที่คุณชายเขาปฏิบัติต่อพิมดีกว่าคนอื่น
แต่อีกใจกลับคิดว่าคงเป็นเพราะพิมดูเป็นเด็กซื่อๆเชื่อฟังแถมยังทำงานดีอีก
เลยทำให้คุณชายประทับใจเลือกที่จะใช้งานเธออย่างเหมาะสม
ดูแล้วเธอมีประโยชน์หลายอย่างเลยทีเดียว
ด้วยรูปร่างหน้าตาสามารถพาออกงานได้ ไม่ต้องกลัวว่าเธอจะเกาะติดตามตื้อ
ไม่ต้องกังวลว่าจะสลัดไม่หลุด เพราะเธอเป็นแม่บ้าน เป็นสาวใช้ส่วนตัวของคุณชาย
คิดๆดูแล้วถือว่าคุ้มค่าจ้างที่คุณชายจ้างเธอมาทีเดียว
เมื่อถึงคฤหาสน์ ตระกูลอัศววัฒน์สกุล พวกเขาก็ลงจากรถ
เตชินก็เริ่มเล่นละครกวนประสาทณัชชากับผู้เป็นแม่
เขายื่นมือออกมาพร้อมกับเอ่ยถามพิมว่า
” พร้อมหรือยัง ”
พิมไม่เข้าใจ ว่าจำเป็นถึงขนาดต้องจับมือถือแขนกันเลยเหรอ เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง
” ไม่เหมือนที่ตกลงกันไว้ในรถเลยนะคะ ”
คำพูดและท่าทางของเธอดูสง่าน่าเกรงขามจน
เตชินรู้สึกได้
เขาจึงเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยว่า
” ตามที่คุยกันไว้คือ คุณต้องเออออตามผม ”
พิมถึงกับหมดคำจะพูด เธอจึงยื่นมือไปวางลงบนฝ่ามือของเขา เล่นละครตามเขาไป
เตชินจูงมือพิมเข้าไปในบ้าน ณัชชากับคุณหญิงจารวีดีใจมากที่ลูกชายยอมกลับมา
แต่เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับเตชิน
แถมเตชินยังจูงมือผู้หญิงมาด้วยความทะนุถนอม
พวกเขาก็โกรธขึ้นมาทันที ณัชชามองพิมด้วยแววตาเกลียดชัง ท่าทางนิ่งเฉยไม่เอ่ยอะไร
บนโต๊ะอาหารทุกคนจ้องมองเตชินกับพิมตาไม่กะพริบ เตชินจึงเอ่ยขึ้น
” สวัสดีครับคุณปู่ สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่
วันนี้ผมพาภรรยาที่ผมรักมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก เธอชื่อพิม
พวกเรารักกันและอยู่ด้วยกันก่อนที่ผมจะ
แต่งงานกับณัชชาแล้วครับ
อนุญาตให้พวกเราแต่งงานกันด้วยนะครับ ”
พิมและผู้ช่วยคังที่ได้ยินก็ถึงกับเงิบไป ไม่คิดว่าเตชินจะพูดแบบนี้
เธอจะยกมือขึ้นมาปฏิเสธแต่เตชินกลับจับมือเธอไว้แน่น
หันมามองเธอแล้วยิ้มให้เธอพร้อมกับเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า
” พิมคุณไม่กลัวนะ คุณปู่คุณพ่อคุณแม่ท่านเข้าใจ
จากนี้ไปเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปแล้ว และไม่ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป
คุณคือภรรยาคนเดียวที่ผมยอมรับและเต็มใจที่จะแต่งงานด้วย
และเป็นคุณคนเดียวที่ผมจะพาออกงานสังคมรู้มั้ย ”
ณัชชากำชายกระโปรงที่อยู่ใต้โต๊ะแน่น จนฝ่ามือขาวซีดไปด้วยความโกรธ
ที่เตชินพยายามจะหักหน้าเธอต่อหน้าพ่อแม่และปู่ของเขา
แต่สีหน้าเธอกลับดูปกติไม่ทุกร้อนอะไร เธอแสร้งยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นอย่างใจกว้าง
” ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ให้เธอเป็นภรรยาอีกคนของพี่เตชินเถอะค่ะ
จะได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระงานและช่วยกันดูแลพี่เตชินแบบนี้ดีมั้ยคะคุณพิม ”
พิม มึนตืบไม่ตอบอะไร เธอยืนนิ่งไม่ไวติ่ง อึ้งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ชีวิตเธอจะดำเนินไปในทิศทางไหน
เธอยากที่จะยอมรับ ที่อยู่ๆก็ถูกยัดเยียดความเป็นภรรยารอง
หรือภาษาชาวบ้านเรียกเมียน้อยนั่นเอง
คุณท่านหลิวได้ยินดังนั้นก็เอ่ยชมณัชชาและเห็นด้วยกับการที่หลานชายจะมีภรรยาสองคน
” หนูณัชชาช่างใจกว้างจริงๆ อาเตชินเอ้ย
การที่หาผู้หญิงใจกว้างอย่างหนูณัชชานั้นไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ
ต้องถนอมไว้ให้ดีๆ มาๆพาหนูพิมมานั่งทานข้าวด้วยกันเถอะ
เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยทีหลัง ตอนนี้ปู่หิวจนไส้กิ่วละ ”
” ครับ ”
เตชินเอ่ยตอบอย่างยิ้มๆ
ตอนนี้พิมสับสนมาก ว่าควรจะลุกขึ้นมาต่อต้านปฏิเสธว่าไม่ใช่อย่างที่ทุกคนเข้าใจ
หรือควรจะเล่นไปตามน้ำต่อดี
เตชินพาเธอไปนั่งแล้วทำท่าทางรักใคร่อย่างสนิทสนมเหมือนกำลังหอมแก้มเธอโชว์หวานให้ทุกคนดู
แต่ความจริงเขากระซิบข้างหูเธอว่า
” มีสติหน่อย เล่นไปตามน้ำก่อน ผมไม่คิดจะมีภรรยาพร้อมกันสองคนหรอก คุณไม่ต้องคิดมาก ”
ได้ยินแบบนี้พิมเหมือนจะรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่า
เขากับภรรยามีปัญหาอะไรกันกันแน่ และเธอก็เพิ่งจะรู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว
แล้วทำไมถึงแยกกันอยู่ เป็นข้อสงสัยที่ยังคาอยู่ในใจของเธอ