ผมกำลังนั้งรถม้าขณะนี้ผมได้ออกมาจากหมู่บ้านมาได้2วันแล้ว บรรยากาศน่าคิดถึงชะมัดไม่ได้นั้งรถม้า ชมวิวแบบนี้มานานแค่ไหนกันนะ
ในที่สุดหน้าที่ผมก็จบอย่างเป็นทางการซักที แม้ตอนออกมาพวกนั้นจะตามมาเกาะแกะก็เถอะ แต่สุดท้ายผมก็หลุดมาจนได้ ในที่สุดผมก็จะได้กลับมาใช้ชื่อแกรนซักที พอกลับไปเมืองแล้วต้องหาเงินเพิ่มสินะ
ถึงพวกนั้นจะให้เงินมาใช้บ้างนึดหน่อยก็เถอะ แต่แบบนี้มันก็ไม่พออยู่ดี สำหรับรายจ่าย2คน เงินนี้เรียกได้ว่าแทบจะติดลบเงินเก็บเองก็เหลือน้อยแล้วด้วย ถึงเมืองแล้วต้องขยันทำงานหน่อยแล้วละ
“นี้..พ่อหนุ่มหน้าบากเป็นนักผจญภัคใช่มั้ย”
คุณดัสที่เป็นเจ้าของรถม้าที่ผมขอติดรถมาพูดขึ้นหลังจากเงียบมาเป็น ชม. โอ๊ะ นี้เราดูเหมือนนักผจญภัคจนคนอื่นดูออกเลยเหรอเนี้ย ชักสกสัยในความเท่ของตัวเองนึดๆ แล้วแหะ
“ใช่ครับถึงจะอยู่แร๊งGมาปีกว่าๆแล้วก็เถอะนะ ฮ่าๆ”
“ละ..แล้วพอสู้พวกโคบอลด์ได้รึเปล่าละ”
“ถ้ามาแค่ประมาณ4-5ตัวผมก็เอาอยู่หรอกครับ แต่เกินนั้นก็ไม่ไหวหรอกก็ผมนะแค่แร๊งGเองนี้น่า สกิลดาบเองก็ไม่มีกับเขาด้วยสิ”
ก็รอบที่แล้วผมก็ลองไปเช็คสกิลในสมุดดูแล้วละนะ ผมมีแต่สกิลเกี่ยวกับบวกค่าพลังเวทกับสกิลแรร์ซ่อนกลิ่นเหมือนเดิมที่ตรวจที่โรงเรียนเวทมนต์เดะๆ แต่ผมก็ยังมีท่าไม้ตายลับอย่างดาบไฟอยู่นะ เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอก
“พ่อหนุ่ม…ข้ามีข่าวร้าวจะบอก เราโดนฝูงโคบอลท์ประมาณ20กว่าตัวดักอยู่นะ!!”
“เลี้ยวหัวกลับให้ไวเลย!!!”
ผมตะโกนใส่คุณดัสที่คุมบังเหียนอยู่ ผมสู้ไม่ไหวหรอก!! ถึงพวกนั้นจะกากๆก็เถอะ แต่หากโดนรุมละก็เละแหงๆ แม้มันจะมีแค่ท่อนไม้โง่ๆ ท่าโดนรุมตีมันก็เจ็บใช่ย่อย!! แถมพวกมันยังมีเขี้ยวเล็บอีกนั้นแหละที่น่ากลัวกว่าไม้ในมือพวกมัน พลาดขึ้นมาโดนรุมกัดขึ้นมาก็ตายเหมือนในข่าวที่หมารุมกัดคนตายนั้นแหละ สภาพไม่ต่างกันเลย
“จริงๆข้าก็อยากทำตามที่พ่อหนุ่มสั้งอยู่หรอกนะ แต่ด้านหลังเองก็เหมือนจะโดนพวกก็อบลินดักด้วยนะสิ…เอาไงดีละ”
เมื่อผมลองหันไปผมก็เห็นฝูงก็อบลินที่มีพอๆ กับโคบอลด์ช่วยกันแบกท่อนไม้ขนาดใหญ่พอที่พวกมันจะแบกไหวมาปิดทางไว้
เชี่ยละ!! พวกมันร่วมมือกันปล้นเหรอเนี้ย!! แบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนี้หว่า!! ทำไมช่วงนี้มันมีแต่อะไรแปลกๆฟะ รอบที่แล้วก็พวกหมาป่า แล้วแบบนี้จะเอาอะไรไปสู้ได้ละวะ!! อาวุธก็มีดาบสั้นกับมีดที่เก็บไว้แล่เนื้อเท่านั้นเองด้วย แถมพวกก็อบลินเองมันก็ใช้อาวุษอย่างธนูเป็นด้วย!! สู้ไม่ได้แหงๆ!!
“แกรน ขอดาบ”
ก้าก้าที่นิ่งเงียบมาตลอดทางพูดขึ้นในขณะที่ผมกำลังจมอยู่ในความสิ้นหวัง ท่าแพ้ละก็ก้าก้าโดนจับไปเป็นแม่พันธ์แหงๆ ส่วนผมก็โดนจับไปทำเป็นบาบีคิวให้พวกก็อบลินกิน พวกนั้นไม่สนเด็กผู้หญิงที่ท้องไม่ได้อย่างผมหรอกนะ!! แต่ว่าเธอก็เป็นนักรบนี้หว่า!!! บางทีอาจจะไหวก็ได้
“เอาไปใช้ได้เลย!!”
ผมยื่นดาบให้ก้าก้าเธอก็ชักดาบของผมออกมาดูและพลิกไปพลิกมา ราวกับจะหาตำหนิของมัน
“ช่างเถอะ ใช้เล็บ ก็ได้”
“ห๊า??”
เธอโยนดาบกลับมาให้ผมและเดินไปยืนข้างๆ คุณดัส หลังจากนั้นเธอก็โบกมือ1ครั้งเหมือนข่วนอะไรสักอย่างในอากาศ พิธีกรรมขับไล่แบบใหม่เหรอ?
ชิบบบบ!!!!
พวกโคบอลด์ทั้งหมดที่อยู่ด้านหน้านั้นถูกตัดออกเป็น5ส่วน ตามแนวของนิ้วมือทั้ง 5 เลือดฟุ่งกระจายเต็มถนน พวกที่เหลือเหลือรอดเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองดับสยองก็วิ่งแตกกระจายไปคนละทิศคนทาง และก็อบลินเองเมื่อเห็นว่าสูงไม่ได้ก็ถอยกลับเข้าไปในป่าด้านข้างทันที
จริงๆผมก็พอรู้ว่าเธอเป็นนักสู้นะ แต่ไม่นึกว่าจะเก่งขนาดนี้!! นั้นมันอะไรกันวะ กรงเล็บผ่าอากาศเหรอ!! สุดยอดชิบ!!
“สุดยอด…คุณหนูเป็นใครกันแน่เนี้ย!! ทำไมถึงเก่งได้ขนาดนี้ละ?”
“ภรรยา ของแกรน”
“ระ..เหรอ”
“อืม..”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และกลับมานั้งกอดเข่าข้างๆผมต่อ ที่เธอยอมเรียกผมว่าแกรนเพราะผมกำชับเอาไว้ว่าห้ามเรียกผมว่า มีเรีย เด็ดขาด ในตอนแรกเธอเองก็เหมือนจะทำหน้างงๆ แต่เธอก็ยอมทำตามแต่โดยดี
“เอ่อ… ทำไมถึงไม่ใช้ดาบเหรอ?”
นั้นคือคำถามที่ผมสกสัย เธอเลือกจะใช้เล็บของตัวเองมากกว่าดาบของผมเฉยเลย
“ดาบของแกรน ฟันครั้งเดียว พัง ใช้เล็บดีกว่า”
“ดาบที่อุส่าซื้อมาตั้ง30เหรียญเงินมันกากกว่าเล็บของเธออีกเหรอเนี้ย!! มันเป็นไปได้ที่ไหนละ!!!!”
ผมโวยวายใส่ก้าก้าที่นั้งอยู่ข้างๆ ก็รู้อยู่หรอกมันไม่ใช่ของดีอะไรมากมายก็จริง แต่นี้มันเหล็กนะเฮ้ย!! มันจะไปก็ต้องแข็งกว่าเล็บเธอสิฟะ!! ตั้ง30 เหรียญเงินนะเฟ้ย!! 30เหรียญเงินเชียวนะ!!
“เล็บก้าก้า ตัดดาบ ขาดได้ แต่ดาบ ของแกรน ตัดเล็บ ก้าก้าไม่ได้ เลยอ่อนแอกว่า”
“….”
“อยากดู ไหม?”
“ไม่เป็นไร ขอบใจ..”
ผมเข้าใจสถานะตัวเองดียิ่งกว่าเดิม… ผมอ่อนแอเชี่ยๆเมื่อเทียบกับเธอและพวกภูติดำขนาดดาบที่ดีที่สุดของผมนั้นยังไม่อาจเทียบได้กับเล็บของเธอได้เลย แร๊งGก็ยังเป็นแร๊งGอยู่วันยังค่ำสินะ…
.
.
.
ในที่สุดหลังจากผ่านมา3วันผมก็กลับมาที่เมืองแกลนี่ได้แล้ว ระหว่างทางนั้นก็เจอพวกมอนสเตอร์โผล่มาบ้างแต่ก็เจอเล็บพิฆาตของก้าก้า หั่นทิ้งหมด เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่ราบลื่นโคตรๆ แถมก้าก้านั้นเธอเป็นคนเฝ้ายามทุกคืนแล้วไปหลับบนรถเอาอีกที พอปลุกเธอก็จะตื่นทันทีมาสู้ทันทีโดยที่ไม่มีอาการงัวเงี้ยเลยสักนึด สมกับเป็นเผ่านักรบจริงๆ เอาซะผมไม่มีบทบาทเลยสักนึด
“คุณหนูรับเงินนี้ไว้นะ ถือว่าเป็นค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆที่ช่วยมาตลอด3วันนี้”
คุณดัสยื่นเงินให้เป็นจำนวน 15 เหรียญเงินมาให้เป็นการตอบแทนทาช่วย ส่วนผมนะเหรอ? เขาไม่เก็บค่าอาหารและค่าเดินทางให้เพราะถือว่าเป็นคนติดตามของก้าก้า น่าสมเพชชะมัดอยากจะร้องไห้ให้กับควาทอ่อนแอของตัวเองจริงๆ
“งั้นข้าขอตัวก่อนละ เผอิญมีธุระที่เมืองนี้ด้วยดูแลเมียให้ดีๆละ พ่อหนุ่ม”
“ครับ..”
คุณดัสจากไปพร้อมกับรถม้าของเขาที่ขนถังไม้มา2-3ถัง ผมเองก็โบกมือลาเขาแบบเงียบๆ เอาเถอะ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เดินทางฟรีไม่ต้องเสียเงิน แม้จะเสียศักดิ์ศรีและความมั่นใจไปนึดหน่อยก็เถอะ..
“ให้”
เธอยื่นเงินที่ได้รับจากคุณดัสมาให้ผม
“เก็บไว้ซื้อของที่ชอบเถอะ ไม่ต้องมาให้ฉันหรอกนะ”
“แกรน ชอบบ่น ต้องการ เงิน”
“ไอ้ต้องการมันก็ต้องการอยู่หรอก.. แต่แบบนี้ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก มันเป็นค่าแรงของเธอนะ อยู่ที่นี้ใช้เงินเยอะกว่าอยู่ที่หมู่บ้านตั้งเยอะนะ”
“ก็อยากให้ แกรน ดีใจ ไม่ได้เหรอ?”
“ก็เข้าใจอยู่ว่าอยากเอาใจฉันนะ แต่เงินแบบนี้ฉันไม่ดีใจหรอก นี้คือค่าตอบแทนที่คุณดัสจ่ายให้เธอไม่ใช่ฉัน”
“แต่ ก้าก้า อยากให้–“
“พูดไม่ได้รู้เรื่องรึไงวะ!!! ก็บอกว่าไม่ต้องการไง!!”
“แกรน..”
“อ๊ะ..”
ก้าก้าทำหน้าเศร้าเหมือนกับเด็กที่ถูกพ่อแม่ดุ ทำไมผมต้องตะโกนใส่เธอกันนะ.. ผมหงุดหงิดเรื่องอะไร? ผมไม่เข้าใจเลยสักนึด นี้ผมทำบ้าอะไรอยู่เนี้ยตัวผม เธอก็แค่อยากให้ผมดีใจไม่ใช่เหรอไง ผมก็ควรดีใจสิ เธออุส่าให้เงินที่พึ่งได้รับมาเลยนะ
“ขอโทษทีนะเผอิญช่วงนี้ฉันเครียดๆ ไปหน่อยนะ หวังว่าจะไม่โกรธกันนะ”
“ไม่เป็นไร ก้าก้า ไม่โกรธ”
“ขอบคุณมากจริงๆ งั้นเราไปที่โรงแรม[วัวนอน]ดีกว่าเธอเคยบอกว่าอยากเห็นคุณเชลลี่ใช่มั้ยละ งั้นเราไปกันเถอะ”
“อืม”
เธอเดินตามผมโดยที่ไม่พูดอะไรมากนักเหมือนอย่างเคย
ตอนนี้รู้สึกมันมีบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจผม มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดแบบแปลกๆ ผมต้องการจะรู้ว่าไอ้ความรู้สึกนี้มันคืออะไรเหมือนกัน แต่คำตอบมันคงไม่ปรากฏเร็ว ๆ นี้หรอกละมั้ง