ต้นชูการ์เมเปิลบนเขากับที่ฟาร์มปลาไม่เหมือนกัน ต้นที่ฟาร์มปลาจะมีคนงานมาเก็บน้ำเลี้ยงต้นชูการ์เมเปิลทุกปี เปลือกไม้ของลำต้นจึงพอดีไม่มีหลุดหยดออกมา แต่ต้นบนเขาต้องกำจัดน้ำเลี้ยงที่มีน้ำตาลเข้มข้นด้วยตัวเองผ่านช่องทางต่างๆ จนเปลือกไม้แทบระเบิด
แม้จะมีท่อนำการไหลของน้ำเลี้ยงแต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไหลออกมาจากรอยแตกของเปลือกไม้ ฉงต้าเลยดีใจมาก มันเดินต้วมเตี้ยมรอบต้นสองรอบหารอยแตกที่ใหญ่ที่สุด แล้วแลบลิ้นเลีย
ฉินสือโอวรู้สึกว่าเปลือกไม้น่าจะสกปรกไปหน่อย วินนี่กลับส่ายบอกว่า “ปล่อยมันไปเถอะ ไม่ต้องไปเอาใจพวกมันมาก ให้มันได้อยู่ตามธรรมชาติดีกว่า จะได้มีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติเยอะๆ”
เออร์บักที่พักผ่อนอยู่อีกด้านหนึ่งพยักหน้า “วินนี่พูดถูกแล้ว”
วินนี่พาพวกมันไปคลุกคลีกับธรรมชาติให้มากที่สุด หู่จือเป้าจือขอแค่อยู่นอกบ้านจะกลิ้งบนโคลนน้ำหิมะยังไงก็ได้ ปอหลัวสามารถทำตัวดิบเถื่อนบนเขาได้เต็มที่ กระรอกดินขุดหลุมได้ตามสบาย แมวป่าไปซ่อนบนต้นไม้ล่านกที่เกาะอยู่
มีแค่ช่วงเย็นตอนกลับไปนอนวิลล่า วินนี่ถึงจะอาบน้ำให้พวกมันจนสะอาด เป็นแบบนี้ทุกวันซ้ำๆ ไม่ขาด
เชอร์ลี่ย์กางผ้าปูปิกนิกบนพื้นที่ราบที่เจอและวางเมลอนซึ่งห่อไว้อย่างแน่นหนาด้านบน ซิมบ้าและหลัวปอมานั่งประกบซ้ายขวาด้วย แต่พวกมันรู้สึกว่าตำแหน่งไม่ค่อยสบายเท่าไร จึงงึมงำเปลี่ยนท่าเล็กน้อย ซิมบ้าปล่อยให้เชอร์ลี่ย์ยื่นมือมาลูบหัวและดึงเข้าไปกอดในอ้อมแขน
การเก็บเกี่ยวน้ำเลี้ยงต้นไม้แต่ละถังเป็นไปอย่างรวดเร็ว ฉินสือโอวลองทดสอบความเหนียว รู้สึกว่ามันเหนียวหนึบยิ่งกว่าต้นชูการ์เมเปิลที่วิลล่าเสียอีก พอดูดชิมดูก็พบว่าขนาดความหวานก็ยังมากกว่า อาจเพราะต้นบนเขาสะสมน้ำตาลมาหลายปีก็ได้
ฉงต้าเลียสักพักก็วิ่งกลับมาอย่างสุขใจ ขนบนหน้าตุ้ยนุ้ยเหนียวติดกัน อุ้งเท้าชุ่มโชก มันกลับมานั่งเลียอุ้งเท้าเองโดยไม่ต้องสอน ทั้งหน้าตุ้ยนุ้ยเต็มไปด้วยความสุข
ต้าป๋ายค่อยๆ มุดไปตามต้นไม้ มันใช้ความสามารถของพอสซัมอเมริกาเหนือปีนขึ้นลงต้นไม้สองสามต้น กระทั่งเจอเสบียงถั่วเม็ดสนของกระรอกตัวหนึ่งเข้า อุ้งเท้าเล็กๆ หยิบยัดใส่ปากเก็บไว้เหมือนหนูแฮมสเตอร์ ปีนลงมาแล้วคายให้ฉงต้า
ฉงต้ากินถั่วเม็ดสนกรุบๆ พลางยื่นอุ้งเท้าไปให้ต้าป๋าย ต้าป๋ายลองเลียดูก็ส่ายหน้ากลับไปในบ้านมีแต่ของเล็กๆ หวานเลี่ยนที่ฉงต้าชอบกิน
หลังเก็บถังพลาสติกที่เต็มแล้ว วินนี่เอาถังเล็กทั้งหมดไปวางใต้ต้นไม้ ค่อยให้ชาวประมงขึ้นมาเก็บ ลำพังแค่พวกเขาไม่สามารถนำน้ำเชื่อมเมเปิลพวกนี้ลงไปได้ ถังใบหนึ่งจุได้ 2.5 ลิตร แต่พวกเขาเอาขึ้นมาห้าสิบกว่าถัง
เมื่อเห็นน้ำเลี้ยงต้นไม้เต็มถังฉงต้าก็มีความสุขมาก ตอนฉินสือโอวเรียกมันให้ไปได้แล้ว มันก็ร้องอย่างอาลัยอาวรณ์ สุดท้ายไม่มีทางเลือกพอเห็นทุกคนเดินไปไกลแล้ว มันก็จงใจฉี่ใส่รอบๆ ถังเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีสัตว์ป่ามายุ่งกับน้ำเชื่อมของมัน
นี่คือน้ำเชื่อมเมเปิลของฉงต้า ห้ามใครแตะ
ลมภูเขาพัดผ่าน ดวงอาทิตย์บนยอดเขาสาดความร้อน เมื่อปีนมาถึงไหล่เขาฉินสือโอวก็เริ่มถอดเสื้อขณะที่กอร์ดอนถอดเสื้อนอกไปก่อนแล้ว ใส่แค่เสื้อยืดแขนสั้น เต็มเปี่ยมด้วยพลังของคนวัยเยาว์
เออร์บักมองความมีชีวิตชีวาของเด็กๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขารู้สึกว่าอายุตัวเองก็ไม่น้อยแต่กลับเดินขึ้นเขาได้อย่างคล่องแคล่ว
ฉินสือโอวเลือกพื้นที่โล่งบนไหล่เขาตั้งเตาแก๊สพกพากับหม้อเตรียมทำอาหาร ได้เวลาเจ้าพวกเด็กๆ จะแสดงฝีมือตัวเองกันแล้ว
หู่จือและเป้าจือออกโจมตี ค้นหาไก่ฟ้า กระต่ายป่า ฉงต้าก็ไปหาเหยื่อกับต้าป๋าย ซิมบ้าปีนต้นไม้กระโดดไปตามก้อนหินหารังนกแล้วเอาไข่นกมา และปอหลัวค้นหาเบอร์รีที่ถูกรักษาสภาพไว้ด้วยฤดูหนาว
บุชนั้นดุเดือดที่สุด บินจับลูกกวางหางขาวตัวหนึ่ง กวางหางขาวตัวนี้เพิ่งเกิดได้ไม่นาน ขนบนตัวยังไม่ทันขึ้นเต็มที่เลย แถมเพิ่งจะยืนขึ้นวิ่งเป็นด้วย
พอโดนอินทรีจับเช่นนั้น กวางน้อยก็ตายทันที ฉินสือโอวไม่อยากล่าสัตว์ป่าขนาดใหญ่ เพราะปริมาณการกินของพวกเขามีจำกัด และยังมีแฮมเบอร์เกอร์กับติ่มซำที่เอามาเองอีก ทำให้กินได้ไม่เยอะ สัตว์ตัวใหญ่อย่างหมูป่า กวางป่าจึงเป็นการสิ้นเปลืองเปล่าๆ
แต่กระดูกสันหลังของกวางโดนจับไว้จนแทบหักแล้ว ไม่มีทางรอดแน่ ฉินสือโอวจำต้องยิงธนูใส่มัน เพื่อให้มันไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป
เพิ่งจัดการลูกกวางไป ฉงต้าก็กลับมาพร้อมคาบลูกหมูป่าขนาดกลางอีก!
ฉินสือโอวเริ่มมึน เจ้าเด็กพวกนี้กำลังแข่งกันล่าเหยื่ออยู่หรือไง? กระต่ายป่ากับไก่ฟ้าก็พอแล้ว ใครจะไปจัดการกวางกับหมูป่าไหวกัน?
ลูกหมูป่านั้นน่าอนาถยิ่งกว่า ฉงต้าใช้อุ้งเท้าตบหัวมันทีเดียวแตก เจ้าตัวนี้จึงตายทันที
ฉินสือโอวได้แต่ต้องถลกหนังกวางหางขาวกับหมูป่า และนำเนื้อมาหั่นเป็นชิ้นๆ ระหว่างนั้นหู่จือกับเป้าจือก็ไปล่าพวกกระต่ายป่ากับไก่ฟ้ามาอีกโดยไม่จำเป็น ซึ่งพวกเขากินไม่หมดกันแน่นอน
ซุบตุ๋นไก่ฟ้าเฮเซลสองตัว กระต่ายป่ากับเป็ดเอาไปย่าง ส่วนเนื้อหมูป่ากับเนื้อกวางทำเป็นเนื้อนึ่ง สามารถกินกับเบอร์เกอร์ได้ รสชาติไม่เลวเลย
ขณะจวนจะเตรียมอาหารเสร็จแล้ว หู่จือเป้าจือที่นั่งเงียบๆ ข้างฉินสือโอวจู่ๆ ก็ผุดลุกขึ้น หูพวกมันกระดิกไปมา จ้องไปด้านหลังอย่างระแวดระวังพร้อมคำรามเสียงดัง “โฮ่งๆๆๆ! บรู๋ว!”
ตอนทั้งสองตัวเห่าฉินสือโอวยังไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งพวกมันส่งเสียงหอน เขาถึงรู้ว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่ ขนาดทำให้หู่จือเป้าจือเปลี่ยนไปส่งเสียงแบบนั้น แสดงว่ากำลังมีอันตรายเข้ามา
เขารีบหยิบธนูคอมพาวด์ ส่งสัญญาณให้วินนี่และพวกเชอร์ลี่ย์มาอยู่ข้างๆ ตัวเขา
พวกเด็กๆ มารวมพลกัน ทันทีที่หู่จือเป้าจือเรียก ฉงต้าก็รีบลุกขึ้น ปอหลัวพ่นลมหายใจฟืดฟาดเพิ่มความแข็งแรงและพละกำลังให้เขา หลัวปอและซิมบ้าตามมาสมทบทีหลังท่าทางดูระมัดระวังไม่ต่างกัน
แคลร์น้อยเข้ามาแจมอยากลุยด้วย ฉินสือโอวจับมันโยนไปทางกอร์ดอน ปรากฏว่าเจ้าเด็กน้อยโมโหจนร้องแกว๊กๆ พร้อมกระพือปีก ท่าทางอยากไปช่วยสู้ด้วย
ร่างใหญ่หลายร่างค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงชายป่า ใจฉินสือโอวพลันหนักอึ้งทันทีที่เห็น เป็นฝูงหมูป่า ทุกตัวน่าจะราวสองสามร้อยกิโลกรัมหรืออาจมากกว่านั้น!
สำหรับหมูป่า หากมันหนักถึงสองสามร้อยกิโลกรัมก็แทบไม่ต่างจากวัวขนาดเล็กเลย เขี้ยวพวกมันสูงยาว กล้ามเนื้อบนร่างเป็นมัด พอมาเป็นฝูงอย่างนี้ความกดดันยิ่งทรงพลัง
แต่พวกหู่เป้าฉงหลัวไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย พวกมันกระจายตัวเป็นครึ่งวงกลมโดยมีฉงต้าอยู่ตรงกลาง คอยปกป้องพวกฉินสือโอวที่อยู่ข้างหลัง แล้วจ้องคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองด้วยความดุร้าย สะสมพลังเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะ
ฉินสือโอวลองนับ มีหมูป่าทั้งหมดห้าตัว นับว่าไม่มาก แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับพวกนี้ ก็ยังน่ากลัวอยู่ดี
หมูป่าห้าตัวหนักสองร้อยกว่ากิโลกรัมมากกว่าหนึ่งตัน ถ้าโดนพุ่งชนขึ้นมา แรงกระแทกอันรุนแรงเพียงพอจะทำให้คนกลุ่มหนึ่งจุกจนขยับไปไหนไม่ได้
…………………………………………………………
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1079 การแก้แค้นของหมูป่า
Posted by ? Views, Released on November 8, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!