หลังจากทานข้าวกันเสร็จ คุณท่านหลิวก็เอ่ยขึ้น
” เตชิน หลานก็แต่งงานแล้ว รีบๆมีเหลนให้ปู่อุ้มนะ
แล้วก็อย่าเอาแต่ทำงานจนลืมหนูณัชชาล่ะ
หนูณัชชาเองก็ด้วยอย่ามัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้เตชิน เข้าใจมั้ย
ปู่แก่แล้วเห็นคนอื่นอุ้มหลาน อุ้มเหลนก็อยากจะอุ้มกับเขาบ้าง ”
เตชินนั่งฟังนิ่ง ตอบเพียง
” ครับ ”
ส่วนณัชชาเธอยิ้มอย่างเขินอายพร้อมกับเอ่ยว่า
” ค่ะ ”
เธอแอบเยาะเย้ยพิมในใจ คิดว่าพิมคงจะเสียใจและอิจฉาเธอที่ทุกคนดีต่อเธอ
แต่เมื่อเหลือบมองมาทางพิมเธอก็ต้องผิดหวัง เมื่อพิมนั่งนิ่ง ยิ้มอย่างสดใส
ไม่มีร่องรอยของความอิจฉาริษยาใดๆเลย และดู
เหมือนพิมจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด
จนเธอเริ่มสงสัย ในความสัมพันธ์ของพิมกับ
เตชิน
จากนั้นเตชินจึงเอ่ยขึ้นว่า
” นี่ก็ดึกมากแล้ว ผมกับพิม ขอตัวกลับก่อนนะครับ ”
พูดจบเขาก็จับมือพิมลุกออกจากโต๊ะอาหารไป
ณัชชามองหน้าคุณหญิงจารวีด้วยสีหน้าผิดหวังและแฝงไปด้วยความเสียใจ
คุณหญิงจารวีมองเธออย่างเห็นใจ แล้วเขาก็ลุกจากเก้าอี้ตามเตชินไปแล้วเอ่ยเรียก
” เตชิน ลูกจะรีบกลับไปทำไมในเมื่อที่นี่ก็คือบ้านของลูก วันนี้ลูกนอนที่นี่เถอะนะ ”
เตชินคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เขาจึงหันมามองพิมแล้วเอ่ยกับแม่เขาว่า
” คงไม่สะดวกครับ เพราะผมไม่อยากทำให้พิมรู้สึกลำบากใจ ”
ได้ยินดังนั้นคุณหญิงจารวีโกรธมากที่ลูกชายเห็นผู้หญิงคนอื่นดีกว่าผู้เป็นแม่
แต่เขาก็คุมอารมณ์ไว้ยิ้มขึ้นแล้วเอ่ย
” งั้นก่อนกลับลูกมานั่งคุยกับแม่สักครู่ได้มั้ย แม่มีเรื่องจะคุยด้วย ”
จากนั้นก็เลื่อนสายตามามองพิมแล้วเอ่ย
” หนูพิมคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยจ้ะ ”
พิมยิ้มขึ้นมาอย่างกระอักกระอ่วนใจแล้วเอ่ย
” มะ ไม่ ไม่ว่าค่ะ ตามสบายเลย ”
แล้วเธอก็หันไปเอ่ยกับเตชินอย่างระมัดระวังว่า
” ฉัน ฉันกลับไปรอคุณที่รถนะคะ ”
พูดจบเธอก็รีบเดินออกไปทันที พร้อมกับหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เตชินมองตามแผ่นหลังของเธอด้วยความไม่พอใจ
คุณหญิงจารวียิ้มอย่างพอใจ แล้วเอ่ยกับลูกชายว่า
” ไปนั่งคุยกับแม่ที่ห้องรับแขกหน่อย แม่มีเรื่องจะปรึกษา ”
” ครับ ”
แล้วเขาก็เดินตามผู้เป็นแม่ไป พอนั่งลง สาวใช้ก็เข้ามาเสิร์ฟน้ำแครอททันที
คุณหญิงจึงยื่นน้ำแครอทไปให้ลูกชายพร้อมกับเอ่ยว่า
” แม่เห็นว่าลูกไม่ได้กลับมาบ้านนานแล้ว แม่เลยเตรียมน้ำแครอทที่ลูกชอบคั้นไว้ให้ ”
เตชินไม่แสดงอารมณ์ใดออกมา บนใบหน้ามีแต่ความเย็นชา ที่ยากจะคาดเดาอารมณ์ได้
แล้วรับน้ำแครอทมาดื่มจนหมดแก้ว คุณหญิง
จารวีจึงเอ่ยต่อว่า
” คุณปู่อยากอุ้มเหลน แม่กับพ่อเองก็อยากได้หลาน ตามพินายกรรมที่คุณยายระบุไว้
ทายาทที่จะรับมรดกได้ ต้องเป็นทายาทที่เป็นผู้ชาย
และมีครอบครัวมีลูกกับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
แม่ขอโทษนะเตชิน ที่ต้องทำแบบนี้ คืนนี้ลูกนอนกับหนูณัชชาที่นี่แล้วกันนะ
จะได้รีบมีลูกและรับมรดกทั้งหมดของคุณยายส่วนหนูพิม ลูกไม่ต้องห่วงหรอก
แม่จะอนุญาตให้ลูกแต่งงานกับเธออย่างถูกต้องตามประเพณี ”
จากนั้นคุณหญิงจารวีก็กวักมือเรียกณัชชาที่แอบอยู่ออกมา
เธอนั่งลงข้างๆเตชิน เตชินเริ่มรู้สึกคอแห้ง คลั่งเนื้อคลั่งตัว ร่างกายร้อนผ่าว เขารู้ได้ทันทีว่าถูกวางยา
เขามองไปยังผู้เป็นแม่แล้วฝืนเอ่ยขึ้น
” ไม่คิดว่า คุณแม่ จะใช้วิธี สกปรกแบบนี้ คุณยังมีความเป็น แม่ คนอยู่มั้ย ”
คุณหญิงจารวีรู้สึกผิดต่อลูกชาย แต่ก็สงสารลูกสะใภ้ ที่แต่งเข้ามาก็ถูกทอดทิ้งไปตั้งแต่คืนแรก
และคิดว่าจะทำการใดใจต้องนิ่งและเด็ดขาด เขาเองก็ทำเพื่อลูกชาย
จากนั้นเขาก็ไม่มองลูกชายอีกแล้วหันมาเอ่ยกับณัชชาว่า
” หนูณัชชา แม่ฝากดูแลเตชินด้วยนะ พาเขาไปพักผ่อนเถอะ ส่วนทางนั้นแม่จะจัดการเอง ”
” ค่ะ ”
ณัชชาเอ่ยตอบ แล้วพยุงร่างของเตชินให้ลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ย
” อาการคุณดูไม่ค่อยดี ขึ้นไปนอนบนห้องเถอะค่ะ ”
แต่เตชินกลับมองเธอด้วยแววตาแดงก่ำ ราวกับอยากจะฆ่าเธอ
เตชินพยายามควบคุมสติ แล้วผลักณัชชาออกไปอย่างแรงจนเธอล้มลงบนพื้น
แล้วเขาก็รีบวิ่งออกไปจากคฤหาสน์อย่างทุลักทุเล
เห็นแม่ของตัวเองยืนคุยกับพิมและผู้ช่วยคัง เขาก็รีบเข้าไปผลักแม่จนล้ม แล้วเอ่ยเสียงดุดัน
” นับจากวันนี้ไป คุณกับผม เราขาดกัน ”
เอ่ยจบ เขาก็จับข้อมือพิมแล้วลากเธอเข้าไปในรถทันที พร้อมกับเอ่ยกับผู้ช่วยว่า
” ออกรถ ”
พิมงงมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้เธอยังเห็นเขาอยู่ในสภาพดีๆอยู่เลย
และแม่ของเขาก็ออกมาบอกเองว่าเขาจะนอนกับภรรยาที่บ้าน แต่ตอนนี้กลับ กลับมาในสภาพนี้
แล้วเธอก็เริ่มคิดอะไรได้ จึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังตัว พร้อมกับถอยห่างออกไปจากเขา
” คุณ คุณชาย คุณถูกวางยาเหรอ คุณต้องควบสตินะ อย่าทำอะไรฉันเด็ดขาด ”
ผู้ช่วยคังเห็นว่าเจ้านายตัวเองยังมีสติอยู่จึงเอ่ยถามขึ้น
” คุณชาย ไปโรงพยาบาลก่อนมั้ยครับ ”
” ไม่ต้อง กลับบ้านเลย ”
” ครับ ”
แล้วผู้ช่วยก็รีบขับรถกลับไปบ้านอย่างไว พิมนั่งชิดมุมกระจก ด้วยความหวาดกลัว
เธอก็เคยได้ยินมาว่าคนที่ถูกวางยาปลุกกำหนัดจะทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัว
เธอเลยค่อนข้างที่จะระวังตัวพร้อมกับกำมือแน่นเพื่อป้องกันตัว
เธอสั่นกลัวจนไม่รู้ว่าผู้ช่วยคังขับรถเร็วแค่ไหน
ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึงบ้าน
เธอรีบลงจากรถเตรียมตัวจะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง
แต่ถูกผู้ช่วยคังหยุดไว้แล้วเอ่ย
” คุณพิม คุณช่วยไปเตรียมน้ำเย็นในอ่างห้องคุณชายให้หน่อย
แล้วช่วยไปเตรียมเกลือแร่เย็นๆให้คุณชายดื่มด้วย ”
เธอจะปฏิเสธก็ไม่ได้ ได้แต่พึมพำในใจอย่างไม่พอใจว่า
[ นี่ผู้ช่วยคังคิดอะไรอยู่ กะจะส่งเนื้อเข้าปากจระเข้หรือไง เฮ่ย ช่างเหอะ
คิดซะว่าวันนี้เรียนรู้วิชาเอาตัวรอดจากสถานการณ์จริงก็แล้วกัน ]
เธอพยายามคิดและมองโลกในแง่บวกแล้วเอ่ยตอบว่า
” ได้ค่ะ ”
แล้วเธอก็รีบเดินนำขึ้นไป นำน้ำมาเติมในอ่าง ผู้ช่วยคังพยุงเตชินขึ้นมาแล้วพาไปแช่น้ำเย็น
เพื่อให้ร่างกายที่ร้อนรุ่มค่อยๆทุเลาลง เขาเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อน
จากนั้นจึงหันไปเอ่ยกับพิมว่า
” คุณพิม คุณอยู่ดูแลคุณชายนะ เดี๋ยวผมจะโทรตามหมอมาให้ ”
พิมที่ได้ยินดังนั้นก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีลนลานอยู่ไม่สุข รีบเอ่ยขึ้น
” คะ? เดี๋ยวค่ะ คุณคัง คือฉัน… ”
เธอพูดไม่ทันจบผู้ช่วยคังก็ปิดประตูเสียงดัง
” ปัง! ”
ไม่อยู่ฟังเธอพูดอีก แล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปทันที
เขาไม่รู้ว่าที่เจ้านายของเขาไม่ยอมไปโรงพยาบาลเพราะอะไร
นอกจากจะเป็นเพราะพิมแล้ว เขาคิดไม่ออกแล้วจริงๆ
เขาคิดว่าเจ้านายของเขาคงจะสนใจในตัวพิมเข้าแล้ว
เลยต้องการที่จะใช้โอกาสนี้อยู่กับพิมให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจทิ้งให้พิมอยู่
ตามลำพังกับคุณชายเขา
พิมกำมือแน่นด้วยความโมโห จนควบคุมอารมณ์ไม่ไหวแล้ว
จึงเอาน้ำเย็นฉีดใส่หน้าของเตชิน แล้วเอ่ยอย่างโมโห
” คุณเตชิน คุณและลูกน้องรวมหัวกันใช่มั้ย
ฉันไม่ได้เป็นคนวางยาคุณ
ทำไมต้องให้ฉันมารับเคราะห์กรรมแทนด้วย ทำไมคุณถึงไม่ไประบายกับคนที่เขาวางยาคุณ ”
พูดจบเธอก็เดินออกมา เตชินที่สติยังคงเหลือน้อยนิด
คว้าข้อมือเธอมาจับไว้ แล้วลุกจากอ่าง ลากเธอไปบนเตียง
เธอตกใจกลัวจนตัวสั่นพร้อมกับเอ่ยตะคอกเสียงดัง
” คุณเตชิน คุณมีสติหน่อยสิ ฉันพิม คนใช้ของคุณนะ
คุณเตชิน ได้โปรด ปล่อยฉัน ได้โปรดควบคุมสติหน่อยสิ ”
ตอนนี้เตชินรู้เพียงว่าต้องการดับร้อนภายในใจร่างกายต้องการปลดปล่อย
เขาเริ่มฉีกเสื้อผ้าพิมทิ้งอย่างป่าเถื่อน พิมกลัวจนร้องให้ไม่หยุด
เมื่อเขาก้มลงมาจูบเธอ เธอจึงตัดสินใจกัดปากเขาจนเลือดไหลออกมา
แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย เธอจึงรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ยกฝ่ามือขึ้นแล้วตีลงที่ท้ายทอยเขาแรงๆ
เหมือนอย่างในหนังที่เธอเคยดู แม้จะเป็นการทดลองครั้งแรก
เพื่อให้ตัวเองรอดจากเตชินในครั้งนี้ และดูเหมือนจะสำเร็จได้ผลดีด้วย
เตชินสลบลงบนตัวเธอทันที เธอจึงผลักเขาออก แล้วเช็คดูว่าเขายังหายใจอยู่หรือเปล่า
เมื่อเตชินยังมีลมหายใจ เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แล้วพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างเหนื่อยหน่ายกับเหตุการณ์วันนี้
แล้วมองเตชินที่นอนสลบอยู่เอ่ยอย่างโมโหว่า
” พรุ่งนี้ คุณเตรียมจ่ายค่าทำขวัญและค่าจ้างที่นอกเหนือจากงานในหน้าที่แม่บ้านอื่นๆด้วยแล้วกัน ”
แล้วเธอก็เดินไปเปิดประตู ออกจากห้องของเตชินไป