พิมเอาข้าวไปให้เตชินเสร็จเธอก็เอ่ยว่า
” ฉันเอาข้าวมาส่งคุณแล้ว วันนี้ฉันมีธุระต้องออกไปข้างนอก ขอลางานหนึ่งวันนะคะ “
เตชินเงยหน้าขึ้นมามองเธอแล้วเอ่ย
” คุณจะไปไหน ให้ผู้ช่วยคังไปส่งสิ “
ได้ยินดังนั้นเธอก็รีบเอ่ยปฏิเสธทันที
” ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรียกรถเองได้ ฉันมีนัดกับเพื่อนที่ทำงานสายนี้ด้วยกัน วันนี้เป็นวันหยุดเขาพอดี เลยนัดเจอกันค่ะ “
สำหรับเธอแล้ว เธอจะให้คนอื่นมารู้เรื่องส่วนตัวของเธอไม่ได้
และยิ่งไม่ชอบให้คนอื่นมาละลาบละล้วงเรื่องของเธอแม้แต่นิดเดียว
เตชินทำท่าเข้าใจแล้วเอ่ย
” ผมจะให้คุณลาแค่วันเดียวนะ เย็นนี้กลับมาแล้วมารายงานตัวกับผมด้วย “
ได้ยินดังนั้นเธอรู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา
[ นี่มันแม่บ้านประเภทไหนกัน ต้องรายงานเวลาเข้าเวลาออก นี่มันทหารองครักษ์ชัดๆ ]
เธอพึมพำในใจแล้วเอ่ยตอบว่า
” ค่ะ เมื่อไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวค่ะ “
เอ่ยจบเธอก็เดินออกไปจากห้องของเตชิน
รถแท็กซี่ที่เธอเรียกก็มารอที่หน้าบริษัท
เมื่อลงไปถึงหน้าบริษัท เธอก็ขึ้นรถไป เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจ
สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข ที่เมื่อคืน อาจารย์
ป๊อบทักแชทมาหาเธอว่า
( พิม พรุ่งนี้คุณว่างมั้ย ผมเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เลยอยากชวนคุณไปดูหนังเป็นเพื่อนผมหน่อย )
เธอจึงพิมพ์แชทตอบไปว่า
( แล้วฟ้าใสไม่กลับมาด้วยเหรอคะ )
อาจารย์ป๊อบเลยตอบว่า
( ฟ้าใสไม่ได้กลับมาครับ )
( ผมขอเบอร์โทรพิมได้มั้ย )
เธอจึงตอบว่า
( ได้ค่ะ )
แล้วส่งเบอร์โทรไปให้อาจารย์ป๊อบทันที
อาจารย์ป๊อบโทรมาหาพิม เธอกดรับสายแล้วเอ่ย
” สวัสดีค่ะอาจารย์ “
อาจารย์ป๊อบเอ่ยขึ้น
” พรุ่งนี้คุณว่างมาเจอผมมั้ย ผมอยากเจอคุณ “
อาจารย์ป๊อบพูดออกมาตรงๆว่าอยากเจอพิม
ทำเอาพิมถึงกับแก้มแดงไปถึงใบหู
เมื่อคนที่เธอแอบชอบมาบอกว่าอยากเจอเธอ โอกาสดีๆที่จะได้เดทกันแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย
หากเธอปฏิเสธก็เท่ากับปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป เธอยิ้มแล้วเอ่ยตอบไปว่า
” ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะไปพบอาจารย์ “
แล้วทั้งสองก็นัดแนะเวลาสถานที่แล้วก็วางสายไป
พิมนั่งในรถคนเดียวสีหน้าดูอิ่มเอิบไปด้วยความสุข
อาจารย์ป๊อบนั่งรอพิมพ์หน้าโรงหนัง
เขาชอบพิมมานาน
แต่ไม่มีโอกาสสารภาพรักเลย เพราะพิมเป็นนักศึกษาของเขา
ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้คือ อดทนรอให้เธอเรียนจบ
แต่พอเธอเรียนจบ เขาก็ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก
เขารู้สึกไม่สบายใจเลยที่เห็นพิมเป็นแม่บ้าน
ที่บ้านของเตชิน
เขาไม่ไว้ใจเตชินกลัวเตชินจะชอบพิม
แล้วชิงตัดหน้าเขาไปหนึ่งก้าว
เมื่อพิมมาถึงก็เดินเข้าไปหาอาจารย์ที่นั่งหันหลังให้ แล้วเอ่ย
” อาจารย์รอนานมั้ยคะ “
ได้ยินเสียงคนที่เฝ้ารอ อาจารย์ป๊อบก็ลุกขึ้น
หันมามองพิมด้วยความดีใจแล้วเอ่ย
” ไม่นานเลย “
จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า
” พิม คุณอย่าเรียกผมว่าอาจารย์อีกเลย เรียกผมว่าพี่หรือป๊อบเฉยๆดีกว่านะ เพราะผมไม่ใช่อาจารย์ของคุณแล้ว “
ได้ยินดังนั้น ลึกๆแล้วเธอดีใจจนเนื้อเต้น เธอยิ้มแล้วเอ่ยตอบว่า
” ได้ค่ะ “
ป๊อบเลยเอ่ยต่อว่า
” ไหนลองเรียก พี่ป๊อบหรือป๊อบเฉยๆซิ “
พิมเขินจนเผลอเอาผมทัดใบหู แล้วเอ่ยเรียก
” พี่ พี่ป๊อบ “
ป๊อบดีใจและมีความสุข ที่สถานะของพวกเขาเปลี่ยนไปอีกขั้นแล้ว
จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้น
” หนังจะเริ่มฉายแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ “
” ค่ะ “
แล้วเขาก็ยื่นมือมาจับมือพิมไว้เดินจูงมือเธอเข้าไปในโรงหนัง
พิมมองไปยังมือของตัวเองที่ถูกมือใหญ่กุมเอาไว้แน่นอย่างมีความสุข
ราวกับฝันไป ไม่คิดว่าวันหนึ่ง เธอกับอาจารย์จะได้จูงมือกันไปดูหนังด้วยกันแบบนี้
[ ถึงตายก็นอนตายตาหลับแล้ว ]
เธอแอบพึมพำในใจเบาๆ สำหรับเธอในโลกใบนี้ จะมีสักกี่คน ที่สมหวังกับคนที่แอบชอบมานาน
ทั้งสองนั่งดูหนังกันอย่างเงียบๆ พอหนังจบพวกเขาก็เดินออกมาจากโรงหนัง
ป๊อบจึงหันมาถามพิมว่า
” เย็นแล้วเราไปหาอะไรทานกันดีมั้ย “
พิมพยักหน้า ป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า
” คุณอยากทานอะไร “
เธอคิดว่า กว่าเธอจะมีโอกาสได้อยู่กับคนที่แอบชอบ เธอก็อยากจะอยู่กับเขานานๆ
เธอจึงเอ่ยขึ้น
” งั้นเราไปกินชาบูมั้ยคะ “
” เอาสิขอแค่คุณอยากกิน ผมกินได้หมด “
แล้วทั้งสองก็เดินไปที่ร้านชาบู นั่งทานชาบูกันอย่างเอร็ดอร่อย
พอทานเสร็จพวกเขาก็เดินเล่นต่อ เพื่อให้อาหารที่ทานเข้าไปได้ย่อย
เมื่อรู้สึกว่าดึกมากแล้วพิมจึงเอ่ยขึ้น
” เอ่อ พี่ป๊อบ นี่ก็ดึกมากแล้วฉันว่าฉันกลับก่อนดีกว่าค่ะ “
ป๊อบจึงเอ่ยขึ้น
” ให้ผมไปส่งนะ “
ความจริงเธอก็อยากให้เขาไปส่ง แต่เธอกลัว
เตชินจะรู้ จึงเอ่ยปฏิเสธไป
” ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรียกแท็กซี่ดีกว่า “
ได้ยินดังนั้น ป๊อบก็ยิ่งเป็นห่วง จึงเอ่ยขึ้น
” ให้ผมไปส่งเถอะ นะครับ ผมสัญญาจะไม่ทำให้คุณลำบากใจ
อีกอย่างคุณเป็นผู้หญิงดึกๆนั่งแท็กซี่กลับไปคนเดียวอันตราย “
เธอคิดว่าที่เขาพูดก็ถูก เธอจึงเอ่ยตอบไปว่า
” งั้น ให้คุณไปส่งก็ได้ค่ะ “
เมื่อเธอยอมให้เขาไปส่ง ป๊อบยิ้มแล้วทำท่าเชิญให้พิมเดินไปที่รถของเขา
จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอเข้าไปในรถ
พอเธอเข้าไปนั่งเรียบร้อย เขาก็ปิดประตูให้เธอ แล้วเดินอ้อมไปหน้ารถ ไปเปิดประตูฝั่งคนขับ
เข้ามานั่งข้างใน แล้วขับรถออกไปทันที
ระหว่างทางเขาจึงหันมาคุยกับเธอว่า
” พิมคุณเหนื่อยมั้ย ที่ทำงาน บ้านคุณเตชิน “
เธอจึงตอบไปว่า
” สำหรับพิมเฉยๆค่ะ เพราะไม่มีงานไหนไม่เหนื่อยหรอกค่ะ “
เขาจึงเอ่ยถามต่อว่า
” แล้วคุณเตชินล่ะ ดีกับคุณมั้ย “
เธอจึงตอบไปตามความรู้สึกว่า
” ก็ถือว่าดีในระดับเจ้านายกับลูกจ้างค่ะ “
ได้ยินแบบนี้แล้วเขาก็รู้สึกโล่งอกไปนิดแล้วเอ่ย
” เช่นนั้นก็ดีแล้ว “
เขาเองก็อยากจะเสนอให้พิมพ์มาอยู่บ้านเขา
เพื่อที่เขาจะได้เจอเธอทุกครั้งที่กลับมาและจะได้ดูแลเธอด้วย
แต่จะให้เธอมาอยู่ในฐานะอะไรล่ะ แฟนก็ยังไม่เคยขอ
ให้มาอยู่ในฐานะแม่บ้านอย่างเตชินก็กลัวจะดูเป็นการดูถูกเธอเกินไป
อาจจะเป็นการทำร้ายจิตใจเธอก็ได้ ดังนั้นเขาจึงเงียบไว้
เพราะด้วยนิสัยเธอต่อให้เป็นแฟนกัน เธอก็คงไม่มาอยู่บ้านเขาง่ายๆ
แต่ยิ่งเธออยู่ใกล้เตชิน หนุ่มสาวอยู่บ้านหลังเดียวกันตามลำพัง
เขาก็ไม่ไว้ใจเตชิน เพราะพิมเป็นคนสวยน่ารัก
ดูมีค่ากว่าผู้หญิงนมโตเซ็กซี่ที่เตชินเคยควง
เขาคิดว่าวันนี้เขาจะสารภาพรักและขอเธอเป็นแฟนให้สำเร็จ
ที่เขากล้าที่จะเสี่ยงสารภาพรักกับเธอก็
เพราะสัญชาตญาณมันบอกว่า
พิมเองก็มีใจให้เขา แต่เพราะเขากลัวพิมจะเปลี่ยนใจไปหวั่นไหวกับเตชิน
จึงอยากขอเธอเป็นแฟน
เมื่อรถของป๊อบเข้าไปจอดหน้าบ้านของเตชิน พิมจึงหันมาเอ่ยกับเขาว่า
” ขอบคุณนะคะที่มาส่ง “
แล้วเธอก็หันไปเพื่อเปิดประตูลงจากรถ
แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูป๊อบก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ย
” พิม “
เธอมองเขาแล้วเอ่ยขึ้น
” คะ? “
ป๊อบรวบรวมความกล้าและรวบรวมความรู้สึกที่มีพูดออกไป
” ผมรักคุณ “
ได้ยินดังนั้น พิมถึงกับอึ้งไป หัวใจของเธอพอโตขึ้นมา จนเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
เธอตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง ควรจะตอบแบบไหน ได้แต่แอบพึมพำในใจ
[ เราไม่ได้ฝันไปอีกแล้วใช่มั้ย เขากำลังสารภาพรักกับเราอยู่ใช่มั้ย ]
แล้วป๊อบก็เอ่ยต่อว่า
” ผมชอบคุณมานานแล้ว ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในคลาส
ผมเฝ้ามองคุณอยู่ห่างๆมาตลอด รอวันที่คุณเรียนจบ เพื่อสารภาพกับคุณ ขอคุณเป็นแฟน
ผมจริงใจและจริงจังกับคุณนะพิม คุณยินดีคบผมเป็นแฟนมั้ย “
พิมอ้ำอึ้งอยู่นานเพราะคิดไม่ออก ไม่รู้จะตอบเขายังไงให้ตัวเองดูดี
ป๊อบไม่อยากทำให้เธอลำบากใจเขา ยิ้มแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าผิดหวังหน่อยๆ
” ผมรู้ว่ามันเร็วเกินไปสำหรับคุณ ผมให้เวลาคุณสองวัน แล้วค่อยมาให้คำตอบผมนะ “
ได้ยินแบบนี้ พิมก็เอ่ยถามขึ้นว่า
” แล้วคุณกับฟ้าใสล่ะคะ “
เขายิ้มแล้วเอ่ย
” เพราะเรื่องนี้เหรอ คุณถึงลังเลที่จะตอบ “
พิมพยักหน้าเบาๆ
เพราะเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญทีเดียว
เมื่อเห็นคนตรงหน้าพยักหน้า เขาจึงเอ่ยว่า
” ฟ้าใสเป็นลูกพี่ลูกน้องผม เธอเป็นคนเอาแต่ใจ จะไปเรียนเชียงใหม่ให้ได้
แม่เขาเป็นห่วงเลยขอให้ผมตามไปดูแล
ผมจึงเข้าสมัครเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยคุณ จนได้พบกับคุณ “
เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเอ่ยเพียงค่ะ
” ค่ะ “
แต่ความจริงเธอโคตรดีใจ ที่ทั้งสองเป็นแค่ญาติกัน
” ทีนี้ คุณจะให้คำตอบผมได้หรือยัง “
บนบ้าน เตชินมองดูกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน
เห็นรถหรูคันหนึ่ง
มาจอดหน้าบ้านเขานานแล้ว ไม่ยอมไปสักที
เขารู้สึกเป็นห่วงพิมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
โทรไปหาเธอ
พิมกำลังจะตอบตกลงเป็นแฟนกับอาจารย์
ที่เธอแอบชอบมานาน
แต่โทรศัพท์ในกระเป๋าเธอก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ ทำเอาเธอถึงกับสะดุ้ง
แล้วรีบรับสายแล้วเอ่ยเพียง
” ค่ะ “
เธอโมโหมากที่เขาชอบมาขัดจังหวะในตอนที่เธอกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มตลอด
เตชินจึงเอ่ยถามว่า
” คุณอยู่ไหน นี่ดึกมากแล้ว ทำไมยังไม่กลับมาอีก “
เธอจึงตอบไปว่า
” ฉันกลับมาแล้วค่ะ “
แล้วเตชินก็เอ่ยต่อว่า
” กลับมาแล้วก็ดี ผมให้เวลาคุณห้านาที ในการมารายงานตัวต่อหน้าผม “
” ค่ะ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ “
เธอพูดจบ เตชินก็วางสายไป เธอจึงหันมามอง
ป๊อบแล้วเอ่ย
” ฉันต้องรีบไปรายงานตัวแล้ว ฉันไปก่อนนะคะ ไว้จะมาให้คำตอบคุณทีหลัง ขับรถกลับดีค่ะ “
เธอไม่มีเวลาคุยกับเขาต่อ เมื่อลากันเสร็จ เธอก็รีบเปิดประตูลงจากรถ
แล้ววิ่งไปเปิดประตูเข้าบ้านไป