หลังจากทานข้าวเสร็จ พิมเลือกที่จะไม่ใช้ลิฟท์แต่เดินออกไปทางบันได
เพราะไม่อยากให้ผู้คนรู้ว่าเธอมาหาเตชิน พอเธอเดินลงบันไดไป
เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคุยโทรศัพท์ ท่าทางน่าสงสัย
เธอจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวีดีโอ
เธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นพูดว่า
” ตอนนี้ข่าวที่ท่านประธานมีภรรยาสองคนถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียลแล้ว
ท่านประโกรธจนหย่ากับคุณณัชชา ตอนนี้ข้างกายท่านประธานไม่มีใครแล้วค่ะ
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตอนนี้เหลือแค่รอดูคุณณัชชาลาออกเท่านั้นค่ะ ”
ประโยคสุดท้ายพิมตกใจจนดวงตาเบิกกว้าง เธอไม่คิดว่าเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้นในบริษัทของ
เตชิน
จะมีผู้อยู่เบื้องหลังคอยกวนน้ำให้ขุ่น เธออยากจะเห็นโฉมหน้าของผู้หญิงคนนั้น
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่หันมาทางเธอเลย
แล้วอยู่ๆเสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น
ทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ตัวรีบเอาผ้ามาปิดหน้าแล้ววิ่งหนีไป
พิมเองก็กลัวถูกจับได้เธอรีบวิ่งลงบันได้ไป แทบจะกลิ้งเป็นลูกบอลอยู่แล้ว
ทางฝั่งผู้หญิงคนนั้น ปลายสายของเขาเอ่ยถาม เขาจึงตอบไปว่า
” มีคนมาเห็น โชคดีที่คลุมหน้าไว้ คุณอย่ากังวลไปเลย
ตรงบันได้หนีไฟปกติไม่มีใครใช้ คงจะเป็นแค่พวกพนักงานหรือแม่บ้าน
ฉันจะไปสืบดูว่าวันนี้ใครใช้ทางหนีไฟบ้างคงสืบได้ไม่ยาก”
พูดจบผู้หญิงคนนั้นก็ออกไปทางด้านหลังของบริษัท
พิมวิ่งลงมาหน้าตาตื่น พอเห็นรถผู้ช่วยคัง เธอก็รีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถแล้วเอ่ย
” คุณคังรีบออกรถเร็ว ”
เธอเองก็กลัวถูกตามล่า ที่ไปรู้ไปเห็นอะไรที่ไม่ควรรู้ไม่ควรเห็น
ผู้ช่วยคังขับรถออกไปด้วยความงง สักพักพอรถวิ่งออกมาไกลจากบริษัทแล้ว
พิมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยถามว่า
” คุณพิมเกิดอะไรขึ้นครับทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาแบบนั้นราวกับวิ่งหนีใครมา ”
เธอจึงหัวเราะกลบเกลื่อน เอ่ยตอบผู้ช่วยคังไปว่า
” เฮ่อๆ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่นึกสนุก อยากออกกำลังกายให้หัวใจสูดฉีดดีขึ้นหน่อยเท่านั้นค่ะ ”
เธอไม่อยากพัวพันกับเรื่องของคนรวย เพราะเธอไม่อยากซวยเวลาอยู่ไกลบ้าน
ผู้ช่วยคังแอบมองเธอผ่านกระจกหลังอย่างเงียบๆเธอเองก็พยายามหลับตานิ่งเช่นกัน
เธอนึกภาพแผ่นหลังของผู้หญิงคนนั้น เธอรู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
อยู่ๆเธอก็ลืมตาขึ้นแล้วถามหยั่งเชิงดู
” คุณคัง ช่วงนี้ที่บริษัท คุณเตชินคงจะยุ่งมากเลยใช่มั้ยคะ สีหน้าเขาดูโทรม ร่างกายดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ”
ผู้ช่วยคังถอนหายใจออกมาแล้วเอ่ย
” ครับ ช่วงนี้ที่บริษัทเกิดปัญหาขึ้น คุณชายแทบไม่ได้หลับได้นอนเลย
ทานข้าวก็น้อยและยังทานไม่เป็นเวลาอีก มีแค่วันนี้ที่คุณพิมมาทานเป็นเพื่อน
คุณชายเลยทานเยอะหน่อย และยังหลับสนิทอีกด้วย
ผมคิดว่าช่วงนี้คุณพิมมาทานเป็นเพื่อนคุณชายบ่อยๆก็ดีนะครับ ”
เธอจึงยิ้มแล้วเอ่ยตอบไปว่า
” อ๋อ ค่ะ แล้วคุณณัชชากับคุณเตชิน
พวกเขา แต่งงานจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วใช่มั้ย
คือ ที่ถามก็เพื่อที่จะได้รู้ว่าควรแสดงบทบาทไปในทิศทางไหนค่ะ ”
ผู้ช่วยคังยิ้ม คิดว่าคงเป็นเพราะพิมเกรงใจอำนาจภรรยาหลวง
และเป็นคนใส่ใจในทุกรายละเอียดของงาน จึงเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง
” เรื่องของคุณณัชชา คุณพิมสบายใจได้เลยครับ เธอกับคุณชายได้หย่ากันแล้ว
เพียงแต่คุณชายไม่อยากให้เธอมาเสียเวลาด้วยจึงจ้างคุณมากันเธอออก
เพราะคุณชายไม่ได้รักเธอเชิงชู้สาวครับ ”
พิมพยักหน้าทำท่าทางเข้าใจแล้วเอ่ย
” แบบนี้นี่เอง จะว่าไปเกิดเป็นคนรวยก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไปเน้อ
ชีวิตต้องเตรียมรับมือกับทุกสิ่งที่เข้ามาอยู่เสมอ
ต้องคอยระวังอยู่ตลอดเวลาว่ามีคนกำลังจ้องจะเล่นงานอย่างเงียบๆหรือเปล่า
คิดๆแล้ว น่าเหนื่อยใจจริงๆ ฉันคิดว่าบางทีที่บริษัทคุณเตชินมีปัญหาขึ้นมาอีก
อาจจะมีคนอยู่เบื้องหลังคอยกวนน้ำให้ขุ่นก็ได้คุณว่ามั้ย ”
ผู้ช่วยคังคิดวิเคราะห์ตามคำพูดของพิม
{ ก่อนหน้านี้โครงการใหม่ที่บริษัทก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
แต่หลังจากที่ข่าวของคุณชายถูกเผยแพร่ออกสื่อ
ก็สร้างความเสียหายให้ทั้งตัวคุณชายและบริษัท
และยังมีคนรู้เรื่องคุณชายมีภรรยาสองคนอีก แสดงว่า
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นคนในบ้านของคุณชายไม่ก็คนในบริษัทที่ใกล้ชิดกับคุณณัชชา }
ผู้ช่วยคังรู้สึกขอบคุณพิมมากที่ช่วยชี้ทางให้เขาสืบเรื่องนี้ในวงที่แคบลง
สำหรับพิม เธอมั่นใจว่าคนที่เธอเจอเป็นพนักงานในบริษัท
เพราะความตกใจในครั้งนี้เธอจึงจำเสียงผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในสมอง
เมื่อกลับมาถึงบ้าน พิมก็นั่งดูวีดีโอนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นั่งคิดอย่างหนักว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้ที่ไหน ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็ยังคิดไม่ออก แบตก็เริ่มหมด
เธอจึงลุกขึ้นเดินไปล้วงเอาสายชาร์จแบตในกระเป๋า
มือไปแตะโดนซองใส่เงิน เธอก็นึกขึ้นมาได้ทันที ว่าผู้หญิงที่เธอรู้สึกเหมือนเคยเจอที่ไหน
ก็คือผู้ช่วยของณัชชา เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงพึมพำออกมา
” งั้นก็แสดงว่า ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นวายทั้งหมด
ก็คือ ผู้ช่วยของคุณณัชชาน่ะสิ เราควรจะบอกเรื่องนี้ให้คุณคังรู้มั้ย
แต่ถ้าไม่บอกปัญหาที่บริษัทก็จะแก้ไขไม่ได้ ”
สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะส่งคลิปวีดีโอที่เธอถ่ายไว้ไปให้ผู้ช่วยคัง
พร้อมกับระบุข้อความว่า
( ผู้อยู่เบื้องหลังคือผู้ช่วยของคุณณัชชา )
เมื่อได้หลักฐานและข้อมูลทั้งหมด
ผู้ช่วยคังก็พาตำรวจเข้าไปจับกุมผู้ช่วยของ
ณัชชาที่บริษัททันที
เธอสารภาพผิดเพียงคนเดียว โดยที่ไม่ยอมบอกว่าใครเป็นผู้บงการ